ไมโครซอฟท์รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2017 (มกราคม-มีนาคม 2017) รายได้รวม 23,557 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 5,715 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13%
ซีอีโอ Satya Nadella กล่าวว่าผลการดำเนินงานที่ออกมา สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อ Microsoft Cloud ซึ่งมีฐานลูกค้าตั้งแต่องค์กรใหญ่นานาชาติ ไปจนถึงธุรกิจขนาดเล็ก-กลาง ตลอดจนองค์กรไม่แสวงผลกำไร ที่ล้วนใช้ผลิตภัณฑ์ด้านคลาวด์ของไมโครซอฟท์ ในการเปลี่ยนผ่านยุคดิจิทัล
รายได้กลุ่มธุรกิจ Intelligent Cloud เพิ่มขึ้น 11% ซึ่งปัจจัยหลักมาจาก Azure ที่เติบโตถึง 93% ส่วนธุรกิจ Productivity and Business Processes เติบโต 22% จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ Office
ด้านกลุ่ม Personal Computing รายได้ลดลง 7% สาเหตุหลักคือ Surface ที่ยอดขายลดลง 26% ขณะที่รายได้จาก Windows เพิ่มขึ้น
ที่มา: ไมโครซอฟท์ และ The Verge
Comments
โตต่อไป... และยังโตได้อีกมาก...เกาะกองทุนหุ้นเทคโนโลยีเหนียวแน่น...
ส่วนของ Surface ที่ตกลงแต่ทดแทนด้วย Windows ที่เพิ่มขึ้นนี่ผมว่าดีนะ เพราะว่าผู้ผลิตหลายเจ้าทำของเลียนแบบ Surface ใน Brand ตัวเองทำให้ผู้บริโภคที่อยากใช้ Windows 10 แต่อยากซื้อของผู้ผลิตที่ชอบได้มีทางเลือก ส่วน MS ก็กิน Windows License เนียนๆ WIN-WIN ทุกฝ่าย
มีเสียอย่างเดียวคือ เสียตังค์
ดิจิตอล => ดิจิทัล
มีตังเหลือดัน Windows mobile ไหม
ปล.ลิงค์ในข่าวผิด
ขอบคุณครับ แก้ไขแล้ว
ก็นะในความรู้สึกผม มันเป็น OS ที่แปลกแยกที่สุดในระดับ core ของระบบ แต่ก็มีผู้ใช้มากที่สุด อยู่ได้มาจนถึงแบบนี้ก็โครตเก่งแล้วหล่ะ ในความคิดผมระบบหลักๆมี 2 ตัวอ่ะนะ คือ DOS กับ Unix แบ่งแบบตาม command line และพวก Unix path หลัดจะเป็น root เหมือนๆกันหมด ของของ DOS นี่จำไม่ได้แฮะ