Canon เปิดตัวกล้อง EOS 6D Mark II รุ่นถัดจาก 6D โดยมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่หลายอย่าง
ตัวกล้องกล้องใช้เซนเซอร์ 26.2 ล้านพิกเซลแบบฟูลเฟรม ใช้หน่วยประมวลผลภาพ DIGIC 7 สามารถดัน ISO 100-40,000 มีระบบโฟกัส 45 จุดแบบกากบาททั้งหมด และมี Dual Pixel CMOS AF สามารถถ่ายภาพรัวได้สูงสุด 6.5 ภาพต่อวินาที อัดวิดีโอได้สูงสุด 1080p ที่ 60 เฟรมต่อวินาที ใช้เซนเซอร์ 7560-pixel RGB+IR metering sensor เหมือนกับ EOS 80D
ส่วนประกอบอื่น เช่น ตัวกล้องซีลกันน้ำกันฝุ่น จอเป็น LCD ขนาด 3 นิ้วปรับหมุนได้ และรองรับการสัมผัส พร้อมระบบการเชื่อมต่อ Wi-Fi, NFC, Bluetooth และ GPS
สำหรับราคาของ Canon EOS 6D Mark II มีดังนี้
ตัวกล้องพร้อมวางจำหน่ายเดือนสิงหาคมนี้
ที่มา - dpreview
Comments
น้ำตาจะไหล ฟูลเฟรมจอสัมผัสพับได้
Cross-Type มากกว่า 1 จุด T-T
Canon เดี๋ยวนี้แทบไม่ innovate ออกของใหม่สเปคยังกะ a7II ที่ออกตั้งแต่ปี 2014 เจ้านั้นขายแค่ 5 หมื่นเอง
@mamuang
ไปดูภาพถ่ายตัวอย่างที่ Dpreview มาแล้ว
โดยรวม DR ดีขึ้นมากเพราะ Dual Pixel แต่ความคม หามีไม่
มีช่องเสียบไมค์ แต่ไม่มีช่องเสียบหูฟัง? ขนาด 80D ยังมีเลยอ่ะ-*-
Dual Pixel ไม่ได้ทำให้ DR เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด ....
รอมานาน เจอราคาเงิบแปป
Canon กั๊กสเปคเสมอ ถ่ายวีดีโอ 4K ไม่ได้ ทั้งๆที่ ยี่ห้ออื่นเซ็นเซอร์ APS-C กับ M4/3 ถ่ายได้เกือบหมดแล้ว
DSLR มันห่วยแล้วครับเดี๋ยวนี้ สมมติหยิบมาพูดถึงแค่เรื่อง Machanism มันมีข้อจำกัดเรื่องของ cycle สูงสุดที่สามารถยกกระจกได้
Sony เขาพัฒนา Fullframe แบบ Mirorless ไปไกลแล้ว แถมภาพที่ได้ดีกว่า คมกว่า ไวกว่าด้วย เพราะแสงตกกระทบตัว sensor โดยตรง ไม่ต้องมีการยกกระจก ขึ้นอยู่กับความสามารถของการรับภาพสูงสุด/เวลา ว่าทำได้แค่ไหน ภาพที่ได้ก็เต็มกว่าด้วย
ที่สำคัญมีกลุ่มอีโก้สูงที่ไม่ยอมรับว่า Mirorless แบบ Fullframe มันลดข้อจำกัด DSLR ได้หลายอย่างจริงๆอีกด้วย ตรงนี้แหละที่ปวดหัว เหมือนเป็นนิสัยติดตัวคนบ้านเราๆกันไปแล้ว ไม่ใช่แค่เรื่องกล้อง แต่ในทุกๆเรื่อง
แอบงง คือ DSLR นี่ยกกระจก ยกม่าน shuttle ปุ๊ปแสงก็ตกกระทบตรงถึง Sensor โดยตรงเหมือน Mirrorless นะครับ
เห็นด้วยเรื่องอีโก้น่ะครับ แต่ เทคนิคผมไม่รู้ ^^
ยังเหลือเรื่องความอึดของแบตอยู่ครับ ณ ตอนนี้ยังไงผมก็ยังเชื่อมั่นใน DSLR มากกว่า ส่วนที่คุณยกมาในเรื่องของ cycle ของการยกกระจกนี่ผมว่าค่อนข้างไร้สาระครับ เพราะส่วนนี้ไม่ได้พังได้ง่ายๆ และไม่ได้เป็นประเด็นสำคัญจนเป็นปัญหาในการใช้งาน ยกเว้นว่าเจอแจ็คพอตจริงๆ ที่เห็นด้วยบางส่วนคือเรื่องของคุณภาพของภาพที่ตรงนี้ผมคิดว่ามันใกล้เคียงกันแล้ว
ผมว่าเค้าน่าจะหมายถึง cycle สูงสุดที่ยกได้ต่อวินาทีมั้งครับ ไม่ใช่อายุการใช้งาน
a9 ทำได้ถึง 20fps แล้วเพราะไม่ต้องยกกระจก
@mamuang
ถ้าเป็นเรื่องนั้นคงต้องยอมให้ทางฝั่ง MRL แหละครับ
SLR มันถูกจำกัดด้วยกลไกกระจกสะท้อน ไม่แปลกใจอยู่แล้วครับ
แต่สิ่งที่กล้อง Live view ยังสู้ DSLR ไม่ได้ แถมเป็นเรื่องสำคัญด้วย นั่นคือการใช้พลังงาน
DSLR จะใช้พลังงานมากแค่ตอนกดชัตเตอร์ เพราะเซนเซอร์รับภาพจะทำงานแค่ตอนที่มีการบันทึกภาพเท่านั้น ในขณะที่กล้อง Live view จะต้องใช้งานเซนเซอร์รับภาพตลอดเวลาตั้งแต่เปิดกล้อง ทำให้ใช้พลังงานมากกว่า DSLR ถ่ายภาพได้น้อยกว่าในประจุแบตเตอรีเท่ากัน
สำหรับการใช้งานทั่วไป ไม่มีปัญหาเลยครับ แต่ถ้าใช้เพื่อทำงานที่ต้องพร้อมบันทึกภาพตลอดเวลา การเปลี่ยนแบตเตอรีก็ขัดขวางการได้ภาพนะครับ
ประมาณนั้นครับ เคยเผลอลืมเปิดกล้องทิ้งไว้ไม่รู้นานแค่ไหนแต่ที่แน่ๆ อย่างน้อยมากกว่า 1 วันครับ แบตเตอรี่ยังแทบจะไม่ลด