ช่อง CNBC อ้างแหล่งข่าวภายในระบุว่าเฟซบุ๊กกำลังย้ายเซิร์ฟเวอร์ WhatsApp ออกจากบริการคลาวด์ IBM SoftLayer หลังจากปล่อยให้ใช้บริการเดิมมานับแต่เข้าซื้อบริษัทในปี 2014
ปกติแล้วผู้ให้บริการคลาวด์มักอ้างอิงลูกค้าดังๆ เช่น AWS มักจะพูดถึง Netflix หรือ Google Cloud อ้างถึง Snap และ Spotify แม้ว่าไอบีเอ็มจะไม่ได้พูดถึง WhatsApp ต่อสาธารณะแต่แหล่งข่าวของ CNBC ก็ระบุว่ามีการอ้างอิงอยู่บ้าง โดย WhatsApp ใช้เซิร์ฟเวอร์กว่า 700 ตัวและจ่ายค่าเซิร์ฟเวอร์เดือนละสองล้านดอลลาร์
WhatsApp รันบน SoftLayer มาตั้งแต่ปี 2009 ก่อนที่ไอบีเอ็มจะเข้าซื้อเป็นส่วนหนึ่งของบริการ Bluemix
ที่มา - CNBC
Comments
เมืองไทยแอพนี้ไม่ค่อยมีใครใช้ แต่ไปสิงคโปรใช้กันทุกคนเลย
ในอาเซียนด้วยกัน เห็นจะมีแต่ไทยครับเท่านั้นครับที่ใช้ LINE เป็นหลัก ส่วนใหญ่ WhatsApps เป็นหลักครับ
เดาว่าเพราะ LINE มันเปิดตัวเป็นบริการฟรี แต่ WhatsApps นั้นฟรีปีแรกแล้วหลังจากนั้นเก็บค่าบริการเป็นรายปี แม้ว่าจะแค่เพียงไม่กี่เหรียญสหรัฐก็ตาม คนไทยเลยแห่ไปทาง LINE เสียเพราะมันฟรีแถมมีสติกเกอร์ฟรีอีกต่างหาก คนไทยจำนวนมากเลยนิยมใช้งาน
พอเริ่มต้นมีฐานลูกค้าเยอะกว่ามากแล้ว ก็เป็น network effect ครับ
ผมใช้งาน Whatsapp มาตั้งแต่ช่วงที่ยังนิยมกันในไทย หลังจากนั้นมีแอปแชตหลายตัวเข้ามา เช่น Kakao Talk แต่ก็ไม่สามารถแย่งความนิยมได้
(ใช้มาตั้งแต่สมัยที่บน iOS ใช้ฟรีปีแรก แต่ Android นี่ฟรีตลอดชีพ ไม่รู้ว่าทุกวันนี้ยังเป็นนโยบายเดิมอยู่หรือเปล่า)
จนกระทั่งการมาถึงของ Line ที่มาพร้อมสติกเกอร์ที่โดดเด่นโดนใจคนไทย
เพื่อนสาวๆ ในกลุ่มผมที่ตอนแรกยังใช้ Whatsapp กันอยู่ มีลองแอปแชตอื่นกันบ้าง แต่ก็ยังไม่เปลี่ยนใจ พอเจอสติกเกอร์ไลน์ปุ๊บนี่ร้องกรี๊ดกันเลย
ผมเลยมองว่าที่ไลน์ครองตลาดไทยได้เพราะสติกเกอร์มากกว่าเรื่องฟรีนะ
พอสาวๆ ย้ายไปไลน์ ส่งผลให้หนุ่มๆ ต้องย้ายตาม แล้วพอลูกหลานใช้ พ่อแม่ก็เลยต้องใช้ตามไปด้วย
~ HudchewMan's Station & @HudchewMan~
ใช่ครับ สำหรับสาวๆแล้ว จะดีหรือดีไม่รู้ ขอให้มันน่ารักไว้ก่อน ยิ่งมีสติกเกอร์ sanrio ด้วยนี่เหมือนโดนสะกดจิตยังไงอย่างงั้นเลย
แรกๆมีส่วนครับเรื่องฟรี
แต่แค่กลุ่มแรกๆเท่านั้น กลุ่มหลังๆเพราะสติ๊กเกอร์ทั้งนั้นครับ ต้องถามกลุ่มผู้หญิงครับ
เดาว่า Facebook น่าจะลดค่าใช้จ่ายการใช้ Cloud ลง เพราะ Facebook เองก็สามารถทำ Cloud Infra ได้เองอยู่แล้ว