เทศบาลเมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี เคยสร้างชื่อจากการย้ายระบบมาใช้ลินุกซ์เมื่อหลายปีก่อน และเป็นต้นแบบของการใช้งานโอเพนซอร์สในภาครัฐ
อย่างไรก็ตาม มิวนิคกำลังจะย้ายกลับมาใช้ Windows 10 โดยมีเป้าหมายว่าจะต้องย้ายเสร็จในปี 2020
เหตุผลสำคัญมาจากผู้ใช้งานต้องการซอฟต์แวร์บางตัวที่มีเฉพาะบนวินโดวส์เท่านั้น ถึงแม้ทางทีมงานจะหาวิธีแก้ไข (workaround) แต่ก็ไม่สามารถใช้งานได้ทุกกรณี และไม่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป ทางสภาเทศบาลจึงเตรียมโหวตอนุมัติแผนการย้ายกลับมาใช้ Windows 10 ในวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้
ปัจจุบัน 40% ของเจ้าหน้าที่ 30,000 คนใช้เครื่องที่เป็นวินโดวส์อยู่แล้ว และแผนการย้ายครั้งนี้จะย้ายเครื่องที่เหลือทั้งหมดมาเป็นวินโดวส์
ที่มา - The Register
Comments
ดีละ จะได้ไม่เป็นภาระแก่ลูกหลาน
เป็นคำตอบที่ถูกต้องนะครับบบบบบบบบ เพราะญี่ปุ่นใช้ Windows เป็นหลัก มานานแล้วครับ
Linux ยังต้องทำงานหนักกว่าจะเท่าWindows..เพราะคนคุ้นเคยWindowsมากกว่า..มันดีคนละทาง ขึ้นกับการใช้งานเป็นและความชำนาญ..
สุดท้ายผมก็กลับมาwin เหมือนกัน
ปัจจุบันนี้ ผมใช้ Linux เฉพาะ Android เท่านั้นครับ
สิ่งแรกที่ทำหลังจากรับ Ubuntu + Eee PC มาจาก @Jaddngow -> หา Windows XP มาใส่ ?
สรุปว่าย้ายสายแล้วสินะครับ
ย้ายแล้วครับ ผมรัก paint.netที่สุด
ทุกอย่างถูก Drive มาจาก Application
โปรแกรม Spreadsheet เบอร์หนึ่งก็ต้อง Excel
การสั่งงาน Printer / VGA Card แบบต่างๆ Custom มากๆก็ต้อง Windows Driver
โปรแกรมพาณิชย์เฉพาะทางเขาก็ไม่ค่อยอยากเขียนใช้บน linux อาจจะเพราะคนใช้ระดับ desktop น้อย ทำให้โอกาสขายได้น้อยกว่า จึงเลือกพัฒนาบน Windows มากกว่า เป็นลูปงูกินหาง
ส่วนการดูแลระบบ เครื่องมือ Active Directory ของ Windows ก็สามารถเห็นผลงานการ force policy ได้อย่างชัดเจน Linux ก็อาจจะทำได้ แต่ภาพของ Windows มันชัดกว่าเยอะ
ผมไม่ได้เป็น dev อาชีพแต่ก็พอมองออกว่า แม้จะมี dev หลายๆคนทำ open source แต่พวกเขาเหล่านั้นที่ dev เพื่อ open source เขาก็ต้อง dev เพื่อหาเงินเลี้ยงตัวเองเหมือนกัน ซึ่งก็เข้าใจว่า น่าจะต้องเป็น software เชิงพาณิชย์ที่ run บน windows
ผมเคยพยามใชิ Libre office แต่ไม่ไหวจริงๆครับ ทำอะไรได้ยากมากมาย อย่างแค่ pivot table ยังทำบางอย่างได้ไม่ครบเลย แม้ excel mac จะกากเข้าขั้นสุด ผมก็ต้องทนใช้ เพราะมันดีกว่า libre sheet มาก
สมัยก่อน พี่หัวหน้าบัญชีผมถูก MD บ.เก่า บังคับให้ใช้ Open Office เนื่องจากต้องการประหยัดและคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาด้วยครับ แกก็ใช้พลังฟังก์ชันอะไรของแก vlookup อะไรต่างๆ ตามสูตรคนบัญชี
ปรากฎ เจ๊งครับ เสียงาน เสียการ รันไม่ได้ ไม่ผ่าน ผิดมั่ง อะไรมั่ง
ผมรีบแก้ไขโดยการลง excel แบบ trial ให้ก่อน ตามคาดครับ ผ่านฉลุย งานถูกแก้ไข และผลักดันไปได้ในทันที และต้องซื้อ license excel มาจนได้ ทำให้รับส่งไฟล์ .xlsx กับคนอื่นๆได้สบาย จบไปเลย
งานขึ้นระบบ งานบันทึกข้อมูล import/export ข้อมูล หากมีระบบ row/column นี่ต้องมี .xls / .xlsx อยู่ใน drop down เลยทีเดียว คิดดูว่าจะมี app ไหนมาฆ่ามันได้บ้าง
embedded กับ Linux บอกตามตรงว่ารากเลือด ลองเขียน Python เชื่อมกับ Serial ในbandwidthสูงๆดู ถึงกับเบ้ปาก-มองบน (รับข้อมูลไม่ทัน) สุดท้ายก็มาตายรัง Windows เหมือนเดิม
Microsoft ก็เหมือนตำรวจไทยอ่ะครับ
Microsoft เป็นที่พึ่งของประชาชน
จะโกรษ Microsoft เกลียด Microsoft ถ้าขึ้นจอฟ้า อย่าลืมเรียกใช้บริการ Microsoft
Activate เพราะรัก บังคับ Update Windows เพราะความห่วงใย
จะมีไม่เหมือนก็ ตั้งด่านลอย กับ แอบมุมเสาไฟฟ้าดักโบกรถมอเตอร์ไซ
หักด้ามพร้าด้วยเข่า
มิวนิค => มิวนิก
ดีลล์ที่เป็นหน้าเป็นตาก็จบลงด้วยประการละฉะนี้ เอวัง! O_o
ความพ่ายแพ้ที่แสนสาหัสของ Linux Desktop
เสียงบเพื่อเปลี่ยนเป็น Linux ไปเยอะแล้ว ต่อมายังต้องเสียงบอีกรอบเพื่อกลับมาใช้ Windows ตามเดิม 55+ (รู้งี้อยู่เฉยๆ ก็ไม่ต้องเสียอะไรแล้ว เหนื่อยฟรีไม่พอ ยังเสียตังฟรีซ้ำ เครียดแทนเลย)
ยังไงก็ยังมีประโยชน์ครับ อย่างน้อยก็ได้ลองทำแล้วได้ประสบการณ์ (และเป็นสาธารณะประโยชน์มาก) แล้วยังเอาไว้อุดปากคนที่อยากทำได้ด้วยไม่ต้องเก็บไว้ให้อึดอัด
ส่วนฝั่งญี่ปุ่น คิดถูกแล้วที่เน้น Windows แม้ญี่ปุ่นจะชาตินิยม เพราะ Windows สื่อถึง OS แบบเสรี ตอนนี้เหลือแต่จีน ที่เน้น Linux กับคอม PC/Notebook และมี Windows 10 China Edition มาแซมครับ
เกาหลีเหนือ?
ลืมนึกถึงเลย ฝั่งเกาหลีเหนือก็ใช่ ใช้ Red Star Linux ซึ่งไม่น่าใช้ใดๆ ตามข่าวเก่าครับ
สมัยปี 80 Microsoft ขาย license Microsoft Basic ให้ไป burn ROM ขายกันเองครับ เพราะผุ้บริหาร Microsoft Japan กับ ASCII Corporation เป็นคนเดียวกัน ออกมาเป็นเครื่อง MSX พอจบจากยุค MSX เป็น Windows ก็ซื้อกันเต็ม ๆ เท่าที่ใช้มา Windows/V หรือ Windows ของญี่ปุ่น มีอะไรไม่เหมือนชาติอื่นเยอะมากนะครับ
ขอบคุณครับ สำหรับคำตอบ สรุปว่า Windows ญี่ปุ่น ที่ต่างจาก Windows ทั่วไปนั้น คือ ฝั่ง Windows ญี่ปุ่น มี Function มากกว่า ใช่ไหมครับ
DOS/V and WIN/V
ขอบคุณครับ สำหรับคำตอบ หายสงสัยแล้วครับ
หรือ linux จะถึงกาลอวสานแล้ว จะได้ย้ายกลับมาทัน 5555
ขอไปฝึกเขียน visual studio แป๊บ หลังจากหมกมุ่นอยู่กับ python มานาน
ยังไม่อวสาน เพราะ Android ยังนิยมอยู่ ซึ่งใช้ Linux ถ้า Linux อวสานจริง ก็จะเกิดเหตุคนนิยมใช้ Windows 10 Mobile แทนครับ
เหมือนได้ยินข่าวมาว่าทาง google จะทำ kernel สำหรับ android เป็นของตัวเองด้วยครับ(จำชื่อไม่ได้) เอามาแทน linux kernel ครับ
ทางฝั่ง server คงจะอวสานยากอยู่ครับ
Libre Office มันไม่ได้จริงๆอ่ะนะ ถ้าต้องใช้ Libre ไปทำบน Google Doc ยังดีกว่าอีก -_-
+1 ครับ ริบหรี่ออฟฟิสเนี่ย ผมก็ทนใช้ได้ไม่นานจริงๆ
ทำไมไม่ทำ WebApp ให้ครบวงจรไปเลย หรือพวก Webbase ERP เงี้ย
จะได้ไม่ต้องใช้โปรแกรมแนว Office
ต้องลงทุนอีกมหาศาลเพื่อจะทำให้ฟีเจอร์ได้ครึ่งหนึ่งที่ Excel ทำได้ครับ กว่าจะสู้ Excel ได้งบคงผูกพันไปหลายปีซึ่งอาจจะแพงกว่าซื้อ license ไมโครซอฟท์ และที่สำคัญเวลาไม่เคยรอใครและเป็น cost ที่แก้ได้ยากที่สุดครับ เพราะถ้าจะแก้ค่าใช้จ่ายพุ่งแน่นอน
เวลาdeveloperไม่พอใจ ก็แตกdistroของตัวเองกันเยอะแยะนับไม่ถ้วน
ไม่ค่อยจะมีใครคิดจะรวมตัวกันเพื่อที่จะทำ software ดีๆกันเท่าไหร่
wastedไปเปล่าๆ แล้วLinuxมันจะโตไปกว่านี้ได้ไง
คนไม่ได้ลงOSมาขยับcursorเล่นนะ
Linux ต้องแตก distro ก็เพราะว่ามันมีหลายอย่างไม่เหมือนกัน แต่ถึงยังไงก็ยังเป็น kernel เดียวกันหมดตั้งแต่ในมือถือคุณยันไปถึง Server มีระบบปฏิบัติการไหนทำได้ขนาดนี้บ้างครับ
Distro บางอันสวยกินสเป็ค บางอันไม่สวย แต่ใช้ง่ายไม่กินเมม บางอันลงในคอมพิวเตอร์เล็กเท่าเหรียญสิบได้ บางอันก็ลงมือถือแต่ก็มี container engine สามารถขยายเป็น desktop ได้ในตัว แน่นอนว่ามันไม่ได้มีแอพสำหรับ Desktop หรือ Photoshop แต่ที่แน่ๆ ก็คือทุกอย่างอยู่บน github ครับ ไม่ก็ repository ถ้าได้ศึกษาหน่อยน่าจะเข้าใจได้ครับว่าทำไม Linux ดีกว่า ทำไมอย่างอื่นดีกว่า
คือมิวนิคเค้าเอา os เก่ามาโมเองครับ office ก็ fork ออกมา และสุดท้ายก็ไม่มีคนดูแล พอเกิดปัญหาขึ้นมันก็ไม่มีใครแก้
ลองคิดว่าถ้าตอนนี้คุณใช้ Windows XP black edition ที่โดนรัฐบาลของประเทศเรา modified แอพให้ขึ้น live stream ทุกหกโมงเย็นสิครับ อารมณ์นั้นแหละ
os แห่งชาติกันเลยทีเดียว