มีงานวิจัยใหม่เรื่องการมีงานทำของชายอายุน้อยในสหรัฐฯ จัดทำโดย Princeton และ University of Chicago พบว่า ผู้ชายช่วงอายุ 21-30 ปี ว่างงานมากขึ้น โดยตัวเลขปี 2016 เผยว่ามี 15% ที่ไม่ได้ทำงาน หรือทำแต่ไม่ได้ทำเต็มเวลา ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2000 ถึงเท่าตัว นอกจากนี้เวลาทำงานเฉลี่ยต่อวันก็ลดลง 12% นับจากปี 2000
คณะวิจัยยังระบุอีกว่า 67% ของกลุ่มผู้ชายที่ว่างงานยังอาศัยอยู่กับพ่อแม่ หรือญาติสนิท (ปี 2000 มี 47%) นักวิจัยตั้งข้อสันนิษฐานว่าพวกเขาหวังพึ่งพาครอบครัวในระยะยาว พวกเขายังใช้เวลา 520 ชั่วโมงต่อปีไปกับคอมพิวเตอร์ และ 60% คือ ใช้ไปกับการเล่นเกมส์
งานวิจัยนี้ชี้ให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ และวิดีโอเกมส์ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนกลุ่มนี้มีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯน้อยลง ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพเศรษฐกิจในระยะยาว
อ่านรายงานวิจัยฉบับเต็มได้ ที่นี่
ภาพจาก Pexels
ที่มา - Fortune
Comments
ติดจนแยกแยะอะไรไม่ได้นี่ก็แย่นะ
อย่าไปเม้นอะไรแบบนี้ในพันทิพเชียวนะครับ
กลับกัน เห็นว่าอัตราการจ้างงาน ใน usa น้อยลงครับ
อัตราการจ้างงานใน usa น้อยลงเรื่อยๆ เพราะโดน automation/robot แทนที่ fast food ใน usa หลายที่ไช้หน้าจอแทนคนเก็บตัง อีกสักพัก (นานหน่อย) taxi ก็จะมีปัญหาจาก self driving car
บางคนก็เริ่มพูดถึง universal income แล้ว เพราะมันไม่ไช่ไม่หางาน แต่ไม่มีงานให้หา
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ต้องยอมรับความจริงครับ แต่ใครจะคว้าธุรกิจเกมไว้ไวก็กำไรเยอะ
ที่ไม่ยอมทำงานเอาแต่เล่นเกม เป็นเพราะได้สวัสดิการด้วยมั้ง ไม่ทำงานก็ได้เงิน
ญี่ปุ่นก็คล้ายๆ แบบนี้หรึอเปล่านะ
ສະບາຍດີ :)
เกมส์ => เกม
มันเป็นกีฬาครับ
มันเป็นอาชีพที่มีรายได้
ประเทศที่พัฒนาแล้วเขายังสนับสนุน
เอ แล้วอะไรอีกนะ เหตุผลที่เขาเถียงๆ กันบนเว็บนะ
สมัยนี้ใครโจมตีคนเล่นเกมจะกลายเป็นพวกหัวโบราณซะหมด ทั้งๆที่เวลาเขาด่าคนเล่นเกมก็ด่าพวกแบ่งเวลาไม่เป็นจนเสียการเสียงาน เสียการเรียนนั่นแหละ พวกที่ทำชีวิตได้ดีแล้วจะเล่นเกมยังไงเสียเวลาเท่าไหร่ก็ไม่มีใครว่าอะไรหรอก
คือมันมีคนประเภทเหมารวมน่ะสิครับ ไม่ได้มองแบบคุณก็มีนะครับ เช่น คนเล่นเกมส์เป็นพวกไม่เอาไหน คนเล่นน้อยก็เป็นซับเซ็ทของพวกไม่เอาไหน
อย่างใน twitch tv สตีมเมอร์คนไทยที่พอมีคนดู follow ตลอดเฉลี่ย 200 คน จะได้ 17,000 บาท ต่อเดือน หลังหัก 50% กับ twicth แล้ว
แล้วยังไม่รวมที่โดนเนท 50 100 500 บาท ต่อวัน อันนี้ไม่แน่ใจว่าได้ 30% มั่ง
ก็ลองคูณไปละกัน แถมสตีมเมอร์คนนี้ ก็สตีมทุกวันด้วย
แต่ก็อย่างว่า ทุกอาชีพก็มีคนที่ประสบความสำเร็จ ทำแล้วรอด อยู่ได้ แต่ก็มีไม่เยอะเท่าคนไม่รอด เช่นเดียวกับ PUBG แชมป์มีได้แค่คนเดียว (ตี้เดียว)
อยากจะทำแบบนี้ได้บ้างจัง
ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่วัยรุ่นทั่วโลกเริ่มหันมาสนใจการเข้าสังคมโดยใช้เกมเป็นตัวเชื่อมผ่านกัน ดีกว่าสร้างสงครามแบ่งแยกฝ่ายกันทำลายกันไปมาไม่รู้จักหยุด เกมทำให้โลกพบหนทางแห่งการสร้างสันติภาพอย่างแท้จริง แถมยังได้ใกล้ชิดครอบครัวมากขึ้นด้วย กินอาหารพร้อมหน้ากันและอาศัยอยู่ในบ้านพร้อมกันอย่างอบอุ่น
ผมทำงานออฟฟิตแต่ใช้เวลาแค่กับเกมก็เกิน 520 ชม. ต่อปีอีกนะ (วันละไม่ถึง 2 ชม.) ถ้านับคอมน่าจะหลายพันอะ เพราะใช้ทำงานด้วย
ถ้าวันนึงนักกีฬา eSport มีรายได้เท่านักฟุตบอลระดับโลก เช่น เมซซี่ โรนัลโด้ ตรงนี้จะยังเป็นปัญหามั้ยครับ
คนที่มีรายได้ขนาดนั้นมีกี่คนครับ แล้วคนเล่นทั่วไปนี่มีรายได้สักเท่าไหร่?
นักบอลเองก็ใช่ว่าจะมีเยอะนะครับ
ผมก็หมายถึงนักบอลนั่นแหละครับ
ต้องถามว่าจะมีวันนั้นไหมดีกว่า บอลมันเม็ดเงินมหาศาลมากๆ ค่าตั๋วเข้าชมแต่ละนัด ค่าลิขสิทธิ์สินค้า โฆษณาสารพัด จริงอยู่ที่เม็ดเงินจาก e-sport ก็ไม่ใช่น้อยๆอาจจะเยอะกว่ากีฬาเล็กๆบางประเภท แต่ก็ไม่น่าไปถึงขั้นนั้นได้ ที่จะมีคนนับหมื่นยอมซื้อตั๋วหลายพันหรือหลักหมื่นเพื่อเข้าไปนั่งดูเขาแข่งสดมากเท่าบอล บอลมันเข้าถึงง่ายกว่า ใช้ทุนน้อยกว่า ทั่วไปส่งเสริมกันมากกว่า โดยรวมๆแล้วคงยากมากๆสำหรับ e-sport แต่ซักวันถ้าบูมมากจริงๆ ก็อาจจะโกยเม็ดเงินจากส่วนนี้ได้เยอะอยู่ฮะ แต่ก็ไม่น่าเท่าบอลอยู่ดี . . .
สิ่งที่ยกมาทั้งหมดนั่นไม่เห็นจะต่างกันเลยครับ ตลาดมันเพิ่งเริ่มเองตอนนี้ ประเด็นพวกนี้ผมยังไม่เห็นว่าตลาดรวมมันน่าจะเล็กกว่ากีฬาเลย ติดอยู่อย่างเดียวคือจำนวนเกมในตลาดมันเยอะไปหน่อย ยิ่งอนาคตพอตลาดโตพอเกมก็จะเยอะไปอีกหารไปจะเหลือทีมแข่งเกมละเท่าไหร่หว่า ยกเว้นว่าตลาดมันพร้อมกว่านี้พอแล้วก็มีเกมไหนที่เด่นขึ้นมากว่าชาวบ้านจริงๆ
คนดูคนเล่นเกมไม่ดูบอล ยอมจ่ายให้สินค้าหลายๆอย่างของเกม ก็มีเยอะนะครับ ผมก็คนนึง รอบๆตัวก็หลายคนเลย ถ้าเอากลุ่มคนที่สนิทๆหน่อยก็แทบไม่มีใครดูบอลเลยมั้ง
ก็จริงครับที่ ตลาดอาจจะไม่เล็กถ้านับคนที่เล่นเกมทั้งโลก ทุกแพลตฟอร์ม ทุกประเภทเกม รวมๆมันก็เยอะจริงๆน่ะครับ แต่ถ้าแยกเป็นเกมที่เด่นพอจะนำมาแข่งเป็นทางการแล้วคนสนใจมันน้อยมากๆน่ะผมว่า ฟุตบอลเนี่ยกฎมันตายตัว หน้าตามันเหมือนเดิม ลูกบอลกลมๆ สนามหญ้าเขียวๆ กรรมการ โกลประตู ฯ แต่กับ e-sport อย่างที่คุณว่าเลย มันหลากหลายมาก มันกลายเป็นความชอบเป็นรสนิยมที่ตัดสินคนจะเข้าชม หรือติดตาม ยกตัวอย่างนะ ผมชอบเล่นเกม แต่ผมไม่ชอบ DOTA ,ROV ,OverWatch ,CS Strike etc. ผมไม่คิดจะดูมันเลยด้วยซ้ำ ดูก็ไม่เข้าใจตัวละครเยอะแยะ ออกของอะไรไม่รู้ กดสกิลบวกกัน ฯ / กลับกันผมไม่ชอบดูบอล ไม่ใช่แฟนบอล เล่นบอลก็ไม่ แต่ผมสามารถดูการแข่งขันมันได้ ผมเข้าใจกฎมัน ผมรับรูปแบบของมันได้ เพราะมัน "สากล" มันเข้าถึงง่าย มันมีมานาน มันถูกปลูกฝั่งมาตั้งแต่เด็กๆซึ่งจนถึงปัจจุบันมันก็ยังคง "เหมือนเดิม" มองกลับมาที่เกมดูมั่ง ในทุกๆปีมันมีเกมใหม่ๆตบเท้ากันเข้ามาเรื่อยๆ เกมที่พร้อมจะกลายเป็น e-sport ที่สดใหม่กว่า น่าดึงดูดกว่า ตัวละครใหม่ วิธีเล่นใหม่ๆ เอฟเฟคใหม่ๆ และไม่มีแนวโน้มว่าจะหยุดอยู่แค่เกมใหม่นี้เกมเดียว มันจะมีมาอีกเรื่อยๆ คิดว่าเกมที่จะเป็น e-sport เนี่ยจะมีอายุอยู่ในแวดวงเกมครองยอดผู้เล่นตลอดกาลได้มหาศาลไปกี่ปีครับ . . . Overwatch จะอยู่ได้กี่ปี DOTA ล่ะ(อันนี้ก็แอบเชียร์เพราะเห็นอยู่มานานระดับหนึ่งแล้ว) หนทางค่อนข้างไกลครับที่จะให้มันโตในระดับสากล และไกลมากๆที่จะให้เทียบเท่ากับกีฬาใหญ่ๆ(100ปี+ vs 10ปี+)
ก็ยังไม่เห็นจะแตกต่างในเชิงแนวคิดอยู่ดีครับ
กีฬาก็คิดกันใหม่เรื่อยๆ ถ้ารุ่นลูกหลานการใช้ชีวิตเปลี่ยนไปยังมั่นใจได้อยู่ไหมว่าบอลจะยังยิ่งใหญ่อยู่ คุณสรุปเพราะปัจจุบันมันมีสถิติแบบนี้แล้วมันก็เป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวคุณและคุณสนใจครับ การเข้าใจกฏเกมมันก็ไม่ใช่ว่าต้องใช้เวลานาน กับบอลเองสมัยเด็กๆเตะกับเพื่อนทุกวันนี้กฏแบบที่ต้องใช้กับสนามจริงหลายๆอย่างผมยังไม่รู้เลย ถ่ายทอดกีฬาผมไม่ดูด้วยไม่รู้จะดูคนอื่นเค้ามาเล่นให้ดูทำไม คือถ้าไม่มีสถิติให้เห็นเอาเฉพาะกลุ่มกีฬาผมก็แยกไม่ออกด้วยซ้ำว่ากีฬาไหนคนเล่นเยอะ