เข้าใจโนแลนนะ แต่มันก็เป็นทางเลือกให้ผู้ชมนะครับ ยอมรับว่าหนังบางเรื่องดูในโรงมันได้อรรถรสกว่า แต่กับบางคนเขาก็ไม่ได้อินอะไรกับการไปดูในโรงจอใหญ่ๆแบบนั้น ที่เข้าใจโนแลนเพราะแกเน้นเรื่องของอรรถรส ความสมจริง ย่อมอยากให้ผู้ชมได้รับประสบการณ์แบบที่เค้าต้องการจะสื่อเป็นธรรมดา

อรรถรสการดูหนังในโรง
- ตั๋วราคาแพง
- popcorn หัวแบะ
- นั้งรอหนังฉาย
- เปิดมือถือไม่ใด้
- เข้าห้องน้ำ พลาดฉากสำคัญ
- รับโรคติดต่อทางเดินหายใจ ไปเป็นของฝากกลับบ้าน

ผมว่าปัญหาใหญ่สุดของการดูหนังในโรงคือเจอคนมารยาทไม่ดี หรือเด็ก(ที่มารยาทไม่ดี) ที่เหลือผม manage เองได้หมด ผมยังคิดอยู่เลยว่าโรงหนังควรจะให้ส่วนลดสำหรับผู้ชมที่เอาสก็อตเทปปิดปากตัวเองก่อนเข้าโรงหนัง

ดูหนังที่บ้านข้อดีมีเยอะ ประหยัดเรื่องเดียวดูได้เป็นครอบครัว
อยากดูตอนไหนก็ได้ ไม่ต้องแต่งตัวไปนอกบ้าน แถมไม่ต้องเจอพวกไร้มารยาท เล่นมือถือ ส่งเสียงดัง เด็กนิสัยแย่ๆที่พ่อแม่ไม่สอนมารยาทการดูหนัง

อยากให้โนแลนชมภาพยนต์ในระบบปกติ และโรงแบบไม่วีไอพี ในประเทศกำลังหรือด้อยพัฒนาบ้าง...คือขึ้นอยู่กับดวงมากๆ ที่จะเจอพวกสะเดาดีดเล็บ พวกสูบบุหรี่จัด พวกกลิ่นตัวแรง พวกผีพากย์หนังโชว์เหนือ ผีเด็กเรียกร้องความสนใจ ยานแม่ที่คอยอธิบายหนังให้ลูกดู หนักสุดที่เคยเจอเด็กมัธยมแอนด์เดอะแก๊ง

อันที่จริงหนังโนแลนก็ไม่ดูดีมีรสนิยมอรรถรสอะไรขนาดนั้น หนังดีแต่ไม่ใช่หนังสนุก

ขนาดปีนึงไปดูในโรงครั้งสองครั้ง ยังเจอคนเล่นมือถือ ถีบเบาะ เช็คไลน์ในแท็บเล็ต มันน่าเบื่อ ตั๋วก็แพง
เดี๋ยวนี้เช่าไอจูนเอา

ถ้าเป็นโรง imax ผม ok อยู่นะครับ
สกรีนคนออกไปได้เยอะเลย
แต่โรงน้อยไปหน่อย แล้วก็แพงด้วย

เคยไปดู IMAX ที่ Major Ratchayothin ไม่มีความประทับใจเลย ภาพสวย เสียงดีก็จริง
แต่เมื่อยมาก เข่าก็ชนเก้าอี้แถวหน้า ไหล่ก็แทบจะเบียดกับคนข้างๆ ที่นั่งแคบ อึดอัดมากๆ
อีกทั้งเครื่องปรับอากาศก็ไม่เย็น อันนี้เป็นประสบการณ์ที่นานมาแล้ว ไม่รู้ตอนนี้เป็นอย่างไร
แต่ผมคงไม่ไปเหยียบ IMAX อีกเสียดายเงิน

หลังๆผมไปดูตอนหนังเข้าโรงสัก 2-3 สัปดาห์ถ้าโชคดีหนังยังไม่ออกจากโรง พบว่าสบายใจขึ้นเยอะไม่ต้องเสี่ยงกับหลายๆข้อข้างบนที่กล่าวมา

ไม่ได้ดูหนังที่ Tv ที่บ้านนานแล้ว ติดดูหนังโรง ถ้ามีเวลาไปช่วงกลางวัน หรือช่วงวันทำงานก็สบายๆนะ คนน้อย ไม่แพง เสียงกับภาพ ประสบการณ์ที่ได้จากในโรงมันดีกว่าที่บ้านเยอะ

ส่วนตัวไม่ได้มีปัญหากับการดูหนังในโรง แต่มีปัญหากับมารยาทของคนที่เข้าไปดูด้วยกัน ทุกวันนี้เลยแก้ไขด้วยการเลือกดูเวลาที่คนน้อยและยอมตัดใจไม่ดูหนังที่เพิ่งเข้าใหม่

ผมชอบดูในโรงหนังนะ แต่รู้สึกเสียอารมณ์มากเวลาคนข้างหลังมากระแทกเบาะที่เรานั่ง

ก็ในเมื่อ netflix สตรีมภาพ 4K และเสียง dolby Atmos แล้วอ่านะ ความจำเป็นในการดูหนังในโรงก็ลดลงไปสำหรับคนหลายๆ กลุ่ม

ผมว่าต่อไปคนน่าจะดูหนังที่บ้านกันมากขึ้น สิ่งที่ได้มามันชดเชยสิ่งที่ขาดหายได้มากพอ (สำหรับบางคนอาจจะมากเกินพอ แต่สำหรับบางคนก็อาจจะไม่พอเช่นกัน) เทคโนโลยีทีวีพัฒนาขึ้นทุกวัน เอาจริง ๆ ตอนนี้ผมว่ารุ่นทีวีดี ๆ สีสัน contrast ส่วนประมวลผล ทำภาพออกมาสวยกว่าดูในโรงหนังรุ่นเก่า ๆ อีกนะ ส่วนขนาดทีวีก็ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ อยู่แล้ว คนมีเงินก็ซื้อกันสบาย ๆ ยิ่งคนไหนมีเงินมาก ๆ มี Home Theatre ผมว่าอรรถรสในการดูหนัง (ที่ไม่ใช่ IMAX) ที่บ้านก็ไม่ได้แย่เลยนะ ถ้า set sound stage สวย ๆ ก็ดูเคลิ้มได้เลยทีเดียว อาจจะติดขัดอยู่แค่เรื่องเดียวคือหากดูตอนกลางคืน เวลาที่คนอื่นเพื่อนบ้านอาจจะนอนไปแล้ว ก็อาจจะไปรบกวนคนอื่นได้ (ยกเว้นเสียแต่ว่ารวยไปอีกขั้นมีห้อง Home Theatre โดยเฉพาะ)

ส่วนตัวผมก็อยากมี Home Theatre นะแต่ว่าที่บ้านยังไม่มี ดูหนังโรงเอาเหมือนกัน ไม่ได้ดูทุกสัปดาห์แต่ก็ถือว่าบ่อยพอประมาณ ข้อเสียของการดูหนังที่โรงคือเราต้องกินของแพงที่เลือกไม่ได้และส่วนมากไม่อร่อย เวลากินก็ต้องเกรงใจคนรอบข้างไม่กล้าเคี้ยวเสียงดัง ส่วนมารยาทของผู้อื่นนี่ก็ต้องไปเสี่ยงดวงเอา ซึ่งส่วนมากผมจะโชคดีเพราะผมจะไม่ดูหนังใหม่สักเท่าไร นาน ๆ เจอทีที่เบื่อที่สุดก็คือเจอเด็กเล็กหรือเด็กนักเรียนที่ไม่มีมารยาท ส่วนเรื่องขามาชนก็รำคาญ แต่บางทีก็ต้องเข้าใจ ทางเดินที่วางขามันมีแค่นั้น คนตัวสูงขายาวเวลาขยับขามันก็ต้องมาโดนบ้างเป็นธรรมดา อีกอย่างที่ไม่ชอบมาก ๆ เวลาไปดูหนังโรงคือเสียเงินไปดูหนังแล้วยังต้องดูโฆษณาสารพัด sound check ก็เป็นโฆษณาแฝงอีก

สรุปเข้าใจทั้ง 2 ฝ่าย เลือกเอาอย่างที่ชอบละกัน Nolan ไม่อยากทำหนังลง Netflix ก็เรื่องของ Nolan ใครอยากดูหนังที่บ้านผ่าน Netflix ก็ดูไปเหมือนเดิม