By: trinakub 
on 15 June 2017 - 20:53
Tags:
เมื่อไม่นานมานี้ทางสตูดิโอ Bungie ผู้พัฒนาเกม Destiny 2 ได้ออกมายืนยันว่า fps เกม Destiny 2 จะถูกจำกัดไว้ที่ 30 บนเครื่อง Xbox One X เช่นเดียวกับ PS4 Pro ถึงแม้ Xbox One X จะมีสเปคที่สูงกว่าก็ตาม
ทาง Bungie ไม่ได้อธิบายออกมาชัดเจนว่าเพราะเหตุใดจึงตัดสินใจเช่นนั้น สิ่งนี้ทำให้เกิดข่าวลือในหมู่แฟน ๆ ขึ้นมาว่าทาง Sony อาจทำข้อตกลงบางอย่างกับทางทีมพัฒนา ทำให้เครื่อง Xbox One X ไม่สามารถแสดงศักยภาพได้เต็มที่บนเกม Destiny 2
ล่าสุด Jim Ryan ผู้เป็น Global Head ฝ่าย Sales และ Marketing ของ PlayStation ได้ออกมากล่าวยืนยันผ่านการสัมภาษณ์กับทาง Eurogamer ว่าข่าวลือนี้ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด พร้อมกับอธิบายว่า Sony ทำสัญญากับทีมเกม Destiny ตั้งแต่ต้นปี 2013 ซึ่งในขณะนั้นทาง Sony ยังไม่ได้วางขายเครื่อง PS4 ด้วยซ้ำ คงไม่มีใครคาดคิดไปถึงเครื่อง PS4 Pro ตั้งแต่ตอนนั้นแน่
ทางฝั่ง Phil Spencer หัวหน้า Xbox ก็ออกมากล่าวปฏิเสธในเรื่องนี้ว่า ตัวเขาเองก็ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับสัญญาที่ว่าแม้แต่น้อย แต่ถ้ามีใครทำแบบนั้นขึ้นมาจริง คงไม่ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมนี้เป็นแน่ และเขาก็ไม่ชอบเรื่องแบบนี้ด้วย พร้อมกับสัญญาว่าสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นกับ Xbox อย่างแน่นอน
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
ผมมองว่า เรื่องเจนนี่ GPU แรงจริง แต่ CPU กลับดูง่อยเปลี้ยขับได้ไม่เต็มที่ จะรอเข็นที่เป็น Ryzen Base มาก็ไม่ทันแน่
I need healing.
os ของ console อาจจะรีดออกก็ได้
บน console เขารับกันได้ที่ 30 fps หรือนี่ @_@
That is the way things are.
จริงๆเขาเป็นแบบนี้กันมานานแล้วครับ แค่เขาในหลายๆคนโกหกตัวเองว่าภาพมันดีกว่าและลื่นกว่า PC
ความจริงโจ๊กยังเละน้อยกว่าอีก
ผมไม่รู้สึกว่ามันแรง ลื่นกว่า PC นะ
จริงอยู่ว่ามันบางมากไม่มี Driver, Service, Background process, Software Layer อะไรมากวน เวลาพัฒนาเกมก็ทำได้ง่ายกว่าเพราะ HW มันตายตัวคำนวณได้ แต่ถ้าพลัง HW มันไม่ถึงมันก็มีกำแพงของมันอยู่นะ
ทีนี้ถ้าเป็น 30FPS คงที่ตลอดผมว่ามันโอเคนะ
ถ้าไม่ใช่แกว่ง 20-40FPS อะไรแบบนี้ อาจจะเป็นความเคยชินด้วย ถ้าไม่ใช่นักเล่นเกมจริงจังหรือเล่นเกมอะไรที่ห้ามหน่วงเลย บางเว็บไซต์ก็รีวิวให้ 30FPS เป็นขั้นต่ำที่เล่นได้แต่แนะนำที่ 60FPS มากกว่า ส่วนประสบการณ์ที่ดีที่สุดมันก็มีเกินนี้อีกไปถึงระดับ 120FPS 144FPS 240FPS ระดับพวก Professional Gaming E-Sport ระดับแข่งขันอะไรนู่นเลย
เอาจริงๆ ค่าเครื่องมัน 299$ 399$ 499$
มันเทียบกับ PC ไม่ได้อยู่แล้ว ซื้อได้แค่การ์ดจอรุ่นกลาง-สูงใบเดียวเอง (GTX1070 GTX1080)
ส่วนตัวเล่น Console เพราะมันสะดวก (ในหลายๆ อย่าง)
ไม่ได้หวังภาพสวยสุด Ultra Max Detail อะไร แล้วก็เกมดีๆ Exclusive ต่างจากโลก PC เยอะ หลายเกมภาพสวยนะ อย่าไปเทียบพวกเกม Multi ครับ Console เสียเปรียบเต็มๆ
60> fps เป็นพื้นฐานของ พีซีทุกเกมส์ครับ โดยเฉพาะพวกเกมส์ที่เขียนมาลง PC ก่อนพวกนี้จะลื่นมาก แต่พวกพอร์ตเกมส์จาก XB PS นี่เฟรมจะแกว่งกว่าผมสังเกตุมาหลายเกมส์แหละต้องแพทซ์อีกหลายแพทซ์ถึงจะนิ่ง ส่วนถ้าเกมส์ไหน ล๊อค์ไว้ที่ 30fps เกมส์มันจะกระตุกมากๆๆๆๆจนเวียนหัว เช่น เดตไรซ์ซิ่ง 3 นี่อย่างตู้ดดด
การมีเครื่องเล่นเกมส์มันก็ดีนะครับ แต่ PC มันมีความอิสระเป็นของตัวเองเยอะครับ มันปรับแต่งได้ทุกกระเบียดนิ้วมันแต่ง DIY ได้มันทำอะไรก็ได้และที่สำคัญมันเล่นเกมส์ได้ทุกเกมส์จริงๆ ไม่ว่าเกมส์นั้นจะย้อนไปในอดีตที่ห่างไกลแค่ไหนก็ตาม เพราะชาว PC มี Master Race ไว้ในใจทุกคนนั้นเอง อิอิอิอิอิอิ
https://www.youtube.com/watch?v=aDMsGl_XxTk
ขอบคุณที่เสริมให้ครับ
ส่วนเรื่อง PC อิสระนี่ผมก็ทราบครับ
PC ที่บ้านผมก็ไม่ใช่ราคาถูกๆ เพราะผมรู้ว่ามันสำคัญ แต่ผมก็ใช้หลายอย่างไม่ใช่แค่เล่นเกม บางทีมันรันงานอยู่มันก็ไม่สะดวกเล่นเกม กลับกัน Console ราคาแค่ 300$ เองนะ คุณจะไปเทียบกับ PC ได้อย่างไร ถ้าราคาเท่ากันก็เป็นได้แค่เครื่องพิมพ์งาน เล่นเว็บเปิด Google Chrome เยอะๆ ก็แรมเต็มแล้วครับ ถ้าใส่การ์ดจอ "ระดับกลาง" ให้พอเล่นเกมได้ใกล้เคียง Console มันก็ราคาสูงกว่าแล้ว ถ้าจะเอาดีกว่าก็บานปลายหลายหมื่น
อีกด้านนึงของ PC ปรับแต่งได้เยอะ
แต่บางเกมก็เจอ แฮค โปร โกง เต็มไปหมดมันก็เป็นข้อเสียครับ ปัญหาก็มีไม่น้อย เคยมีเกมนึงผมซื้อเกมจาก Steam ถูกต้อง ลงตามขั้นตอนแต่เล่นไม่ได้ อัพเดทไดรเวอร์ อัพเดทวินโดว์ก็แล้ว แจ้ง Support ก็เงียบ สุดท้ายโพสต์ลงใน Steam Community ก็มีคนเป็นเหมือนกันไม่น้อย สุดท้ายเลย Refund นี่ก็เป็นอีกปัญหาจุกจิกของ PC
ส่วน Console นั้นแทบไม่มี
คุณใส่แผ่น = ได้เล่นแน่นอน เพราะมันควบคุมง่ายทั้ง HW และ SW
"ที่สำคัญมันเล่นเกมส์ได้ทุกเกมส์จริงๆ"
ไม่จริงครับ ถ้าเกมมัน Console Exclusive ชาว PC ก็ไม่ได้เล่น เอาตรงๆ คนที่มาเล่น Console เขาก็หวังเกมกันส่วนมากครับ เกมดีๆ มากมายไม่ลง PC
Console Exclusive ก็เล่นได้ครับ เพราะ PC มีสิ่งที่เรียกว่า console emulator
ถ้าจะเอา Emulator มาอ้าง
มันจำลองไม่ได้จะสมบูรณ์นักหรอก ปัญหาจุกจิกเยอะมาก บ้างก็เล่นได้แค่บางเกม แต่ก่อนผมก็เคยเล่น PS2 ใน PC เช่นกัน แล้ว Xbox One, PS4 เนี่ยออกมาตั้งนานแล้ว Emulator เป็นไงมั่งอะครับ? แล้วพวก Emulator พวกนี้เอาตรงๆ มันไม่ค่อยถูกต้องนะครับผมเลยไม่อยากนับในตอนแรกครับ
ปัญหาจุกจิกไม่ใช่ประเด็นครับ คนเล่น emulator คงไม่มีใครคาดหวังว่าจะไม่เจอปัญหาหรอกมั้ง แค่เล่นได้ก็พอแล้ว
ส่วนสมควรหรือไม่ก็แล้วแต่จะพิจารณาครับ ผมแค่พูดถึงข้อเท็จจริง ส่วน emu X1, PS4 อันนี้ไม่ทราบครับ ไม่ได้สนใจ emu มานานละ
เท่าที่รู้ เอาแค่ The Last of Us (PS3) ตัว emulator ยังรันไม่ได้เลยนะครับ
Emulator ตั้งแต่เจนของ PS3 นี่ก็ใช้งานจริงแทบไม่ได้แล้วนะครับ แล้วยิ่งเกม Exclusive ของแต่ละค่ายนี่ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ เพราะเค้ารีดสเปคแบบจัดเต็มกันทั้งนั้น
แล้วคลิปนี้ล่ะครับ ของจริงหรือแค่ตัดต่อ
ขอคลิปที่เล่นจริงๆตั้งแต่ต้นจนจบหน่อยครับ
ลองดูของแชแนลนี้ดูครับ วิดีโอ
ได้ลองเองยังครับ เป็นไงบ้าง เล่นได้จนจบจริงไหม
ไม่ได้ลองครับ
ถ้ามีโอกาสได้ลองอย่าลืมมาเล่ากันฟังบ้างนะครับ
ตอบรวมประเด็นเล่นได้/ไม่ได้นะครับ
ตอนนี้เล่นไม่ได้ทุกเกมไม่ใช่เรื่องแปลกครับ เพราะประโยคที่ว่าเล่นได้ทุกเกมก็ไม่ได้หมายถึงต้องเล่นได้เดี๋ยวนี้? เดี๋ยวโปรแกรมมันพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ สเปกคอมแรงขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดมันจะเล่นได้เกือบทุกเกมในเจนนั้นเองล่ะครับ(แต่ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของคนเล่นอีกทีว่าเยอะแค่ไหน) คนเล่น emulator ผมเชื่อว่าไม่ใช่คนรีบร้อน เล่นได้ก็เล่น ยังเล่นไม่ได้เล่นเกม PC ไป
จริงๆ ในวงการ Emulator
มันมีปัญหาเยอะกว่า "สเปคแรง" ครับ ทั้งการเข้ากันได้ ชุดคำสั่ง ไลบารี่ เกมเอนจิน เพราะ Console มันไม่ได้มีทุกอย่างเหมือน PC และตัวมันเองก็มีหลายส่วนที่ PC ไม่มี OS ก็ต่างกันเยอะ ส่วนบางเกมที่เล่นได้ก็ดีไป บางเกมดังๆ แฟนๆ ก็ช่วยกันโมช่วยกัน Patch จนมันเล่นได้
แต่บางเกมถ้ามันปัญหาเยอะ แล้วดันไม่ดังอีก
มันไม่มีคนมาแก้บั๊ก หรือ Patch Support ให้นะครับ แน่นอนว่ามันก็จะเล่นไม่ได้ถูกลืมไปเลยก็ว่าได้ (ยกเว้นคุณจะมีความรู้แล้ว Fix เองทั้งหมดอะนะ) ส่วนที่มีคลิปโชว์เล่นได้ เอาจริงๆ มันแค่หยิบมือครับ เล่นไม่ได้เลยอีกเยอะมาก
ถ้าจะให้เล่นได้ 100% จริงๆ
คุณต้องจำลอง HW ระดับ Simulator เลยไม่ใช่แค่ Emulator ซึ่งเอกสาร HW หลายอย่างมันก็เป็นเอกสารลับครับ ถ้าคุณไม่ใช่วิศกรของโซนี่, ไมโครซอฟต์ก็ไม่มีทางเข้าถึงเอกสารพวกนี้
ส่วน SW ก็ต้องเอาของไบนารี่ Console ทั้งหมดออกมา
ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเรายังไม่สามารถ Hack เครื่อง PS4 XB1 ได้แบบหมดจดก็ยังไม่สามารถทำได้เช่นกัน ยกเว้นทาง Sony, M$ จะโอเพ่นซอร์สออกมาเองน่ะนะครับ
ได้ไม่ได้มันขึ้นอยู่กับเวลาครับ ไม่งั้นเราคงไม่ได้เห็น emulator อยู่กลาดเกลื่อนหลายยี่ห้อหลากเครื่องอยู่เต็มเน็ตหรอก และก็ไม่จำเป็นต้องเล่นได้ 100% และเล่นได้ทุกเกมครับ แค่ระดับเล่นได้และเล่นได้เฉพาะเกมที่คนอยากเล่นก็ถือว่าเล่นได้แล้ว
คือส่วนตัวผมไม่ได้เล่น console มาตั้งแต่สมัย N64 นู่นน่ะครับ แต่ว่าสมัยก่อนก็มีทั้ง PS1, Sega Saturn และ N64
พอมาเล่น FPS บน PC เกมแรก ๆ ที่เล่นของผมรวมถึงใครหลาย ๆ คนก็น่าจะเป็นเกม Counter Strike ภาคแรกซึ่งการ์ดจอสมัยนั้นคือ Voodoo อะไรสักอย่างจำไม่ได้แล้ว ไปเล่นที่ร้านเกมที่สยาม (ถ้าแก่พอจะรู้จักร้าน Cyber Blue) ก็จำได้ว่า fps ประมาณ 30-40 นะครับ ซึ่งนี่คือประมาณเกือบ 20 ปีมาแล้ว ดังนั้นการพูดถึง 30 fps ในปี 2017 ผมถึงได้ตกใจไม่คิดว่าจะยังอยู่กันที่ตัวเลขนี้อีกเหรอ แน่นอนว่าภาพของเกมมันก็สวยขึ้น มี texture details มากขึ้น แต่ผมก็คาดหวังตัวเลข fps ที่สูงกว่านี้อยู่ดี อย่างน้อยควรจะเป็น 40 fps เพราะจอทีวีก็รับได้ที่ 60 Hz มาเป็นสิบปีแล้วเหมือนกัน
ส่วนเรื่องเกม exclusive ผมเฉย ๆ ความสนุกมันเป็นเรื่องของปัจเจกและบางเกมผมก็ไม่คิดว่ามันสนุกอะไรขนาดนั้น อาจจะมีบางเกมที่ผมอยากเล่น เช่น God of War (ส่วน Horizon นี่ผมดู Twitch แล้วเฉย ๆ) เป็นต้น แต่เกมที่อยากเล่นก็มีไม่เยอะ และการมีเกม exclusive นั้นไม่ใช่จุดเด่นของ console แต่เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับ console มากกว่า เพราะถ้า console ไม่มีเกม exclusive แล้วยอดขายคงน้อยกว่าที่เป็นอยู่ ณ ปัจจุบันแน่นอน
อีกอย่างถ้าพูดเรื่อง exclusive ผมสงสัยว่าทำไมไม่มองมุมกลับว่า PC เองก็มีเกม exclusive ที่ไม่มีบน console เหมือนกัน เพราะไม่ใช่ทุกเกมที่มีบน PC จะไปทำบน console สักหน่อย ยกตัวอย่างเกมดังระดับที่คาดว่าจะได้ไป e-sports Olympics หลายเกม เช่น Dota 2, Hearthstone เป็นต้น เกมพวกนี้ก็คือ PC exclusive ไม่ใช่เหรอ ?
เอาจริง ๆ ผมว่าการไปพูดถึงเรื่องเกม exclusive นี่มันนอกประเด็นที่ผมสนใจแต่แรกไปมากนะ เพราะที่ผมสนใจคือเรื่อง fps ผมไม่ได้คาดหวังให้ console ทำได้ 144 fps อะไรหรอกเพราะทีวีส่วนมากก็ refresh rate ที่ 60 Hz ทั้งนั้น (ซึ่งเป็นตัวเลขนี้มาเป็น 10 ปีแล้วอย่างน้อย ถ้าผมจำไม่ผิดนะ) บางเจ้าดีหน่อยรุ่นกลางค่อนไปทางบนก็ refresh rate ไป 100-120 Hz ก็มี ดังนั้นผมจึงคาดหวังว่า console จะทำได้อย่างน้อย 80% ของ average tv refresh rate ก็คือ 80% ของ 60 (48 fps) ไม่ใช่แค่ 50% (30 fps) แบบนี้
สุดท้ายแล้วอยากจะบอกว่า เงินของคุณ คุณอยากเล่นเกมบน platform ไหนก็ซื้อไปเถอะครับ ผมไม่ได้มาเถียงหรือมาสั่งว่าคุณควรใช้เงินแบบไหนถึงจะคุ้ม ผมพูดถึงมาตรฐานของวงการเกมที่คนเล่นเกมควรจะรับได้กันมากกว่า สำหรับผมส่วนตัวแล้วผมรับได้ที่ 60 fps สำหรับเกมประเภท action, 3rd person action rpg, 1st person shooter ส่วนเกมที่ไม่ต้องเปลี่ยนภาพเร็ว ๆ เพื่อการเล่นเกม เช่น Civilization หรือเกม simulation ต่าง ๆ ผมว่า 45 fps ก็โอเค แต่จริง ๆ ก็อยากได้ 60 fps อยู่ดี ส่วนตัวเลข 30 fps นั้นบอกตรง ๆ ผมรับไม่ได้ (ผมเล่นบน PC นะ)
That is the way things are.
ผมมองว่าเรื่อง FPS มันเป็นเรื่องของ "รับได้" หรือ "ไม่ได้" นะ
มันไม่ใช่ว่าจะต้องเพิ่มไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด อย่างดูหนัง ดูทีวี ดูอนิเม มันก็ไม่ได้หนีไปจาก 24 FPS 30 FPS เท่าไหร่นัก เราก็ติดกับตัวเลขนี้มาหลายปีแล้วและจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานเพราะมันรับได้แล้ว (สายตา สมองสั่งการ) แต่ไม่ดีที่สุดและแน่นอนว่า 60 FPS มันดีกว่า (ความลื่นไหล เนียน ความดีงาม)
ถ้าท่านเล่น 60 FPS มาตลอดและพบว่า 30-45 FPS มันต่ำเกินไป
ผมก็เข้าใจครับ ก็เหมือนหูฟังที่กลับไปฟังหูฟังถูกๆ ไม่ได้แล้ว แต่สำหรับคนที่เล่น 30FPS มาประจำบอกตรงๆ ว่ามันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น (แต่อย่างที่บอกว่ามันก็แค่เล่นได้ ขั้นต่ำอะนะครับ) สังเกตจากยอดขายก็ได้ครับ ตัวเลขไม่ใช่น้อยๆ เลย
ส่วนเรื่อง Exclusive
เอาเป็นว่ามันก็มีทั้ง 2 ฝั่งตามที่ท่านว่าครับ ส่วนเรื่องความชอบมันแล้วแต่บุคคล (ส่วนตัวผมชอบมาก) ส่วนเรื่องนอกประเด็นผมยอมรับว่าผมไม่ได้ตอบ Comment ท่านตรงๆ (ไม่งั้นผมคง Reply ท่านแทน) มันเลยออกประเด็นเยอะหน่อย (ขออภัย)
ส่วนเรื่องเกมมันก็แค่ Platform ถูกแล้วครับ
แต่ละคนมีเงิน มีความสะดวกใจ สะดวกเวลา สะดวกความรู้ไม่เหมือนกัน แต่เรื่องประเด็น FPS ผมตอบในส่วนแรกนะครับ
เดี๋ยวจะเริ่มขัดตากับ 60 FPS กันละครับ ไปชินกับ 120 FPS จากไอแพดกันแทน :p
ผมหมายถึง การเล่นในเครื่องตระกูลเดียวกันครับ PC มันเหนือตรงที่เกมส์ของ PC จะออกมานานแค่ไหน ก็เอากลับมาเล่นได้แน่นอนครับ ถึงอาจจะต้องผ่าน Emu dos บ้างก็เถอะนะครับ
ส่วน PS XB NiN ถ้าบริษัทผู้ให้บริการไม่รองรับเกมส์จากเครื่องเก่าๆก็เล่นไม่ได้นะครับ ต้องเก็บเครื่องเก่าๆไว้ด้วยมันจึงยากที่จะเกมส์เก่าๆ ได้
ตรงนี้ PC เมื่อคุณได้เป็นเจ้าของเกมส์แล้วคุณจะได้เล่นไปตลอดกาล จนกว่า Microsoft มันจะเลิกทำ backward compet นะครับ
ถ้าหมายถึงประเด็นนี้เห็นด้วยครับ
ส่วนเรื่อง Console เนี่ย
วัฒนธรรมการ "ล้างหน้าไพ่ใหม่หมด" หลังๆ ทาง Sony, M$ เองก็เริ่มเข้าใจว่ามันไม่ได้เกิดประโยชน์มากนัก เพราะเราสามารถอัพเกรดสเปคไปเรื่อยๆ ทดแทนได้ (ขอให้ซัพพอร์ตนานพอ) แถมไม่ต้องเริ่มใหม่หมดทั้งเกมและการพัฒนา SW อีกด้วย เพราะปัจจุบันปถาปัตยกรรม CPU GPU มันก็เหลือในระดับแนวหน้าไม่เยอะแล้ว ไม่จำเป็นที่จะต้องทำ Custom Designed Chip แบบสุดโต่ง ลดต้นทุนการพัฒนาและเวลาได้มากโข
เราเลยเห็นข่าว เราอาจจะไม่ได้เห็น PlayStation 5 อีกเลยในอนาคต ก่อนหน้านี้ออกมาครับ เพราะโมเดลมันกำลังจะเปลี่ยนไปแล้ว การ Backward Compat จะดีขึ้นครับ เพราะมันจะเป็น Gen เดียวกันไปตลอด แต่อัพเกรดสเปคขึ้นเรื่อยๆ แทน เล่นเกมเก่าได้ ส่วนเครื่องเก่าก็เล่นได้เช่นกัน (แต่ก็มีระยะเวลาลอยแพของมันครับ)
ตอนเล่น Multiplayer ผมว่ามันน่ามีปัญหา เพราะถ้ามีคนที่เล่นได้ทั้ง 30fps และ 60fps อยู่ในแมปเดียวกัน โดยเฉพาะคนทีใช้ Console รุ่นแรกๆ ที่ไม่รองรับ 4k มันจะเกิดการแสดงผลที่ไม่พร้อมกัน นอกเหนือจากตัวแปรอื่นๆ เช่น Ping แล้ว
ตัดเป็น 30fps ทีเดียวจบ
อีกอย่าง ทีวีส่วนใหญ่ก็รองรับสูงสุดแค่ 60fps แค่นั้นหล่ะครับ มันไม่เหมือน Monitor PC ที่ Console ที่มันลื่นก็เพราะว่า Render ที่ Resolution ต่ำกว่า PC ส่วน PC ที่ต้อง Render ตามความละเอียดจอถึงจะได้ภาพคมชัด(ซึ่งผกผันกับความลื่นไหล) อีกอย่าง Console คุยกับ I/O แบบ Native ไม่มี API มาคั่นกลางแบบ PC ดังนั้น หลายๆ กรณี Console จะรีดประสิทธิภาพ GPU ได้ดีกว่า ซึ่งผมว่าถ้าจะหาการ์ดจอที่ Render ได้แรงกว่า Console เอาหน่วย FLOPS มากางเทียบดูน่าจะง่ายกว่า
ตอนปลายยุค PS3 นี่ frame rate ล่วงต่ำกว่า 30 fps ก็มีนะครับ ฮ่าๆ
จะมีแค่เกมขับรถบางเกมเช่น GT5 ส่วนฝั่ง XBox ก็ Forza ที่ 60FPS
แปลกดี น่าจะรันได้เกินนะ
fps 30 ผมโอเคแฮะ เล่นทั้งพีซี ทั้งคอนโซล รู้สึกว่าเค้าทำมาให้เล่นแบบไหนก็เล่นแบบนั้น คอนโซลมันก็คือคอนโซล พีซีก็คือพีซี ไม่รู้จะมาแขวะกันทำไม ถึงผมจะมั่นใจว่าพีซีที่ใช้อยู่ประสิทธิภาพดีกว่า PS4 แต่เปิดเกมเล่นใน PS4 มันก็คนละอารมณ์กับพีซีอยู่ดี
เรื่อง FPS นี่ 60FPS มันดีกว่าอยู่แล้วแหละนะ แต่พอมาเจอ Uncharted 4, Horizon Zero Dawn งี้ ภาพมันสวยเนียนจนตอนเล่นอยู่เนี่ยลืมคำว่า FPS ไปเลยครับ >_<
+1
ภาพสวยหนักจนไม่สนใจเฟรมเรตเลย โมชั่นต่างๆของเกมก็ช่วยเรื่องนี้เยอะนะครับ