CRRC บริษัทผู้ให้บริการรถไฟฟ้าของจีนได้เปิดตัว Smart Bus หรือ Autonomous Rail Rapid Transit (ART) เป็นรถกึ่งบัส กึ่งแทรม ต่อกัน 3 คัน ไม่ได้วิ่งบนรางแต่วิ่งไปตามเส้นประบนถนน และที่สำคัญคือขับเคลื่อนอัตโนมัติ
ตัวรถจะถูกติดตั้งเซ็นเซอร์และถูกโปรแกรมมาให้ตรวจจับและขับตามเส้นประบนถนน วิ่งที่ความเร็วสูงสุด 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รองรับผู้โดยสารได้ 307 คนสำหรับ 3 คัน ซึ่งสามารถเพิ่มหรือลดได้อย่างอิสระ ใช้แบตเตอรี่เป็นแหล่งพลังงาน สามารถวิ่งได้ราว 25 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 10 นาที
ข้อดีของ Smart Bus หรือ ART คือต้นทุนถูกกว่ารถไฟหรือแทรม (รถใต้ดินต้นทุนราว 102 ล้านดอลลาร์ ART ต้นทุนอยู่ที่ราว 2 ล้านดอลลาร์) รวมถึงไม่ต้องมีการติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ให้ยุ่งยาก ปัจจุบันเส้นทางของรถ ART กำลังถูกสร้างอยู่ในเมืองจูโจว เป็นระยะทางราว 6.5 กิโลเมตร เริ่มเปิดใช้งานปีหน้า
Comments
สุดท้าย มันก็ต้องมาวิ่งร่วมกันรถปกติบนถนน มันก็หนีไม่พ้นอุบัติเหตุจากรถบนท้องถนนที่วิ่งอิสระอยู่ดี (เมาแล้วขับ วิ่งเร็ว แล้วเป๋ชนรถไฟ)
ตู้รถไฟ เรียกว่า "คัน"
ตู้รถไฟหลายๆ คันต่อกัน เรียกว่า "ขบวน"
"โบกี้" คือส่วนรับน้ำหนักตู้รถไฟ ประกอบด้วยเพลา สปริง เรียกตามศัพท์ภาษาไทยว่า "แคร่"
ในตู้โดยสาร 1 คัน จะมี 2 โบกี้ รับน้ำหนักไว้หัว/ท้าย
ดังนั้น ตู้รถไฟจึงเป็น "คัน" ไม่ใช่ "โบกี้"
อ้างอิงจาก
https://www.facebook.com/Thaitrainstory/posts/622112151250367
โบกี้ >>> คัน
โบกี้คือส่วนช่วงล่างของรถไฟครับ
เจอน้ำท่วมทำไงอ่ะครับ
25 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 10 ชั่วโมง มันจะใช้งานได้ต่อเนื่องเหรอ? หรือว่าพอวิ่งครบรอบก็วิ่งเข้าอู่เปลี่ยนสลับแบต?
25 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 10 "นาที"
ก่อนหน้านี้เขายังไม่ได้แก้
รับทราบครับ
ถอดแบตเปลี่ยนก้อนใหม่ไม่ง่ายกว่าหรือ แต่สงสัยว่าทำไมรถไฟฟ้ากับบริษัทผลิตรถไม่ตั้งสถานีเปลี่ยนแบตแต่กับใช้ระบบชาร์ตซึ่งเสียเวลา ถ้าหากรถจอดอยู่ที่บ้านการชาร์ตเป็นเรื่องที่ไม่มีปัญหา แต่การวิ่งระยะไกล การถอดเปลี่ยนจะสะดวกกว่ามาก อีกอย่างสถานีถอดเปลี่ยนแบตำม่จำเป็นต้องมีขนาดใหญ่ แค่พื้นที่จำหรับจอดรถขนาด 2-3คูหาก็สามารถจัดการได้
ทำไหมน่ะทำครับ แต่จะออกมาใช้จริงได้รึเปล่านี่ก็อีกเรื่องนึง
ผมว่ารถประจำแบบนี้เหมาะสมมากครับ เพราะรถแบบนี้น่าจะกำหนดรุ่นคล้ายๆกันได้ แถมผู้ใช้ต้องจัดการกับแบตเสื่อมก็บริษัทตัวเองอยู่แล้วการจัดการง่ายมากนิครับ แล้วแบตเสื่อมก็ต้องจัดการอยู่แล้วไม่ว่าจะรถแบบเปลี่ยนแบตหรือไม่ แต่ชาร์จ 10 วิ่งได้ตั้ง 25 KM ชารืจจนเต็มวิ่งทั้งวันน่าจะพอนะในเมืองหลวง แต่รถส่วนตัวอาจจะยังไม่ถึงเวลาหรืออาจรอเทคโนโลยีชาร์จที่ดีกว่าแทนไปเลย
ใช่ครับถ้าเป็นรถในข่าวก็โอเค แต่จอดพักรถแค่สิบนาทีนี่ก็เหลือเฟือแล้ว
เสริมอีกนิดว่าแบตมันไม่ใช่ก้อนเดียวเล็ก ๆ เหมือนในรถน้ำมันนะครับ แบตอย่างใหญ่ หลายก้อน เปลี่ยนทีก็ต้องแกะเครื่อง ยกเข้ายกออก พนักงานคนเดียวทำไม่ได้แน่ และรถก็ไม่ได้ออกแบบมาให้ถอดแบตเข้า-ออกได้ง่าย ๆ ด้วย (ถ้าจะออกแบบให้มันทำแบบนั้นได้ก็เป็นปัญหาใหญ่อีกเช่นกัน)
คงไม่มีใครอยากเอารถเข้าปั๊มเติมเชื้อเพลิงทีนึงเหมือนเอารถเข้าอู่ทุกครั้งน่ะครับ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
แทรม นี่บ้านเราเรียกรถรางรึป่าวครับ
ใช่ครับ
ชาร์จ 10 นาที วิ่ง 25 KM แก้ด้วยครับ
BRT ไร้คนขับ?
สมมุติว่ามีคนมือบอน ทาสีรอยประเป็นเส้นทางเพิ่ม หรือย้ายแนว
ต้องเจอกับการขุดถนนละครับ ขุดแล้วปะ ปะแล้วขุด
ประโยชน์พอมีนะ แต่สงสัยออกแนวเหมือนรถบัสข้ามหัวที่โดนแฉทีหลังมากกว่า
ใครเคยอยู่วงการโรบอทจะเข้าใจว่า อันนี้ของเบสิคมากๆ ประมาณว่าพวกโรบอทที่แข่งกันใช้การกำหนดทิศทางการเคลื่อนไหวแบบนี้เป็นเบสิคสุด
ถ้าเทียบ ต้องเทียบกับ BRT มากกว่าเพราะมันก็ยังล้อยางข้อดีของระบบรางเรื่องการประหยัดพลังงานแน่นอนว่ามันขาดตรงนี้ไป ซึ่งน่าคิดว่าต้นทุนการลงทุนเรื่องระบบที่เพิ่มขึ้นมากับจ้างคนขับ อันไหนคุ้มกว่าในประเทศค่าแรงถูกแบบจีน
Shut up and ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ raise your dongers ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ
+1 มันก็ไม่ต่างจากไมโครบัสติดระบบเพิ่ม อยากรู้จริงๆว่าถ้าโดนฝนหนักๆเซนเซอร์มันจะอ่านออกไหม? (keep lane assist ของ MB ยังแยกไม่ออกเลย )
มาไทยขยะเกลื่อนวิ่งมั่วเลยดิ
มาไทยขับเองยังจะไม่รอด