By: arjin 
on 24 February 2017 - 06:22
Tags:
Topics:
HP Inc. รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงินบริษัทสิ้นสุดเดือนมกราคม 2017 รายได้รวม 12,684 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 4% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 611 ล้านดอลลาร์
HP Inc. มีธุรกิจหลักสองส่วนคือพีซีและเครื่องพิมพ์ โดยกลุ่มพีซีมีรายได้เพิ่มขึ้น 10% ที่น่าสนใจคือจำนวนโน้ตบุ๊กที่ขายได้เพิ่มขึ้น 12% ขณะที่เดสก์ทอปคงที่
ส่วนกลุ่มเครื่องพิมพ์ รายได้ลดลง 3% ขณะที่จำนวนเครื่องที่ขายได้เพิ่มขึ้น 6%
ซีอีโอ Dion Weisler กล่าวว่าผลการดำเนินงานที่ออกมานั้นอยู่ในจุดดีที่สุดที่บริษัทประเมินไว้ และยังมั่นใจว่าจะมีผลการดำเนินงานที่ดีตลอดปีการเงิน 2017
ที่มา: HP
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
เดี๋ยวนี้ดีไซน์สวยกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย โน๊ตบุ๊คเครื่องใหม่ผมก็ HP เซอร์วิสดี มีปัญหาอะไรแชทถามได้ทันที บางทีก็โทรมาเลยจ้า(จากอินเดีย)เพราะต้องเข้าไปแก้ใน bios โหมด
เพราะ Kaby Lake ออกครบด้วยรึเปล่า
อย่างน้อยๆ ก็คงมีกลุ่มผู้เคราะห์ร้ายจากมหากาพย์ DV2000 กลุ่มนี้แหละครับที่ให้ตายยังไงก็จะไม่ซื้อ notebook HP ใช้อีกตลอดชีวิต เจ็บครั้งนี้ผมเชื่อว่าใครก็ไม่มีวันลืมครับ
เซอร์วิสที่ใครอาจจะบอกว่าดี (พวกแก้ปัญหานิดๆ หน่อย) แต่พูดเลยครับถ้าได้มาเจอของจริงเข้าไป (เป็นปัญหาที่อะไหล่ต้องเปลี่ยนกันยกรุ่น) คงได้เห็นธาตุแท้ของบริษัทนี้ชนิดที่ไม่อยากจะไปเหยียบตึกอื้อจื่อเหลียงอีกเลย ในเมื่อเงินเป็นของเราเราเลือกเองได้ เอายี่ห้ออื่นที่ดีต่อใจดีกว่าครับ ทำผิดครั้งแรกเขาเรียกว่าเป็นครู ทำผิดครั้งที่สองเขาเรียกว่าอะไรดี 555
อย่าลืมว่าศูนย์ซ่อม HP Thailand เป็นแค่แผนกรับจ้างซ่อมของ HP Singapore เท่านั้นครับ notebook ยี่ห้อนี้จะขายดีหรือไม่ดีเขาไม่แคร์ครับ เพราะเค้ารับจ้างซ่อมจากบริษัทแม่อย่างเดียว ส่วนเงินที่เราซื้อ notebook ไป ยอดเงินไปเข้าบริษัทแม่ที่ Singapore ครับ ต่อให้ลูกค้าจะพอใจหรือไม่พอใจซื้อ notebook HP ใช้ ศูนย์ Thailand เขาก็ไม่แคร์ ดังนั้นอย่าหวังจะได้ความรับผิดชอบจากศูนย์นี้เลยครับ
ถ้าจะขายดีขึ้น คงได้แต่ลูกค้ารายใหม่จริงๆ แต่พวกกลุ่มลูกค้าที่เคยซื้อ DV2000 อย่าหวังว่าคนกลุ่มนี้จะตกเป็นเหยื่ออีกเลยครับ ทั้งชีวิตก็จะไม่ซื้อใช้อีก มีเพื่อนบอกเพื่อนมีหลานบอกหลาน จะไม่แนะนำยี่ห้อนี้โดยเด็ดขาดครับ แต่ถ้าใครพร้อมเสี่ยงก็เชิญ
ปล. ตอนนี้ผมใช้ Dell อยู่ และเครื่องหน้าผมก็ยังจะซื้อ Dell ใช้ต่อไป ดูแลลูกค้าดีกว่ามากๆ ใจป้ำกว่ามาก และคุณภาพเครื่องก็ดีกว่ามาก
ผมก็เคยใช้dellนะ ยอมรับว่าดูแลดีจริง แต่เรื่องคุณภาพผมไม่แน่ใจเท่าไหร่.....
Dell คุณภาพค่อนข้างแย่ครับ พังรัวๆ เลย เฉลี่ยอายุ 2-3ปีเท่านั้น ตอนนี้ที่บ้านมีซากอยู่ 2 ตัวเป็นของภรรยากับพี่สาว ตอนนี้ภรรยากำลังวัดใจ ASUS Zenbook อยู่
ส่วน Macbook Pro ของผมปีนี้ขวบปีที่ 6 ยังไม่มีปัญหาอะไรหนักๆ เลย เปลี่ยนแบตไปก้อนนึงตอนครบ 5 ปี กับมีอัพเกรดแรม/SSD ยังใช้ได้ลื่นๆ เหมือนตอนถอยมาใหม่ๆ
Macbook ทนจริงครับ
เครื่องผม 9 ปี แล้ว
เปลี่ยนแบต กับเปลี่ยนมาใช้ SSD
นอกนั้น ก้ยังใช้ได้ดีเหมือนของใหม่อยู่เลยย
ของผม 7 ปี (MBP 2010) นี่รอ MBP touchbar ปลายปีนี้ ถ้าลดราคาคงสอยจริงๆ ละ
จริงๆ ผมก็ไม่อยากเปรียบเทียบมากครับ เพราะดูไม่แฟร์ซักเท่าไหร่ เพราะในกรณีของ Dell ผมใช้ Latitute มา 2 Gen แล้ว (สมัย series D5XX และ E6XXX) และมี desktop อีกตัวคือ Precision T3XXX น้องผมก็มี laptop Precision อีกตัวที่ผมจำรุ่นไม่ได้ คือทุกตัวที่ผ่านมือมานี้คุณภาพดีมากทุกตัวครับ ไม่งอแงเลย ทุกตัวเคยเปิดเครื่องมาหมดแล้ว ข้างในประกอบดีมากครับ โดยเฉพาะ Precision desktop นี่งานข้างในเนี้ยบมากๆ เลย (ปล. น้องผมเป็นสถาปนิกครับ เลยต้องมีเครื่องพวกนี้ไว้ในครอบครอง ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากใช้เครื่องแพงขนาดนี้กันหรอกครับ 555)
ซึ่ง dell ทุกตัวที่มีมันเป็นสาย business/workstation grade จะเอามาเทียบกับ HP DV2000 ก็คงไม่แฟร์เท่าไหร่ ต้องไปเทียบกับพวก HP Probook หรือเอาไปเปรียบกับมวยถูกคู่อย่าง Inspiron น่าจะถูกต้องกว่า แต่ที่เทียบได้แน่ๆ คือเรื่องการบริหารหลังการขาย สองยี่ห้อนี้ต่างกันแน่นอน
แต่กับ DV2000 นี่นอกจากผมจะขยาดกับแบรนด์ HP แล้ว ยังทำให้ผมขยาดกับ notebook เกรด consumer ด้วยครับ ดังนั้นถ้าให้ผมซื้อ notebook เครื่องต่อๆ ไปก็คงมองแต่ business notebook เป็นหลักแหละครับ (คงได้เป็น Dell latitude อยู่ดี จริงๆ ก็อยากเปลี่ยนไปใช้ Thinkpad บ้างถ้าดีไซน์รุ่นหลังๆ มันไม่ออกอ่าวขนาดนี้)
ผมคนนึงละครับ ยี่ห้อนี้ไม่ได้กินผมตลอดชีวิตไม่ว่าจะเป็น Product อะไรก็ตาม
ถ้ามี Nb แค่สองเครื่อง อย่าง Macbook ราคา 80,000 กับ HP ราคา 20,000
ผมยอมเลือก Macbook
จำนวนเงินเท่าไหร่ก็เทียบไม่ได้กับโอกาสที่เสียไปกับ DV2000 กากๆ เครื่องนั้น
จำได้คร่าวๆว่าเรื่อง Heat Cycle รึเปล่าครับ แล้วตอนนั้นเจ้าอื่นที่ใช้ nVidia เค้าแก้ปัญหากันยังไงอะครับ
ลองไป Google ดูเหมือนจะไม่มีบันทึกในเว็บกันเท่าไรแล้ว
ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ ตอนนั้น BenQ เปลี่ยนเมนบอร์ดให้ ไม่งอแงครับ (แต่เปลี่ยนเมนบอร์ด ใช้ชิพเดิมที่มี defect ตั้งแต่การออกแบบ ก็กลับเข้าสู่วังวนเดิมๆ อยู่ดี เตรียมนับถอยหลังระเบิดเวลาเหมือนเดิม)
Dell XPS ถ้าจำไม่ผิดนี่คือป๋าสุดเลย คือลงทุนแก้ไขปัญหาลูกค้าให้แบบถาวรเลย ด้วยการเปลี่ยนเป็นชิพกราฟิก AMD ให้ลูกค้า จบปัญหา
ส่วน HP สงสัยใส่ชิพ nVidia ไปกับ DV2000 ล็อตมโหฬาร เลยอิดออดที่จะรับผิดชอบ (เคสแรกๆ ลูกค้าที่หมดประกันต้องเสียเงินเปลี่ยนบอร์ดเอง ยังไม่รับผิดชอบ) จนเรียกร้องหนักๆ เข้าถึงได้มี "เคสคุณอัมพร" ออกมา ต้องท่องคาถานี้ถึงจะเปลี่ยนบอร์ดได้ฟรี ส่วนใครเข้ามาซ่อมแบบไม่รู้เรื่องก็เจอค่าเปลี่ยนบอร์ดไปเหมือนเดิม (แย่มาก) บางคนก็เอาไปซ่อมร้านข้างนอกด้วยการอบชิพ ซึ่งไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้องเพราะ 3-6 เดือนก็กลับมาเสียอาการเดิม
ตอนนั้น DV2000 ที่ขายดีมากๆ ด้วย กลับกลายเป็นว่าเป็นรุ่นที่เป็นขยะกองโตซะงั้น เพราะเสียกันจำนวนมากและไม่มีวิธีการซ่อมที่หายขาด
ผมเคยเข้าไปคุยกับ HP Thailand เหมือนกัน ว่าจะสามารถเปลี่ยนเป็นชิพกราฟิก Intel X3100 แทนได้มััย (รุ่นล่างๆ ของ DV2000 ใช้ชิพกราฟิกรุ่นนี้ กลายเป็นว่าเป็นรุ่นโชคดีซะงั้น) ทาง HP ไม่ยอมเปลี่ยนให้ บอกว่าจะทำให้เครื่องไม่เสถียร ผมนี่แบบ ยอมให้มันไม่เสถียร ดีกว่ารู้ว่าเปลี่ยนเป็นชิพเดิมแล้วจะเสียแน่ๆ สุดท้ายก็ยอมเปลี่ยนตัวเดิมให้จบๆ ไปแล้วซื้อ notebook ตัวใหม่ใช้ดีกว่า (หลังจากเปลี่ยนบอร์ด เครื่องนั้นก็อยู่ได้อีกแค่ 8 เดือนครับ ลาขาดเลย)
นอกจากจะเกลียด HP แล้ว ผมยังเกลียด nVidia ด้วย แต่ตัวหลังนี่เหมือนจะเลี่ยงไม่ได้จริงๆ แม้แต่เครื่องที่ผมใช้ปัจจุบันก็ยังมี ดีที่ notebook รุ่นใหม่ๆ มันเป็นชิพกราฟิกแบบ hybrid ผมเลยเลือกให้ชิพกราฟิกตัว default มันเป็นชิพ Intel แค่นี้ผมก็สบายใจแล้วครับ ไม่อยากหลอนกับ nVidia อีกแล้ว
ขอบคุณครับ คุ้นๆว่าพี่ชายผมก็เจอ Benq ล็อตนั้นเหมือนกันได้เปลี่ยนบอร์ดฟรีแต่ใช้ไปปีกว่าๆก็ดับอีกเลยขายซากซื้อเครื่องใหม่ไปเลย
จำได้ว่า ของราคาตั้งหลายหมื่นแต่ใช้ได้ไม่ถึงปี เสียเร็วมาก ซ่อมมาแล้วสักพักก็เสียซ้ำอีก
จอ HP ที่ออฟฟิศผมไม่พังซะที สิบปีเข้าไปละ
dv2000 เครื่องเดียวเลิกคบ HP เหมือนกันครับ
ถ้าใช้เองไม่เลือกเด็ดขาด ยังสยองอยู่เลย
ดีที่ซื้อประกันเพิ่มไป รวมเป็นสามปี เคลมครบทั้งเครื่อง mainboard สองรอบ จออีกรอบ หมดประกันแล้วบอร์ดก็เจ๊งอีกรอบ ตอนนั้นไม่มีเงินซื้อใหม่เลยจำใจต้องซ่อมไปอีกตะหาก
โน้ตบุ๊ค => โน้ตบุ๊ก
ผลการดำเนิน ?