Node Thumbnail

ในคีย์โน้ตงาน Google I/O 2017 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ธีมหลักของงานนั้นชัดเจนมากว่าเป็นเรื่องของ AI ที่มีความสำคัญเหนือทุกสิ่งอย่าง (Android และ VR ถูกนำไปพูดช่วงท้ายๆ และแทบไม่พูดถึงบริการตัวเก่าๆ อย่าง Google Maps หรือ Chrome เลย)

ซีอีโอ Sundar Pichai ขึ้นเวทีพร้อมกับย้ำว่าโลกกำลังเปลี่ยนผ่านจากยุค Mobile First มาเป็น AI First (เขาพูดเรื่องนี้มาตั้งแต่ปีที่แล้ว) พร้อมกับอธิบายผลงานด้าน AI ของกูเกิลในปัจจุบันว่ามีอะไรบ้าง

บทความนี้จะสรุปประเด็นและวิเคราะห์ผลงานด้าน AI ของกูเกิลว่าไปไกลแค่ไหน และเปรียบเทียบกับคู่แข่งแล้ว กูเกิลยืนอยู่ตรงไหนในโลกของ AI

No Description

1. TensorFlow หัวใจสำคัญของแผนการ AI กูเกิล

ความก้าวหน้าของโลก AI ในปัจจุบัน มีโฟกัสอยู่ที่สาขา deep learning โดยมีไลบรารีสำหรับการฝึกสอน (เทรน) AI อยู่หลายตัว ส่วนใหญ่แล้วไลบรารีเหล่านี้กำเนิดมาจากโลกการศึกษา-วิจัยเป็นหลัก เช่น Caffe

แต่เมื่อกูเกิลเปิดตัว TensorFlow ในปี 2015 เวลายังผ่านไปไม่ถึงสองปีดี ความนิยมก็เทมายัง TensorFlow อย่างชัดเจน ปัจจุบันงานด้าน deep learning แทบจะเริ่มต้นที่ TensorFlow กันเป็นดีฟอลต์ และทีม AI ที่เคยใช้ไลบรารีตัวอื่นอย่าง DeepMind ของกูเกิลเอง ก็ย้ายมาใช้ TensorFlow กันเรียบร้อยแล้ว

No Description

แต่เท่านั้นยังไม่พอครับ ระดับกูเกิลแล้วไม่เคยทำอะไรอันเดียว ไลบรารียอดนิยมอันดับสองหรือสามในโลก deep learning ตอนนี้คือ Keras (ที่เน้นงานระดับ high level กว่า TensorFlow) ก็พัฒนาโดย François Chollet ที่ตอนนี้เป็นพนักงานของกูเกิล

ตัว Chollet เองเคยสำรวจความนิยมของไลบรารีด้าน deep learning ในเดือนกันยายน 2016 และพบว่า Top 3 คือ TensorFlow, Caffe, Keras แปลว่ากูเกิลเป็นเจ้าของไลบรารียอดนิยม 2 ตัว (ส่วน Caffe ตัวต้นฉบับเป็นของมหาวิทยาลัย Berkeley) อำนาจของการกำหนดทิศทางโลก deep learning จึงอยู่ในมือกูเกิลไม่มากก็น้อย

การพิชิตวงการ deep learning ยังไม่จบเพียงแค่นั้น ในงาน I/O ปีนี้ กูเกิลก็ประกาศออก TensorFlow Lite ที่จะสามารถประมวลผล deep learning บนมือถือได้ ช่วยแก้ปัญหาว่าเราเก็บข้อมูลจากสมาร์ทโฟน แล้วไม่ต้องการ/ไม่สามารถส่งไปเทรนบนคลาวด์ของกูเกิลได้ ก็เทรนกันในมือถือนี่ล่ะ (และแน่นอนว่าเอนจิน deep learning ใน Android หลักพันล้านเครื่อง ก็คงไม่ใช่ตัวอื่น)

No Description

ความน่าสนใจคือคู่แข่งในตลาดไลบรารี deep learning ส่วนใหญ่มาจากวงการวิจัย ขณะที่คู่แข่งจากภาคธุรกิจกลับมีไม่เยอะนัก ที่เพิ่งเริ่มต้นคือ Microsoft CNTK และ Facebook ที่เพิ่งประกาศทำ Caffe2 โดยทีมวิจัยที่สร้าง Caffe เวอร์ชันแรก แต่ก็ต้องยอมรับว่าตอนนี้ TensorFlow ล้ำหน้าไปไกล และครอบครองจิตใจของนักวิจัยสายนี้ไปได้เยอะแล้ว

คู่แข่งจากภาคธุรกิจ: Facebook Caffe2, Microsoft CNTK, Amazon DSSTNE

2. เทรนโมเดล AI ผ่านคลาวด์: ล้ำหน้ากว่าใครด้วย TPU

วงการนักวิจัยที่มีคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง อาจใช้วิธีดาวน์โหลดไลบรารีอย่าง TensorFlow หรือ Caffe ไปรันบนเครื่องของตัวเองได้ไม่ยากนัก แต่นั่นแปลว่านักวิจัยต้องทำเองทุกอย่างตั้งแต่การเตรียมเครื่อง ติดตั้งซอฟต์แวร์ จนไปถึงการเทรนและรันทดสอบโมเดล

สำหรับภาคธุรกิจที่ต้องการงานด้าน AI แต่ไม่ต้องการเสียเวลาเรียนรู้เท่า กูเกิลก็มีบริการ Cloud Machine Learning ซึ่งอยู่ภายใต้ร่ม Google Cloud Platform ให้ลูกค้าสามารถเช่าใช้เครื่องของกูเกิลเพื่อเทรนโมเดลได้ (แน่นอนว่าซอฟต์แวร์ที่ใช้คือ TensorFlow) ช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องการบริหารจัดการเครื่อง และการขยาย (scale) เครื่องถ้าจำเป็นต้องใช้งาน

แต่การนำไลบรารีโอเพนซอร์สมารันบนคลาวด์ให้คนอื่นเช่าใช้งาน เป็นเรื่องที่ใครๆ ก็ทำได้ กูเกิลจึงสร้างจุดต่างของตัวเองด้วยการออกแบบหน่วยประมวลผลพิเศษสำหรับงาน AI โดยเฉพาะ โดยใช้ชื่อว่า Tensor Processing Unit (TPU) และเปิดตัว TPU รุ่นที่สอง ในงาน I/O ครั้งที่ผ่านมา

alt="upic.me"

กูเกิลคุยว่าการประมวลผล AI ผ่าน TPU มีประสิทธิภาพดีกว่าการประมวลผลปกติหลายเท่า ตอนนี้ยังไม่มีคนนอกบริษัทได้ทดลองกันมากนักว่าจริงแค่ไหน แต่กูเกิลก็เริ่มเปิดบริการ Cloud TPU รุ่นทดสอบ และ TensorFlow Research Cloud (TFRC) ให้ลองใช้งานแล้ว

ถ้า TPU ทำงานได้ดีจริงตามที่คุย (ซึ่งก็น่าจะทำได้จากผลงานการรัน AlphaGo) และกูเกิลทำราคาได้ดึงดูดพอ ในอนาคตเมื่อทุกคนคิดถึงการเทรน AI บนคลาวด์ ก็คงคิดถึงกูเกิลเป็นอันดับแรก

ความน่าสนใจคือกูเกิลยังไม่มีคู่แข่งในตลาด TPU เท่าไรนัก ที่ใกล้เคียงที่สุดคือ Project Catapult ของไมโครซอฟท์ ที่ยังมีสถานะเป็นโครงการวิจัย ในขณะที่ฝั่งกูเกิลทำเสร็จออกมาเปิดให้บริการกับคนทั่วไปแล้ว

คู่แข่ง:

3. ขอแบบที่เทรนเสร็จแล้ว บริการ AI สำเร็จรูป เรียกใช้ได้ผ่าน API

ยกระดับความขี้เกียจไปอีกขั้น ภาคธุรกิจส่วนใหญ่อาจไม่ต้องการโมเดล AI ที่พิสดารอะไรมาก ขอแค่ AI ที่สามารถแยกแยะเสียงพูดได้ แยกแยะข้อความในภาพ แยกแยะวัตถุในรูปภาพ-วิดีโอ แปลภาษาในข้อความ ฯลฯ

บริการ AI สำเร็จรูปเหล่านี้ กูเกิลเทรนเสร็จเรียบร้อยและเปิดให้เช่าใช้งานผ่าน API มาสักระยะแล้ว เรียกว่ามาตัวเปล่า ไม่ต้องมีความรู้ด้านการวิจัย ไม่ต้องมีเครื่อง ไม่ต้องเทรนโมเดล กำแต่เงินใส่บัตรเครดิตมาเขียนโปรแกรมเรียกใช้ผ่าน API ของกูเกิลได้เลย

หลายคนน่าจะจำน้องคนนี้กันได้

คู่แข่ง: Microsoft Cognitive Services, Amazon AI Services (Amazon Lex)

4. AI กับการปรับปรุงบริการของกูเกิลให้ดียิ่งขึ้น

3 หัวข้อข้างต้นคือบริการด้านการฝึกสอนและการใช้งาน AI ส่วนในหัวข้อนี้คือการนำประโยชน์จาก AI มาปรับปรุงบริการเดิมๆ ของกูเกิลให้ดีกว่าเดิม (และล้ำหน้าคู่แข่ง)

Sundar Pichai พูดในคีย์โน้ตว่าเดิมทีในยุคของพีซี เราป้อนข้อมูลด้วยเมาส์และคีย์บอร์ด พอมาถึงยุคของสมาร์ทโฟน ก็เปลี่ยนมาเป็นการสัมผัสด้วยนิ้ว

แต่พอมาถึงยุคของ AI เราก็มีอินพุทใหม่พร้อมกัน 2 ทางคือ เสียงพูด (speech) และภาพ (vision)

No Description

4.1 เสียงพูด: โฟกัสที่ Google Assistant

Sundar โชว์ความแข็งแกร่งของกูเกิลที่ทำผลงาน speech recognition ภาษาอังกฤษได้ดีกว่ามนุษย์แล้ว มีอัตราการแยกแยะคำผิดพลาดต่ำมาก

No Description

ผลิตภัณฑ์หลักที่เรียกใช้ระบบแยกแยะเสียงพูดของกูเกิล ย่อมหนีไม่พ้น Google Assistant ผู้ช่วยส่วนตัวที่กำลังขยายพื้นที่มากขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมที่มีเฉพาะบน Google Pixel และลำโพง Google Home ก็จะขยายไปยังอุปกรณ์ Android รุ่นอื่น, ออกแอพบน iOS และเปิด SDK ให้นำไปใช้บนอุปกรณ์ประเภทอื่น

ที่ผ่านมา Google Home/Assistant อาจยังตามหลังคู่แข่ง Amazon Echo/Alexa อยู่พอสมควร แต่ในงาน I/O รอบนี้ เราก็เห็นกูเกิลไล่กวด Amazon อย่างรวดเร็ว ฟีเจอร์ที่ Alexa ทำได้มาก่อนอย่างการจ่ายเงิน-การโทรคุย ตอนนี้ Google Assistant แทบจะตามทันหมดแล้ว

คู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อในตลาดนี้ เหมือนจะมีเพียงแค่ Amazon เท่านั้น แต่กูเกิลก็ได้เปรียบกว่าตรงฐานผู้ใช้ Android จำนวน 2 พันล้านเครื่อง ที่สามารถอัพเกรดมาใช้ Google Assistant ได้ง่ายกว่ามาก

คู่แข่ง:

  • ผู้ช่วยส่วนตัว: Amazon Alexa, Microsoft Cortana, Apple Siri, Samsung Bixby
  • ลำโพงอัจฉริยะ: Amazon Echo, Harman Invoke

4.2 ภาพ: รอดูพลังของ Google Lens

การเกิดขึ้นของกล้องสมาร์ทโฟน ส่งผลให้วิธีการมองโลกของคนเปลี่ยนไป คนหันมาใช้การสื่อสารด้วยกล้องถ่ายภาพกันมากขึ้น (ตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จคือ Snapchat) และในงาน Facebook F8 เมื่อเดือนที่แล้ว Facebook ก็พูดเรื่องเดียวกันว่า Camera คือแพลตฟอร์มหลักของโลก AR

กูเกิลก็มองเห็นภาพนี้ และเปิดตัว Google Lens ฟีเจอร์ด้านการใช้กล้องเพื่อแยกแยะวัตถุต่างๆ ในโลก ด้วยพลังของข้อมูลที่กูเกิลมีเก็บไว้ เราสามารถใช้ Google Lens ชี้ที่วัตถุแล้วดูได้ทันทีว่าเป็นวัตถุอะไร เป็นสถานที่ไหน ถ้าเป็นร้านอาหาร ร้านนั้นได้รีวิวกี่คะแนน

Google Lens จะกลายเป็นตัวเชื่อมใหม่ระหว่างโลกออนไลน์กับออฟไลน์ เพียงแค่เรายกกล้องขึ้นมาเท่านั้น ตอนนี้ต้องรอ Google Lens ออกแล้วถึงจะรู้ว่าทำได้สมราคาคุยแค่ไหน (Samsung Bixby ก็มีฟีเจอร์นี้ แต่ใช้วิธีร่วมมือกับพาร์ทเนอร์รายอื่นอย่าง Pinterest)

No Description

นอกจากการใช้ Google Lens ดูข้อมูลวัตถุแบบเรียลไทม์ เรายังสามารถใช้ความฉลาดของมันกับภาพที่ถ่ายไว้แล้วได้ด้วย ตอนนี้คนที่ใช้ Google Photos ก็คงทราบดีว่ามันสามารถแยกแยะวัตถุในภาพตามที่เราค้นหาได้ แต่กูเกิลกำลังจะก้าวไปอีกขั้นด้วยการใช้ AI ตกแต่งภาพให้ออกมาตามที่เราต้องการ

เดโมในงาน I/O ถ่ายภาพลูกสาวกำลังตีเบสบอลผ่านรั้วลวดตาข่าย และพลังของ AI สามารถลบรูปรั้วนั้นออกไปให้เราได้เลย (ต่อไปกล้องมือถือคงแข่งกันด้วยฟีเจอร์นี้)

คู่แข่ง: Facebook Camera Platform, Samsung Bixby

5. บทสรุป

ทั้งหมดนี้คือภาพรวมของงานด้าน AI ของกูเกิลในปัจจุบัน ที่ยังไม่นับรวมงานสายงานวิจัย (เช่น DeepMind/AlphaGo) และงานที่อยู่ในส่วนของบริษัทแม่ Alphabet (เช่น รถยนต์ไร้คนขับ Waymo) ส่วนอื่นอีกมาก มากถึงขนาดกูเกิลต้องเปิดเว็บ Google.ai ขึ้นมารวมผลงานของตัวเองเผยแพร่ต่อสาธารณะ

จากผลงานด้าน AI ของกูเกิล จะเห็นว่ากูเกิลมีคู่แข่งมากมายในแต่ละระดับชั้น แต่คู่แข่งที่มีผลิตภัณฑ์ครบทุกระดับแบบเดียวกับกูเกิลนั้นยังไม่มี

สิ่งที่น่าจับตาต่อไปคือ กูเกิลจะสามารถใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และทีมงานด้าน AI จำนวนมากในปัจจุบัน เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้มากแค่ไหน อีกไม่เกิน 1-2 ปี เราน่าจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ของการแข่งขันในสายงานด้านนี้

No Description

Get latest news from Blognone

Comments

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 22 May 2017 - 12:29 #988265
hisoft's picture

หลายคนน่าจะจำน้องคนนี้กันได้

มันพีคตรงประโยคนี้

By: time3957
iPhoneWindows PhoneAndroidWindows
on 22 May 2017 - 14:44 #988299 Reply to:988265

ผมจำไม่ได้แต่อยากจำตั้งแต่บทความนี้

By: stickyficky on 22 May 2017 - 14:57 #988305 Reply to:988265

+1

By: dtobelisk
AndroidWindows
on 22 May 2017 - 22:23 #988399 Reply to:988265
dtobelisk's picture

เห็นแหวนที่นิ้วนั่นไหม...

By: Jonathan_Job
WriteriPhoneUbuntuWindows
on 23 May 2017 - 00:11 #988411 Reply to:988399
Jonathan_Job's picture

Thank you, Captain Obvious!

By: Alice13 on 26 May 2017 - 14:32 #989366 Reply to:988399
Alice13's picture

เห็นชื่อที่สลักบนแหวนนั่นไหม...

By: awachai
Android
on 23 May 2017 - 00:23 #988412 Reply to:988265
awachai's picture

ผมพลาดอะไรไป ×_×

By: super_lw
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 23 May 2017 - 13:02 #988519 Reply to:988265
super_lw's picture

ทำไมเรายังไม่วาร์ป


Educational Technician

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 23 May 2017 - 18:15 #988619 Reply to:988519
hisoft's picture

รวมกับ @awachai ไปรวดเดียวแล้วกันนะครับ 1, 2

วาร์ปได้เป๊ะมั้ยครับ ;)

By: zyzzyva
Blackberry
on 22 May 2017 - 13:52 #988281

มีหลาย AI unit เลยได้เปรียบ ทั้ง Google research เอง และ DeepMind, Google Brain, บางส่วนของ Google X และ Boston Dynamics, และที่ซุ่มๆอย่าง Quantum Artificial Intelligence Lab ด้วย

By: MrThursday
ContributorRed HatUbuntuWindows
on 22 May 2017 - 15:42 #988323 Reply to:988281

Boston Dynamics นี่เทพมากๆครับ ไม่อยากจะคิดเวลาเอาทุกอย่างมารวมกัน

By: bombanoi
Android
on 23 May 2017 - 18:58 #988625 Reply to:988323

Boston Dynamics นี้ไม่ใช่ว่าขายไปแล้วหรอครับ

By: zyzzyva
Blackberry
on 23 May 2017 - 19:16 #988628 Reply to:988625

ยังไม่มีอะไรออกมาอย่างเป็นทางการครับ

By: bucks on 22 May 2017 - 15:38 #988319

ฝั่งเว็บก็พูดถึง AMP กับ progress webapps กันอย่างสนุกสนาน แถมยังมี instant app อีก ผมว่าปีนี้ google io ไม่น่าเบื่อเท่าไหร่นะ ดีกว่าสองปีที่ผ่านมามาก

ที่ผมคิดว่ายังก้าวหน้าน้อยไปหน่อยคือ Android Things นี่แหละ

By: akira on 22 May 2017 - 15:56 #988327

ยังไม่มีผู้ชนะหรอก ตราบใดที่ AI ยังสร้าง หรือเขียน Model ของตนเอง โดยไม่ต้องอาศัยโปรแกรมเมอร์ไม่ได้ และยังไม่สามารถเชื่อมโยง Model ข้าม Platform เป็น AI Network เพื่อให้ไม่ต้องเรียนรู้ซ้ำซ้อนกัน ก็ยังได้แค่เป็นผู้เปิดตลาด AI ในการนำไปประยุกต์ใข้งานจริง

By: btoy
ContributorAndroidWindows
on 22 May 2017 - 16:21 #988335
btoy's picture

บรรดาทีมงานของ Google นี่เค้าเก่งจริงๆเนอะ นอกจากจะคิดนำไปไกลแล้ว ยังทำมันได้จริง นับถือจริงๆ


..: เรื่อยไป

By: zerocool
ContributoriPhoneAndroid
on 22 May 2017 - 22:24 #988400
zerocool's picture

ถ้าซื้อหุ้น Google ไว้เมื่อ 10 ปีที่แล้วนะ ...


That is the way things are.

By: KuLiKo
ContributoriPhoneWindows PhoneAndroid
on 22 May 2017 - 22:32 #988401 Reply to:988400
KuLiKo's picture

รู้อะไรไม่สู้รู้งี้

By: dangsystem
iPhoneAndroidBlackberryWindows
on 22 May 2017 - 23:13 #988407
dangsystem's picture

ใกล้แล้วสิน่ะ ไม่อยากเล่นแต่ก็อดคิดไม่ได้จริงๆ

By: tunnnnnn
iPhoneSymbian
on 23 May 2017 - 03:15 #988426
tunnnnnn's picture

ถ้า AI ดีๆ จะทำให้คนจ้อง จอมือถือน้อยลง ผมว่าก็เข้าท่านะครับ

จริงๆ น่าจะเป็นวิสัยทัศน์ หลักๆ ของบริษัท IT ใหญ่ๆ อย่าง Google, Apple และ Microsoft

Google เขาชัดเจนมาก ในขณะที่ Apple ยังไม่เห็นความสำคัญ และ ศักยภาพของ Siri เท่าที่ควร เน้นขายของมากไปหน่อย ตาม style CEO คนใหม่ ส่วน Microsoft ก็ยังต้องเร่งเครื่องตามคนอื่นให้ทัน น่าหนักใจแทน

By: MaxxIE
iPhoneAndroidUbuntuWindows
on 23 May 2017 - 20:52 #988654 Reply to:988426
MaxxIE's picture

เปลี่ยนจากจ้องมือถือมาเป็นพูดคนเดียวกับAIแทน

ส่วนเรื่องSiriนี่ แม้ลูกเล่นมันจะไม่ค่อยแพรวพราว แต่สำนวนการโต้ตอบมันเป็นธรรมชาติดีนะครับ
แม่ผมยังสงสัยเลยว่า(ขออนุญาตไม่สุภาพ) อีนี่เป็นใคร ทำไมว่างมาคุยกับเราได้ทั้งวันทั้งคืน

By: thanyadol
iPhone
on 23 May 2017 - 08:40 #988440

ยังเร็วไปสิบปี

By: loptar on 23 May 2017 - 12:39 #988512 Reply to:988440
loptar's picture

ผมว่า 10 ปีข้างหน้า จะเป็นยุคที่ Ai ถูกเอามาใช้กันอย่างแพร่หลายแล้ว
แต่คนที่ได้เปรียบ คือคนที่ลงมือทำในวันนี้อ่ะครับ

By: syootakarn
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 23 May 2017 - 13:01 #988518
syootakarn's picture

อนาคตเราคงใช้ AI เป็นที่ปรึกษาแน่ๆ เช่นเป็นครู เป็นทนาย
เป็นผู้ติดสินกกีฬา โอยไม่อยากจะคิด....

By: 7elven
ContributoriPhoneWindows PhoneAndroid
on 23 May 2017 - 13:03 #988520

ลองเล่น AI ของ microsoft เพราะฟรีอยู่ ก็ใช้งานได้ง่ายเหมือนกัน ต่อไป AI มาแน่ๆ

By: Alios
iPhoneAndroidWindows
on 23 May 2017 - 13:21 #988528

ผมละกลัวโดน AI ด่า เพราะถ้าด่าได้คงรู้ว่าแต่ละคนด่ายังไงให้เจ็บปวดและสำนึกมากที่สุด

By: Alice13 on 26 May 2017 - 14:22 #989365
Alice13's picture

อยากได้แบบจาวิส

By: paween_a
Android
on 26 May 2017 - 15:02 #989375
paween_a's picture

มีพลังกำหนดสนามต่อสู้เองได้ แต่ชัยชนะจะได้มาก็ต่อเมื่อผู้บริโภคยอมรับเท่านั้น ไม่ใช่ผู้กำหนดสนาม