Comments

By: Virusfowl
ContributorAndroidSymbianWindows
on 15 November 2017 - 19:52 #1019340

และคนตาบอดจำนวนหนึ่งใช้สมาร์ทโฟนอยู่แล้วผ่านฟีเจอร์ accessibility ของระบบปฏิบัติการ

คนตาบอดที่ใช้สมาร์ตโฟนโดยที่ไม่ใช้ Accessibility Features นี่ต้องเทพขนาดไหนครับ ประโยคนี้ ผมเห็นว่าคำว่า "จำนวนนึง" เขียนดูให้น้อยเกินความเป็นจริงไปมากครับ เพราะมันควรจะเป็น "ทั้งหมด" หรือ "เกือบทั้งหมด" มากกว่า

แต่แอพบางตัวยังเขียนมาไม่ดีพอ ทำให้บางปุ่มหรือบางเมนูไม่มีข้อความ (label) กำกับ ไม่รู้ว่าเป็นปุ่มอะไร
ต้องใช้วิธีจำตำแหน่งปุ่มแทน

นี่แหละครับ คือประเด็นสำคัญ ในเมื่อรู้แบบนี้ แล้วทำไมไม่แค่ใส่ Label ให้ปุ่มบนแอพตัวหลักของคุณล่ะครับ (รวมถึงบนหน้าเว็บของ KBank เองด้วยแหละ) จะมาพัฒนาแอพแยกทำไหม?

และทีมงานบอกว่าแผนการในระยะยาวคือผนวกฟีเจอร์ด้าน accessibility เหล่านี้เข้ามาในแอพ K PLUS ตัวหลัก เพื่อให้ใช้งานได้ทั่วถึงโดยไม่ต้องมีแอพแยก

สรุปคือ คนตาบอดต้อง "ทำความคุ้นเคยกับอินเทอร์เฟซ" เพื่อใช้งานแอพนี้ขั้นเวลาแค่นั้นสินะครับ แล้วพอทำแอพหลักให้ access แล้วก็กลับไป "ทำความคุ้นเคย" กับหน้าตาของแอพตัวหลักกันใหม่อีกทีนึง #ดีครับดี

อันนี้เป็นความเห็นจากการฟังคลิปตัวอย่างนะครับ ไม่ได้ไปใช้จริงด้วยตนเองแต่อย่างใด

  • ประเด็นแรกคือเรื่อง "เสียงพูด" ในที่นี้ก็คือ TTS (Text-to-Speech) อะนะครับ ซึ่งในการใช้งานสมาร์ตโฟนโดย "ปกติ" ของคนตาบอด เราต้องเปิดการใช้งาน mobile screen reader ซึ่งก็จะใช้ TTS เพื่ออ่านให้คนตาบอดฟังได้อยู่แล้ว ทีนี้เมื่อแอพนี้ไม่ได้ใช้การเข้าถึงจาก Mobile screen reader ตามปกติ เลือกที่จะใช้ gesture ของตัวเอง ใช้เสียง TTS ของตัวเอง มันก็จะทำให้เกิดปัญหาสำหรับผู้ใช้ตามมาหลายอย่างอยู่ครับ

    • การใช้แอพตัวนี้จำเป็นต้องปิดการทำงานของ mobile screen reader ก่อนใช่หรือไม่ เท่าที่เคยเห็นมานะครับ ถ้าแอพตัวไหนที่ "หวังดี" ใช้ TTS ของตัวเอง พูดง่ายๆ ก็คือทำให้แอพพูดได้โดยไม่ต้องเพิ่ง mobile screen reader ของเครื่องนั่นแหละ เมื่อเราเข้าไปใช้งานแอพนั้นแล้ว เราต้องปิดการทำงานของ mobile screen reader ก่อนครับ ไม่อย่างนั้นจะเรียกว่า "มันตีกัน" ซึ่งส่วนตัวคือไม่ปลื้มแอพแบบนี้มาก เพราะการเปิดๆ ปิดๆ ตัว mobile screen reader นี่ไม่ใช่เรื่องสนุกสนานแต่อย่างใด
    • เรื่องการปรับ profile ของเสียง TTS ในเมื่อเราไม่ได้ใช้ตัว mobile Screen reader ตามปกติที่เราใช้ เราก็ต้องมาจัดการปรับระดับ speed, volume, pitch ของเสียง TTS แยกต่างหากในแอพตัวนี้อีก เท่าที่เข้าใจที่มีคำถามอยู่ในคลิปที่ 3 ตัวแอพก็มีปุ่ม settings มาไว้ให้ปรับตรงนี้แล้วแหละนะครับ แต่มันก็จะกลายเป็นว่า การใช้งานแอพตัวนี้ ต้องตั้งค่าเพิ่มเติม จากการใช้งานปกติเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแอพ (ใช้ง่าย?)
  • ประเด็นเรื่อง learning curve ที่ดูจะสูงกว่าแอพทั่วไป คือต้องบอกก่อนว่า ผู้ทดสอบจากสองคลิปแรก ถือว่าเป็นคนตาบอดที่ใช้สมาร์ตโฟนได้อย่าง จะเรียกว่าเชี่ยวชาญก็ว่าได้ คือใช้ได้ในระดับที่สามารถสอนคนอื่นใช้งานต่อได้แล้วอะนะครับ แต่จากในคลิป เราจะเห็นว่า การจะใช้แอพตัวนี้ ยังต้องให้ตัวแทนจากธนาคารเป็นผู้สอนใช้ gesture "พิเศษ" ของแอพอยู่ ซึ่งถ้าเป็นแอพโดยทั่วไปที่เขียนมาให้ access ได้ตามปกติ การใช้งาน ผู้ใช้ควรสามารถศึกษา "ได้ด้วยตนเอง"
  • เรื่องการลาก gesture จากในคลิปจะเห็นว่า มี gesture ที่ใช้สำหรับการยืนยันการทำรายการ = ลากลงแล้วค้างไว้ 3 วินาที ซึ่งเท่าที่เข้าใจคือผู้ใช้จำเป็นต้องลากลงและลากจากตำแหน่งกลางๆ หน้าจอ ผมเลยเดาว่า น่าจะมี virtual button ที่อยู่ในตำแหน่งประมาณ 6 นาฬิกา ที่ต้องแตะไปให้โดน และแตะค้างไว้เพื่อ activate ไม่ได้ใช้การวัดทิศทางของการลากนิ้วเพื่อใช้คำสั่งนี้ โดยส่วนตัวก็รู้สึกว่ามันยังแปลกๆ อยู่ ดูขาดความยืดหยุ่นยังไงไม่รู้ ถ้าจะบอกว่าออกแบบมาเพื่อให้ใช้ได้ง่ายอะนะครับ
  • เรื่องความปลอดภัย เราจะเห็นว่าอินเทอร์เฟซตัวนี้ ใช้การ "ลากและแตะค้าง" เพื่อทำให้มั่นใจว่าเป็นการยืนยันการทำธุรกรรมรายการนั้นจริงๆ อันนี้โดยส่วนตัว ผมเห็นว่า การมีหน้าให้กดยืนยันการทำรายการอีกครั้ง น่าจะเพิ่มความมั่นใจให้ได้มากกว่า (แต่ไม่ได้บอกว่าวิธีตามแอพนี้ดีหรือไม่ดีอะนะครับ) และมีข้อสังเกต ซึ่งอาจจะหมายถึงแอพของ KBank โดยรวม ไม่ได้เฉพาะแอพพิเศษตัวนี้ คือทำไม แอพของ KBank ถึงไม่มีให้ยืนยันการทำรายการด้วย OTP อีกชั้นนึง ผมว่าการกรอก OTP นี่แหละเป็นการยืนยัน และรวมถึงเพื่อความปลอดภัย ที่ดูโอเคมากกว่า

@ Virusfowl

I'm not a dev. not yet a user.

By: Iamz
AndroidWindows
on 16 November 2017 - 09:31 #1019404 Reply to:1019340

ที่เค้าบอกว่าคนตาบอดจำนวนนึงใช้ smartphone ผ่าน accessibility เค้าหมายถึงว่าที่เหลือไม่ได้ใช้ smartphone เพราะมันยากครับ ไม่ใช่ใช้ได้โดยไม่ต้องมี accessibility

ผมเห็นด้วยว่า app ของ KBank ชอบทำให้ยุ่งยากโดยไม่จำเป็น ชอบทำอะไรที่มันไม่มาตรฐานเหมือนพยายามจะแตกต่าง ใช้มานานแล้วแต่ทุกครั้งที่เปิดก็ด่าอยู่ในใจ

ส่วนเรื่องที่ไม่ต้องขอ OTP เวลายืนยันเพราะเค้ามั่นใจอยู่แล้วว่าเป็นเบอร์ที่ถูกต้อง เปลี่ยนซิมหรือเปลี่ยนเครื่องทุกครั้ง app มันจะโวยวายตลอด ถือว่ายืนยันครั้งแรกแล้วที่เหลือเปลี่ยนไม่ได้อีก

By: Virusfowl
ContributorAndroidSymbianWindows
on 16 November 2017 - 10:51 #1019420 Reply to:1019404

ครับ จริงๆ เรื่อง wording "จำนวนนึง" ในประโยคนั้น ผมว่ามันก็ตีความได้ทั้งแบบที่ผมบอกและแบบที่คุณบอกครับ

แต่ที่ผมเลือกที่จะตีความตามที่บอกไป เพราะจากบริบทที่เขาทำออกมาให้เห็นครับ ตัวแอพนี้เหมือนจะบอกกลายๆ ว่า accessibility ของระบบปฏิบัติการมัน "ใช้ยาก" เราทำใหม่ให้ใช้ง่ายๆ ดีกว่า

ส่วนการตีความตามที่คุณบอก อันนี้ผมก็ไม่มีข้อมูลอ้างอิงนะครับ แต่ผมว่าการใช้ iOS / Android ไม่ใช่เรื่องยากแล้วครับ และประกอบกับโทรศัพท์ที่ไม่ใช่สมาร์ตโฟนเอง ก็แทบจะหมดไปจากตลาดแล้ว ดังนั้นต่อให้เป็นการตีความแบบนี้ ผมก็ยังคิดว่า ไม่น่าใช่แค่คนตาบอดส่วนน้อยหรอกครับที่ใช้สมาตร์โฟน


@ Virusfowl

I'm not a dev. not yet a user.

By: ปาโมกข์
iPhoneAndroidWindows
on 16 November 2017 - 11:33 #1019426
ปาโมกข์'s picture

ยินดี ที่ K PLUS Beacon
เข้ามาเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งสำหรับผู้มีปัญหาทางสายตา
อย่างไรก็ตาม
ผมอยากให้ทำแอพ K+
ที่มีอยู่เดิม
ให้รองรับระบบ accessibility ของระบบปฏิบัติการให้เร็วที่สุดด้วยครับ
คงทำไม่ยาก IOS Android ได้เปิดทางไว้หมดแล้ว
คนตาบอดเองก็จะสามารถใช้งานได้ทันที
และสามารถเข้าถึงบางเมนู
ที่ยังไม่มีใน K PLUS Beacon ได้ด้วยครับ

By: mk
FounderAndroid
on 16 November 2017 - 15:28 #1019492 Reply to:1019426
mk's picture

อันนี้ทางทีมของ KBank บอกว่าช่วงแรกจะยังแยกกันไปก่อน เพื่อให้การพัฒนารวดเร็วครับ พอลงตัวแล้วจะทยอยเอาเข้า K Plus ตัวหลักต่อไป

By: crisis_xiii
iPhone
on 16 November 2017 - 13:53 #1019466
crisis_xiii's picture

ความผิดปรกติทางสายตามีหลายระดับครับ ตั้งแต่บอดสนิทไปจนถึงมองไม่ชัด เช่น สายตาสั้นมาก

Beacon ทำมาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ที่ไม่สามารถใช้การบริการทางการเงินบนมือถือ เหมือนคนปรกติทั่วไปได้

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 16 November 2017 - 21:57 #1019551 Reply to:1019466
hisoft's picture

Beacon ทำมาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ที่ไม่สามารถใช้การบริการทางการเงินบนมือถือ เหมือนคนปรกติทั่วไปได้

ปัญหามันอยู่ที่แอปปกติทำไมถึงไม่ทำให้ใช้งานได้มากกว่านะครับ