Tags:
Node Thumbnail

เมื่อวานนี้สิงคโปร์มีงาน Infocomm Media Business Exchange การแลกเปลี่ยนบริการไอทีสำหรับธุรกิจในสิงคโปร์ รัฐมนตรี Yaacob Ibrahim มากล่าวเปิดงานก็ถือโอกาสประกาศนโยบายด้านไอทีของประเทศไปพร้อมกัน พร้อมกับพูดถึงโครงการของรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง

นโยบายสี่ด้าน ได้แก่

  • ด้าน AI และ Data Science รัฐบาลสิงคโปร์เพิ่งตั้งโครงการ AI.SG พร้อมเงินทุนวิจัย 150 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์เพื่อพัฒนาความสามารถในการแข่งขันด้านปัญญาประดิษฐ์ของประเทศ ส่วน Data Science มีการจัดตั้ง Singapore Data Science Consortium เพื่อเพิ่มความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษา, สถาบันวิจัย, และอุตสาหกรรม
  • ด้านความปลอดภัยไซเบอร์ มีโครงการสร้างบุคคลากร Cybersecurity Associates and Technologists (CSAT) เพื่อป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรม พร้อมกับสร้างห้องวิจัยด้านความปลอดภัยไซเบอร์ที่มหาวิทยาลัย NUS
  • ด้าน VR/AR Ibrahim ระบุว่า VR/AR มีศักยภาพที่จะช่วยพัฒนาประสิทธิภาพของอุตสาหกรรมได้ โดยเฉพาะ VR ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนในห้องเรียน โดยตอนนี้มีความร่วมมือกับสตูดิโอเพื่อสร้างสื่อการเรียนเป็น VR ในโรงเรียนประถมนำร่องแล้ว 5 แห่ง และโครงการทุนวิจัยของรัฐบาลก็สนับสนุนในเรื่องนี้
  • ด้าน IoT และโครงสร้างการสื่อสาร รัฐบาลจะยกเว้นค่าคลื่นความถี่สำหรับการทดสอบโครงข่าย 5G เพื่อสนับสนุนให้มีการเปิดเครือข่ายทดลอง โดยตอนนี้สิงคโปร์เลือกช่วงความถี่ของ 5G แล้วและเตรียมรับฟังความคิดเห็นเรื่องการกำกับดูแลโครงข่าย 5G ต่อไป

ประเด็นอื่นๆ ในงานเดียวกัน มีพูดถึงการปรับปรุงเครือข่าย Wireless@SG ให้ใช้งานได้โดยไม่ต้องล็อกอินทุกครั้ง โครงการฝึกอบรมอาชีพ TechSkill Accelerator ที่ช่วยเสริมความสามารถเช่นจากนักออกแบบกราฟิกสามารถไปทำงาน UX designer การร่วมมือกับอุตสาหกรรมพัฒนาคนที่ทำงานอยู่แล้วให้เพิ่มความสามารถเช่น Agile Development, DevOps, Information Security, และ Data Analytics และมหาวิทยาลัย NUS และ NTU ที่ปรับเปลี่ยนหลักสูตรแยกออกมาทีละส่วนให้เลือกเรียนได้ เช่น Cybersecurity, Software Engineering, และ Business Analytics

ที่มา - IMDA, Channel News Asia

No Description

No Description

Get latest news from Blognone

Comments

By: GoblinKing
Windows PhoneWindows
on 24 May 2017 - 09:17 #988766
GoblinKing's picture

นโยบายของเขาฟังดูชัดเจนมากครับ ถ้าเทียบกับแถวๆ นี้...

By: gab
Windows PhoneAndroidWindows
on 24 May 2017 - 09:55 #988776 Reply to:988766
gab's picture

งบวิจัย AI พอๆ กับงบระบบรวมศูนย์เพื่อจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจของบ้านเราเลย

By: threepat on 24 May 2017 - 11:03 #988808

ประเทศไทยเราก็อีกไม่นานหรอก 0.4 แล้วนี่นาเอ๊ยผิดๆๆ 4.0 แล้ว

By: darknw on 24 May 2017 - 12:58 #988843
darknw's picture

เห็นบ่อยๆ คอมเม้นท์ที่แสดงถึงความหมดหวังกับประเทศไทย ประเทศไทยด้วยเรื่องนั้นเรื่องนี้ เห็นด้วยว่ามันเป็นความจริง แต่คิดว่าน่าจะเป็นการแสดงความคิดเห็นเพื่อสนุกเฮฮาโดยส่วนตัวคิดว่าพื้นที่ที่นี่เปิดกว้างทางความคิดนั้นแหละ แสดงความคิดเห็นแบบนี้ได้ไม่ผิดอะไร แต่คิดว่าติเพื่อก่อแล้วก็ต้องให้ความเห็นว่าจะก่อได้อย่างไรน่าจะดีกว่า ไม่ใช่จะโยงมาเข้าเรื่องการเมือง เรื่องรัฐบาลซะทุกครั้งไป อย่างน้อยการเสนอความคิดเห็นดีๆ อาจจะทำให้พวกเราในนี้ได้อ่านไม่แน่อนาคตบางคนที่เข้ามาอ่านอาจจะเข้าไปทำหน้าที่มีส่วนบริหารประเทศ อาจจะเอาไอเดียดีๆนี้ไปใช้ก็ได้นะ

By: osmiumwo1f
ContributorWindows PhoneWindows
on 24 May 2017 - 15:16 #988875 Reply to:988843
osmiumwo1f's picture

มันเกิดจากที่บางนโยบายที่เราเริ่มก่อนใคร แต่คนอื่นดันทำเสร็จสมบูรณ์ไปก่อนเราครับ

By: frameonthai
ContributoriPhoneAndroidSymbian
on 24 May 2017 - 21:13 #988942 Reply to:988843
frameonthai's picture

"อาจจะ"

By: Thaitop_BN
Windows PhoneUbuntuWindows
on 24 May 2017 - 22:50 #988958 Reply to:988843
Thaitop_BN's picture

ทำไมจะโยงการเมืองไม่ได้ครับ? ก็นี่มันข่าวการเมือง

ปล. นโยบายของเว็บนี้คืออยากได้ต้องทำเองครับ อยากให้มีคอมเมนท์แบบไหนก็เชิญคอมเมนท์แบบที่คุณต้องการเลยครับ

By: aUnderscore
iPhoneAndroid
on 24 May 2017 - 14:44 #988870

วิสัยทัศน์ + กึ๋น นี่คือสิ่งที่สิงค์โปร์แสดงให้เห็นครับ

By: btoy
ContributorAndroidWindows
on 24 May 2017 - 17:28 #988899
btoy's picture

ผู้นำสิงคโปร์นี่ของแท้เลย รู้จริงและพยายามนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยนช์จริงๆ


..: เรื่อยไป

By: devilblaze
iPhoneAndroidWindows
on 24 May 2017 - 19:08 #988922
devilblaze's picture

น่าจะให้ ผู้อยู่เบื้องหลังความไฮเทคของขอนแก่น มาเป็นนายกซักหน คิดว่าไม่น้อยหน้าสิงค์โปรแน่

By: ash_to_ash
AndroidWindows
on 24 May 2017 - 20:36 #988935

มีคนเคยกล่าวว่ารัฐบาลทุกประเทศ ย้ำทุกประเทศต้องการเข้ามาควบคุม
พื้นที่ทางไซเบอร์ ผมก็เลยแว้บมา...การที่สิงคโปร์ผลักดันสนับสนุน
ก็เหมือนเอาตัวรัฐหนะหละเป็น 0 กลาง ทำให้รัฐรู้ว่าโครงสร้างมันเป็นยังไง
และสามารถบริหารควบคุมจัดการได้มากขึ้น.....ซึ่งดูจากหลายๆนโยบาย
การสนับสนุนใช้งบสูง และระยะเวลานาน แต่ก็เป็นการฝังรากให้ตัวเองเป็น 0 กลาง
ประชาชนก็ไม่ต่อต้านยินยอมให้รัฐเข้าถึงข้อมูลททางไซเบอร์ของตนด้วยความเต็มใจ....อืมมมมม
อารมณ์ประมาณ "ผมรู้คุณรู้ เดินไปด้วยกันเป็นเงา"

ปล.อาจจะคิดลึกไป