Google Cloud Spanner บริการระบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (relational database) ที่มั่นคงและรองรับการขยายตัวได้ดีจาก Google ได้ออกอัพเดตล่าสุด โดยรองรับระบบ multi-region ซิงค์ข้อมูลข้ามทวีปโดยอัตโนมัติ รวมถึงปรับปรุง Service Level Agreement ใหม่

การปรับปรุงรองรับระบบ multi-region หมายความว่าผู้ใช้ระบบสามารถทำสำเนาข้อมูลไว้ในแต่ละพื้นที่เพื่อลด latency และให้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น และยังเป็นการป้องกันความล้มเหลวที่อาจเกิดขึ้นเฉพาะภูมิภาคได้ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะซิงค์กันเองโดยอัตโนมัติ และนอกจากนี้ Cloud Spanner ยังมีระบบช่วยเหลือที่ให้ผู้ใช้สามารถสร้าง instance เพียงไม่กี่คลิกเท่านั้น ลบภาพเดิม ๆ ของการทำการรองรับการขยายตัวอันซับซ้อนของระบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ไปได้ โดยผู้ใช้สามารถจัดการผ่าน Google Console หรือจะทำการโปรแกรมเองก็ได้ เพื่อช่วยประหยัดเวลาในการตั้งค่าระบบ

ถัดไปคือ Google ได้อัพเดต Service Level Agreement โดยการันตีการใช้งานได้ที่ 99.999% โดยไม่มีเวลาดาวน์ไทม์ที่วางแผนไว้ก่อน (no planned downtime) ซึ่งดาวน์ไทม์นี้คำนวณแล้วเป็นเวลาน้อยกว่า 5 นาทีต่อปี (น้อยกว่าระบบฐานข้อมูลอื่นถึง 10 เท่า) โดย Google กล่าวว่า Cloud Spanner นั้นรองรับงานหลายประเภท และมีหลายระดับ ตั้งแต่ระดับโหนดเดียว, หลายโหนดในภูมิภาคเดียวกัน ไปจนถึงระบบโหนดที่กระจายตัวไปทั่วทุกภูมิภาค ซึ่งไม่ว่าจะทำงานในระดับไหน Cloud Spanner ก็จะยังคงประพฤติตัวเหมือนกับระบบฐานข้อมูลเดี่ยว

Google กล่าวว่า ตั้งแต่เปิดรุ่น GA ของ Cloud Spanner ให้ทดสอบในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีผู้ใช้หลายรายตั้งแต่สตาร์ทอัพไปจนถึงระดับองค์กรมาทดลองใช้มาเป็นจำนวนมาก อย่างเช่น Mixpanel บริษัทให้บริการวิเคราะห์ข้อมูลได้ย้ายระบบค้นหาไอดีของผู้ใช้จาก shared MySQL มาใช้ Cloud Spanner หรือ Evernote ก็เตรียมย้ายระบบเก็บโน๊ตของผู้ใช้ที่เก็บโน๊ตกว่า 8 พันล้านโน๊ตมาใช้ Cloud Spanner แทน MySQL instances ทั้งหมด 750 ตัว และนอกจากผู้ใช้บริการภายนอกแล้ว ระบบของ Google เองก็มีหลายระบบที่ใช้บริการ Cloud Spanner แล้ว อย่างเช่น AdWords

ที่มา - Google Cloud Platform