หลังสัญญาณวิทยุถูกใช้เป็นช่องทางการติดต่อสื่อสารในอวกาศหรือแม้แต่ระหว่างโลกและอวกาศมายาวนาน ซึ่งก็มีข้อจำกัดมากมาย ล่าสุด NASA ประกาศแผนการปฏิวัติวงการสื่อสารในอวกาศ ด้วยการใช้งานเลเซอร์เป็นสื่อกลางในการรับส่งข้อมูลที่ความเร็วระดับ Gigabit แทน ผ่านอุปกรณ์ที่เรียกว่า The Laser Communications Relay Demonstration (LCRD)
อุปกรณ์ LCRD นี้กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาและทดสอบ โดยอุปกรณ์ชุดแรกที่ NASA จะส่งออกไปโคจรรอบโลกจะถูกใช้ติดต่อสื่อสารกับฐานในรัฐแคลิฟอร์เนียและฮาวาย อย่างไรก็ตามด้วยข้อจำกัดของการเป็นแสงเลเซอร์ ทำให้ LCRD จะต้องโคจรด้วยความเร็วเดียวกับที่โลกโคจรรอบตัวเอง เพื่อให้อุปกรณ์รับส่งสัญญาณอยู่ในตำแหน่งเดียวกับฐานควบคุม ซึ่งข้อมูลที่ถูกส่งผ่าน LCRD จะมีการเข้ารหัสด้วย
หากการทดสอบเป็นไปด้วยดี ชุดฮาร์ดแวร์โปรโตไทป์ชุดแรกจะถูกส่งออกไปนอกโลกในปี 2019 และในปี 2021 อุปกรณ์ LCRD จะถูกนำไปติดตั้งที่สถานีอวกาศนานาชาติ
ที่มา - The Register
ภาพจาก Pixabay
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
แล้วถ้าเดินสาย fiber optic ในอวกาศได้ไหมนะ ต่อสาย fiber ระหว่างดาวเทียม
ฝุ่นในอวกาศทำสายขาดแน่ครับ ทำฉนวนหนามากก็ไม่คุ้มเอาแสงยิงไปมา เป็นไปได้มากกว่า
ขยะอวกาศที่โคจรรอบโลกเนี่ย เร็วยิงกว่าความเร็วของปืน M16 ซะอีกนะครับ ขนาดก็มีตั้งแต่ฝุ่นเล็ก ๆ จนถึงขนาดลูกกอฟต์หรือใหญ่กว่านั้น
เห็นด้วยตามความเห็นด้านบน ด้วยความเร็วขนาดนี้ สายขาดออกจากกันแน่นอน ไม่คุ้มกับที่ลงทุนเอาซะเลย
ถ้าชอบแนวหนังซักหน่อย โปรดติดตามเรื่อง Gravity ครับ อธิบายได้ดีที่สุด
ในเครื่องGravity ขยะอวกาศวิ่งรอบโลกโดยใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมง 30 นาที โดยประมาณ
ในหนังตัวเอกเจอขยะอวกาศชนขณะที่ไปซ่อมกล้องอวกาศHubble
ซึ่งปกติกล้องHubbleก็โคจรรอบโลกประมาณ95นาที จึงน่าจะเอาความเร็วมาเทียบคร่าวๆได้
ความเร็วของกล้องHubble 7.5กิโลเมตรต่อวินาที เปลี่ยนให้หน่วยเป็นชั่วโมงด้วยการคูณ3600
= 27,000 Km/Hr
กระสุนปืนทั่วไปก็ยังไม่พ้นความเร็วเสียงเลย พวกเร็วกว่าเสียงก็มีแค่พวกกระสุนไรเฟิล
ซึ่งความเร็วเสียงก็แค่ 1,245 Km/Hr เองครับ
ยังไม่ไกล้เคียงความเร็วที่วงโคจรเลยครับ
เสริมเรื่องขยะอวกาศจาก Jusci.net ครับ เผื่อใครอยากอ่าน
ลิงค์ผิดคร้าบบบ กดไปงงเลย ถถถ
iPAtS
เอ้า จริงด้วย - -" ผมก็อปไม่ติดครับ พอดีเพิ่งเอา Surface 3 ไปทดสอบแบบนั้นดูบ้างมา ขออภัยที่ทำให้เสียเวลาอันมีค่าครับ 5555
ของจริงอยู่นี่ครับ https://jusci.net/node/3126
คุณไม่ต้องคิดอะไรเยอะหรอก คุณรวมมวลของสายที่จะรั้งสถานีอวกาศลงมาก็พอ ว่ามันมหาศาลมากแค่ไหน แล้วสถานีอวกาศมันจะลอยอยู่ได้ยังไง คิดตื้นๆ
แต่คุณต้องอ่านเยอะๆ นะครับ :p
เค้าน่าจะหมายถึงเดินสายระหว่างดาวเทียมด้วยกันมากกว่ามั้งครับ
ดาวเทียมครับดาวเทียม
แบบในหนังเรื่อง Passengers?
ฮา ตอนรู้ว่า ต้องรอคำตอบ 30+ กว่าปี
นานจริมๆ
บริษัท ผลิตขยะอวกาศ (แถมไม่เคยคิดจะเก็บ)
ทำไมต้องใช้เลเซอร์อะครับ ใช้คลื่น wifi ธรรมดาไม่ได้หรอ ความเร็วก็เท่ากันขอความรู้ด้านฟิสิกส์หน่อยครับ
เดาว่าบีบทิศทางได้แน่นอนกว่าทำให้ไปรบกวนอุปกรณ์อื่นได้ยาก และใช้พลังงานในการส่งน้อยกว่าเพราะสูญเสียไปกับการ broadcast ออกไปนอกทิศทางด้วยมั้งครับ
คือถึงแสงเลเซอร์มันจะแผ่ออกจนกว้างมาก แต่ยังไงก็น่าจะน้อยกว่าคลื่นวิทยุ?
ความเร็วต่ำ + ถูกซึมซับโดยความชื้นในอากาศครับ
Microwave
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
เลเซอร์สามารถพุ่งตรงไปหาเป้าหมายได้โดยตรง การกระเจิงแสงต่ำ มีความเร็วเท่าแสง ดังนั้นการส่งข้อมูลจึงเร็ว เหมือนกับสายใยแก้วนำแสง หลักการเดียวกันแต่เปลี่ยนตัวกลางจากสายใยแก้ว เป็นอากาศและอวกาศ
ส่วน WIFI เป็นมีความเร็วแค่คลื่นวิทยุ? ละมั้ง