Wall Street Journal อ้างข้อมูลจากอดีตพนักงานแอปเปิลที่อยู่ในทีม Siri เผยเบื้องหลังที่ทำให้ Siri พัฒนาช้ามากในช่วงหลัง แม้จะเริ่มต้นก่อนคู่แข่งหลายปี
เคยมีการทดสอบของบริษัท Stone Temple ยิงคำถาม 5,000 คำถามไปยัง AI เหล่านี้ ผลคือ Google Assistant และ Amazon Alexa ให้ผลลัพธ์แม่นยำ 90% ในขณะที่ Siri ทำได้ 62%
ปกติแล้ว แอปเปิลมักเข้าตลาดทีหลังคู่แข่ง แต่แซงมาเอาชนะได้ในภายหลัง กรณีของ Siri แอปเปิลเป็นฝ่ายเข้าตลาดก่อนตั้งแต่ตอน iPhone 4s ในปี 2011 (และเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ตัวท้ายๆ ของสตีฟ จ็อบส์ด้วย) แต่กลับถูกแซงโดยทั้ง Amazon และ Google
เหตุผลหนึ่งเป็นเพราะ iPhone ประสบความสำเร็จสูงมาก จนทำให้วิธีคิดของแอปเปิลต้องผูกทุกอย่างเข้ากับ iPhone ตลอดเวลา ในขณะที่คู่แข่งอย่าง Amazon สามารถคิดต่างด้วยการสร้างอุปกรณ์ชนิดใหม่ๆ อย่างลำโพง Echo ขึ้นมาได้
ทีมงาน Siri ยังอธิบายว่าแอปเปิลจ้าง Bill Stasior ผู้บริหารฝ่าย search จาก Amazon เข้ามาดูแลโครงการ Siri แต่ความเชี่ยวชาญของเขาคือเรื่อง search ไม่ใช่เรื่องเสียงพูดหรือภาษา ส่งผลให้ทีมงาน Siri บางคนมองว่าวิสัยทัศน์เดิมที่จะสร้าง Siri ให้ทุกแอพใช้งานได้ ไม่สามารถเป็นได้จริง แอปเปิลหันไปเน้นปรับปรุง Siri สำหรับงานง่ายๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ iPhone แทน
ผู้ก่อตั้ง Siri สองคนคือ Adam Cheyer และ Dag Kittlaus จึงลาออกในเวลาต่อมา และออกไปตั้งบริษัท Viv Labs ที่ภายหลังซัมซุงซื้อกิจการไปเป็น Bixby
หลังผู้ก่อตั้งลาออกไปแล้ว แอปเปิลยังมีปัญหาการเมืองภายในของทีม Siri โดยพยายามรวมทีม speech recognition กับทีม natural language เข้าด้วยกัน สุดท้ายต้องเปลี่ยนตัวเป็นผู้บริหารที่ไม่มีความรู้ในเรื่องนี้ และผู้เชี่ยวชาญด้าน speech recognition บ้างก็ลาออกไปอยู่กับสตาร์ตอัพ บ้างก็ไปอยู่กับคู่แข่ง Amazon/Google
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ อดีตทีมงาน Siri มองว่า Amazon/Google พัฒนาระบบ AI ดีกว่าเพราะมีข้อมูลใช้เทรนมากกว่า ต่างไปจากแอปเปิลที่เน้นเรื่องความเป็นส่วนตัว ข้อมูลที่ใช้เทรนจึงเป็นข้อมูลทั่วไปที่ไม่อิงอยู่กับตัวผู้ใช้งาน
ที่มา - Wall Street Journal
Comments
หรือนี่คือสัญญา
สัญญาณ !!!
ขอเวลาอีกไม่นาน
"ต่างไปจากแอปเปิลที่เน้นเรื่องความเป็นส่วนตัว " ตกลงมันดีหรือไม่ดีกันหว่า ที่แอปเปิ้ลเลือกใช้วิธีนี้
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
ก็ข้อมูลใครข้อมูลมัน เลยไม่มีข้อมูลผู้ใช้งานจริงมาเทรนไง
ซึ่งแอปเปิลเลิกใช้วิธีเดิมแล้ว HomePod นี่ส่งข้อมูลเสียงกลับเซิร์ฟเวอร์ แม้จะบอกว่าไม่ระบุตัวตน แต่ถ้าส่งกลับแล้วผมก็ไม่แน่ใจว่าการไม่ระบุตัวตนจะดีกว่าไหม เทียบกับกูเกิลที่ระบุว่าเป็นผมแแล้วให้ผมไปลบใน My Activities ได้
lewcpe.com, @wasonliw
"ปกติแล้ว แอปเปิลมักเข้าตลาดทีหลังคู่แข่ง แต่แซงมาเอาชนะได้ในภายหลัง"
จริงเหรอ ?
ดีไม่ดีจะแพ้ Bixby ด้วยสิ
มีอีกหลายๆ บ ที่หัวหน้าในแผนกไม่มีความเชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ จนทำให้ลูกทีมเก่งๆต้องลาออกแบบน่าเสียดาย
อ่านแล้วก็พอเข้าใจว่าทำไมเทคโนโลยีบางอย่างก็ตามๆกันมา คือคนทำจริงๆมีไม่กี่คนนี่เอง ต่างก็วนเวียนอยู่ในวงการไม่เปิดเองก็ไปทำให้เค้า ไปเปิดเองสุดท้ายก็อาจจะโดนซื้อ ไปทำให้เค้าก็รอเวลาออกมาทำงาน วนไปมา
ตอนเปิดตัวมาดนี่แบบ Killer Feature แต่มาๆไปๆ กลายเป็นแค่ตัวฮาในเครื่องแทน
ทำเป็นเล่นไป ตอนจอแตกผมนี่ใช้สั่งเปิด/ปิดเพลงอยู่นะ แต่ในสถานการณ์ปกตินี่ไม่ได้ใช้เลย ?
"อดีตทีมงาน Siri มองว่า Amazon/Google พัฒนาระบบ AI ดีกว่าเพราะมีข้อมูลใช้เทรนมากกว่า ต่างไปจากแอปเปิลที่เน้นเรื่องความเป็นส่วนตัว ข้อมูลที่ใช้เทรนจึงเป็นข้อมูลทั่วไปที่ไม่อิงอยู่กับตัวผู้ใช้งาน"
.
กล่าวหาลอยๆแบบไม่มีหลักฐานประกอบแบบนี้จะดีเร้อ
ก็ไม่ได้ลอยๆ นิครับ Apple พูดมาตลอดว่าระบบของตัวเองจะไม่เก็บข้อมูลผู้ใช้ พูดบนเวทีพรีเซนต์ด้วยซ้ำ
เทียบกับ google ที่อิงข้อมูลได้ตลอดว่าผู้ใช้คนไหน ท่องเน็ต หรือทำอะไรเป็นยังไง
หมายถึงกล่าวหาว่ากูเกิลใช้ข้อมูลผู้ใช้ในการเทรน?
ถ้าในความหมายนั้นกูเกิลเขาเปิดเผยนะครับว่าใช้จริง แต่ระบุกระบวนการใช้งานว่าระบุตัวตนได้ยาก
lewcpe.com, @wasonliw
May the Force Close be with you. || @nuttyi
"ปกติแล้ว แอปเปิลมักเข้าตลาดทีหลังคู่แข่ง แต่แซงมาเอาชนะได้ในภายหลัง"
มีอะไรบ้างอยากรู้
อันนี้ผมก็นึกอยู่ ที่พอจะมองออกก็ apple watch มั้งครับ
มือถือจอใหญ่ , สแกนลายนิ้วมือ มีอะไรอีกหว่า
Apple pencil
มาทีหลัง...คนอื่นแถม...พี่เปิ้ลขาย 3900
ฟินเลย
ตั้งแต่แรก ๆ ก็เริ่มเข้าตลาด Creative ดังจนถึงตอนนี้ เห็นคนในวงการชอบให้ Mac กันเยอะ, เครื่องฟังเพลงดิจิตอลขนาดเล็กอย่าง iPod (เล่นเอาวอล์คแมนซบเซาไปเลย), บุกเบิกยุคสมาร์ทโฟน (เจ้าอื่นทำมาตั้งนาน ไม่เห็นกระตุ้นให้ตลาดไปทางนั้นเลย), iPad ก็ดังนะสมัยนั้น (สมัยนี้ซบเซาลงทั้งตลาดละ), นาฬิกาก็มาทีหลัง ยอดขายก็ไม่น้อยนะ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
สุดท้ายจะทำให้ Siri ดี เท่าคู่แข่ง ก็คงต้องกลับนโยบายเรื่องความเป็นส่วนตัวที่ปกติจะเอาไว้ใช้โจมตีคู่แข่ง
Cortana ล่ะ...
เธอจะเป็นอมตะต่อไปในจักรวาล Halo
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
555555
Microsoft เหมือนเอลฟ์ครับ ความสามารถสูงและยิ่งใหญ่อยู่อาณาจักรของตัวเอง(ริเวนเดล) ส่วน Apple นี่เป็น มังกรสม็อกครับ Lonely and loves gold
Apple ขยายแนวกว้าง
นี่ใช้ภาษาไทยกับ Siri ได้แล้ว
แค่มันไม่ได้เก่งขึ้น แต่มันใช้กับหลายภาษาได้มากขึ้น