Tags:
Node Thumbnail

NIST เปิดตัวมาตรการการเข้ารหัสแบบรักษาฟอร์แมตข้อมูล (Format-Preserving Encryption - FPE) มาตั้งแต่ปีที่แล้ว ตอนนี้ทาง HPE ประกาศว่าโซลูชั่น SecureData ของบริษัทเป็นโซลูชั่นแรกที่ได้รับการรับรอง (validated) ตามมาตรฐานนี้

HPE SecureData with Hyper FPE ใช้กระบวนวิธีเข้ารหัสแบบ AES-FF1 เป็นหนึ่งในสามกระบวนวิธีที่มาตรฐานของ NIST รับรองให้ใช้งาน

ทาง HPE ระบุว่าบริษัทได้รับการรับรองจาก NIST ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา ผมเองตรวจสอบรายชื่อในเว็บของ NIST ยังไม่พบ แต่หากไม่มีอะไรผิดพลาดก็น่าจะมีรายการสินค้าที่ได้รับการรับรองเร็วๆ นี้

การเข้ารหัสแบบ FPE ทำให้หน่วยงานสามารถส่งต่อข้อมูลโดยไม่เปิดเผยตัวตน (de-identification) ได้ ตัวข้อมูลที่ปิดบังตัวตนยังคงมีฟอร์แมตคงเดิม เช่น ชื่อนามสกุลก็ยังคงเป็นตัวอักษรปกติ ขณะที่หมายเลขบัตรเครดิตก็ยังเป็นเลข 16 หลักเช่นเดิม แม้แต่วันเดือนปีก็สามารถเข้ารหัสได้เช่นกัน ประโยชน์การใช้งานเช่นการส่งข้อมูลออกไปประมวลผลภายนอกแต่ต้องการปิดบังตัวตนของเจ้าของข้อมูล เช่น การประมวลพฤติกรรมการซื้อสินค้าโดยไม่เปิดเผยชื่อลูกค้า แทนที่จะใช้การปิดข้อมูลบางส่วน เช่นส่งหมายเลขบัตรเครดิตบางหลักเช่นทุกวันนี้ ก็ให้เข้ารหัสข้อมูลทั้งชุดได้เลย

ที่มา - HPE Security

alt="upic.me"

Get latest news from Blognone

Comments

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 17 April 2017 - 15:13 #979972

น่าสนใจ ว่าการทำ FPE กับเลขบัตรเครดิตโดยให้ออกมามีจำนวนหลักเท่าเดิม แล้วผลออกมามันไม่ไปซ้ำกับเลขจริงๆของคนอื่นหรือไม่? (bin) และผลที่ได้ unique หรือไม่?

เพราะขนาดการ masking ตามหลักที่ไม่โชว์ full PAN ทุกวันนี้ ที่โชว์หน้าหกหลัก หลังสี่หลัก ยังมีโอกาสเจอชุดเลขซ้ำ(ไม่unique) ได้ง่ายๆเลยกับปริมาณบัตรที่มากพอ และทำให้เกิดการนับข้อมูลซ้ำ เพราะแยกไม่ได้ว่าเป็นของใครกันแน่

By: pawitp
Android
on 17 April 2017 - 15:25 #979976 Reply to:979972

ถ้าผมเข้าใจถูกต้องคือจะออกมาไม่ซ้ำแน่นอนครับ เพราะมันเป็น encryption (การเข้ารหัส) ซึ่งแปลว่าถ้ารู้ key ที่ใช้เข้ารหัส จะต้องถอดเลขบัตรที่ผ่าน FPE กลับมาเป็นเลขเดิมได้ครับ

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 18 April 2017 - 07:28 #980058 Reply to:979976

ที่กลัวจะซ้ำคือเข้ารหัสแล้วเลขออกไปตรงกับเลขบัตรจริงๆน่ะครับ จะชวนสับสนมากกว่า ว่าข้อมูลที่ได้รับนั้น ถูกเข้ารหัสมาแล้วจริงๆหรือไม่?

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 18 April 2017 - 08:22 #980062 Reply to:980058
lew's picture

หมายถึงตรงกับเลขบัตรคนอื่น? ถ้าแบบนั้นเป็นไปได้แน่ๆ ครับ แต่ข้อมูลอื่นๆ (ชื่อ นามสกุล วันที่หมดอายุ) เมื่อเข้ารหัสแล้วโอกาสตรงก็ควรจะน้อยมาก จนเสมือนว่าเป็นศูนย์นะครับ


lewcpe.com, @wasonliw

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 18 April 2017 - 09:52 #980073 Reply to:980062

เข้าใจครับว่า ถ้าเราไปจับคู่กับ key ตัวอื่นๆก็อาจจะทำให้แยกได้ ทว่าข้อมูลพวกนั้นก็น่าจะเป็นข้อมูลปกปิด(มันเลยเป็นปัญหากรณีใช้ Masking PAN เช่นกัน)

แต่สิ่งที่ข้องใจ คือเราจะทราบได้อย่างไรว่า ข้อมุลที่เรารับมานั้นถูกเข้ารหัสแล้ว?

เช่น เลขบัตรสมมติ 123456 เข้ารหัสแล้วกลายเป็น 567890 ซึ่งก็อาจไปตรงกับเลขบัตรของคนอื่นที่มีอยู่จริง ทำให้อาจเกิดความสับสนของผู้นำไปใช้ได้ว่า ข้อมุลที่ส่งมาเป็น Full PAN หรือเลขที่ถูก encypt ไปแล้วกันแน่? ผิดกับการเข้ารหัสแบบเก่า เช่น AES-256 ที่ออกมาแล้วเห็นชัดเจนว่ารูปแบบผลลัพธ์มันแตกต่างจากเดิมมากๆ

แต่FPEก็เป็นข้อดีที่อาจทำให้ผู้ที่ดักรับหรือขโมยข้อมูลเกิดความสับสนว่าเป็นข้อมูลจริงหรือข้อมูลลวง

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 18 April 2017 - 13:30 #980105 Reply to:980073
lew's picture

ไม่ทราบสิครับ ต้องคุยกันเองระหว่างคนส่งข้อมูลกับคนรับข้อมูลว่าเข้ารหัสหรือยัง

กระบวนการเข้ารหัสทั้งหมดมันออกแบบมาเพื่อให้อยู่ในฟอร์แมตเดิม

จะบอกว่าไม่อยากคุยอะไรกันเลยแล้วให้แอปมันทำงานได้นี่คงเป็นไปไม่ได้ครับ FPE มันไม่ได้เป็นยาวิเศษแบบนั้น แต่ถ้าบอกว่าอยากประมวลผลโดยที่ซอฟต์แวร์มันออกแบบให้ handle ข้อมูลในรูปแบบเดียวไปแล้วแบบนี้คงแก้ปัญหาไปได้เยอะแล้ว


lewcpe.com, @wasonliw

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 19 April 2017 - 19:58 #980370 Reply to:980105

เข้าใจประเด็นครับ ก็ยกตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริง ว่าถ้าตรวจสอบได้ยากว่ามันถูกเข้ารหัสมาจริงๆหรือไม่ ข้อดีมันคือหลอกคนขโมยข้อมูล ข้อเสียคือถ้ามันหลุดจริงๆว่าไม่ได้เข้ารหัสไป กว่าจะรู้ตัวคงช้ากว่าปกติ ปัญหาพวกนี้เกิดขึ้นบ่อยๆโดยเฉพาะการส่งข้อมูลระหว่างหน่วยงานภายในกันเอง เลยคิดในแง่ร้ายว่าต้องทำ fool proof ไปด้วย

ก็เข้าใจประเด็นในเรื่องการรักษาformat ก็ทำให้ง่ายในการจัดเก็บด้วย

และยกมาว่าการmasking PAN มันไม่ unique การส่งไปประมวลผลข้างนอก อาจทำให้เกิดการนับซ้ำได้ง่ายๆ แต่ FPE ก็น่าจะมาช่วยตรงนี้ (เพราะ encrypt แล้วก็ unique แม้อาจจะดูไปซ้ำกับเลขจริงๆ)