ตลาดเกษตรกรรมญี่ปุ่นกำลังประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน และแรงงานทุกวันนี้ก็อายุมากขึ้นทุกที งานฉีดยาฆ่าแมลงยังเป็นงานอันตรายอีกด้วย ปัจจุบันญี่ปุ่นมีเกษตรกร 1.81 ล้านคน โดย 70% มีอายุ 65 ปีขึ้นไป เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดเกษตรกรรม จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย หนึ่งในเทคโนโลยีที่กำลังได้รับความสนใจในขณะนี้ คือโดรนฉีดยาฆ่าแมลง

บรรดาบริษัทผลิตโดรนจึงแข่งขันกันมากเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นจากจีน DJI และ ยามาฮ่าจากญี่ปุ่นเอง บริษัทวิจัย Fuji Keizai คาดการณ์ว่าตลาดโดรนโลกจะเติบโตถึง 3.5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 คิดเป็น 8 เท่าจากปัจจุบัน

โดรนเพื่อการเกตรรุ่นใหม่จากยามาฮ่าที่หวังตีตลาดนี้คือ YMR-01 มีใบพัด 6 ตัว มีช่องใส่ถังยาฆ่าแมลงและสเปรย์ฉีดพ่นด้านล่างตัวเครื่อง แต่ยามาฮ่าเคยสร้างเฮลิคอปเตอร์เพื่อการเกษตรมาก่อนแล้ว ใช้ในพื้นที่การเกษตรบนภูเขา แต่ไม่สะดวกหากใช้กับพื้นที่เกษตรบนที่ราบลุ่มอย่างนาข้าว อีกทั้งยังราคาแพง 12 ล้านเยนต่อลำ

ด้านโดรนของ DJI ชูจุดขายเสียงเบาและกะระยะความสูงอัตโนมัติโดยไม่ต้องรับคำสั่งจากคน และยังมีผู้ผลิตรายอื่นที่พยายามเรียกร้องความสนใจด้วยเช่น Nileworks สตาร์ทอัพโดรนเพื่อการเกษตรมีฐานที่ตั้งในโตเกียวที่ติดกล้องที่ช่วยให้สามารถระบุพื้นที่เก็บเกี่ยว หว่านเมล็ด และฉีดพ่นยาฆ่าแมลงได้ง่ายขึ้น

ภาพจาก Nileworks

ที่มา - Nikkei Asian Review