By: Lamicrosz 
on 7 January 2017 - 04:28
Tags:
Topics:
เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ได้มีข่าวลือถึง Project Neon แนวทางการออกแบบใหม่ของไมโครซอฟท์ ที่จะใช้หน้าตาที่เรียบง่ายและสะอาดตาขึ้น รวมไปถึงอนิเมชันที่ลื่นไหล และรองรับเทคโนโลยี AR/Holographic
ล่าสุด มีรายงานจาก MSPoweruser ที่ได้เผยภาพตัวอย่างของแอพที่ใช้การออกแบบของ Project Neon
จากภาพจะมีรูปแบบของ “Acrylic” ที่จะเป็นการเบลอฉากหลัง ซึ่งจะถูกนำมาใช้ในแถบควบคุมของแอพ
ตัวอย่างคอนเซ็ปของแอพ Outlook
UI ของแอพ Groove Music เวอร์ชัน Insider Preview
Project Neon คาดว่าจะเริ่มใช้งานใน Windows 10 รหัส Redstone 3 (รุ่น Creators Update คือ รหัส Redstone 2)
ที่มา - MSPoweruser
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
ชอบอ่ะ
ทูลบาร์ด้านซ้ายควรที่จะปรับขนาดได้ เพราะดูแล้วกินพื้นที่ Working Area ไปพอควร
ปรกติมันก็ย่อเหลือแค่ไอคอนอยู่แล้วครับ ต้องกดแฮมเบอเกอร์อันถึงจะขยายออกมา
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
คุ้นๆ นะครับ ( ◔ิ_◔ิ)
transparent แบบนี้ มาคุ้นด้วยคนครับ
Windows Aero?
win10 ก็มี aero ค่ะ ตรงปฎิฐิน กับแถบ start menu
มันจะเจ๊งแบบ Longhorn ไหมครับ การเมืองภายในองค์กรของ Microsoft ยิ่งแรงๆ อยู่ หรือไม่ก็เก็บเงียบๆ แล้วเปิดตัวทีเดียวแบบ Surface เลย ถึงจะได้ผลิตภัณฑ์ที่เหมือนต้นแบบที่สุด
ผมว่าสมัย longhorn UI มันเว่อร์เวินเกินสมัยด้วยแหละครับ
อยากให้มีนาฬิกาหน้าล็อคอิน
มันจะบริโภคทรัพยากรมากมั้ยเนี่ย ขนาด Windows 10 ทึบๆไม่เงา ยังรู้สึกหน่วงๆ
ไม่หรอกครับ ถ้าโปรแกรมมันไม่ได้มี Thread (เยอะ)ก็ลื่นเหมือนเดิม
ถ้าไม่โหลดอะไรตอนเข้าใช้งานเยอะ ไม่น่าจะหน่วงนะครับ ปกติแล้ววินโดว์ 10 เนี่ยทำงานได้เร็วกว่าวินโดว์ 7 ด้วยซ้ำ ถ้าใช้แล้วหน่วงดูได้แค่ 2 เรื่อง สเปคเครื่อง กับการปล่อย Auto Load ตอนเปิดเครื่องเยอะไปไหม แล้วแอพที่เรียกใช้งาน ใช้ทรัพยากรมากเกินไหม ซึ่งวินโดว์ 10 มันก็มีตัววัดอยู่
สรุปต้องไปเช็คเครื่องล่ะครับ ผมใช้เครื่องสเปคไม่สูงแค่ i3 แรม 8 กิก แต่รัน Diskless สำหรับ 25 เครื่อง แถมยังเล่นเกมหนัก ๆ ยังไม่หน่วงอะไรเลย
X6 1055t ram1333 16gb ssd ocz tr150 240gb gtx760
ปิด app ไม่จำเป็นออก ปิด service ไม่ได้ใช้ ปิด start up ไม่ใช้ออก
ยังบู๊ทช้ากว่า win 7หลายขุมครับ
The Last Wizard Of Century.
สงสัยสเปคแรงไปน่ะครับ ผมใช้ Atom + 4GB RAM + Flash storage อืดๆ ของ Surface 3 นี่ยังบูตเร็วกว่า Windows 7 บนเดสก์ท็อปผมสมัยก่อนอีก - -"
อ้อ ผมไม่ปิด service ใดๆ นะครับ
สเป็คเครื่องผมแรงเอาเรื่องอยู่ ก็บูทเร็วกว่าตอน 7 ชัดเจนครับ
เพจตัวอย่างผลงานถ่ายภาพ / วีดีโอ
ด้วย สเปคเดียวกันเนี่ยนะครับ
แปลกจังเกี่ยวกับที่ mb ผมยังเป็น bios ไม่ใช่ uefi หรือเปล่าหรือเพราะ amd ที่ผิด(555)
The Last Wizard Of Century.
ผมมีเครื่องหลายสเป็ค ก็มีเปลี่ยนผ่านจาก 7 - 8.1 - 10 หลายเครื่องครับ ซึ่งมันก็ไม่มีปัญหาอะไรนะ แถมไม่ใช่แค่ผมที่รู้สึก น้องสาวผมก็ใช้ครับ ผมทำเครื่องให้น้องใช้ เขาก็รู้สึกเหมือนกัน คือ ไม่ได้ถามว่ารู้สึกเหมือนกันไหมนะ แต่เคยบอกว่าจะย้ายกลับไปใช้ระบบเดิมไหม น้องจะรีบบอกเลยว่าไม่เอาแน่นอน แปลว่าเขารู้สึกว่ามันคล่องตัวกว่า ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ น้องสาวผมเป็นพวกไม่ยอมเปลี่ยนระบบง่าย ๆ นะ ดีกว่าอย่างไงก็ไม่สนใจ แบบต้องบังคับ
เพจตัวอย่างผลงานถ่ายภาพ / วีดีโอ
อาจจะผิดที่แต่งเครื่องเยอะไปครับ :)
เห็นด้วยครับ อีกอย่างใครที่มีแมคบุ๊คบางๆ รุ่น12นิ้ว ซีพียูแค่ 1.1กิ๊ก แล้วลงวินโดว์10 จะพบเลยว่า วินโดว์10 ทำงานเร็ว ไม่แพ้ แมคโอเอส ผมว่าเร็วกว่าด้วยซ้ำ ยืนยัน
translucent?
ไม่ได้ใช้ App บน Windows ซะนานเดี๋ยวนี้ดีขึ้นมากทั้ง FB IG Line Twitter เร็วไม่ค้าง ใช้ง่ายเหมือนบน iPhone เลยแหะ
Line บน win10 มี theme แบบบนมือถือไหมครับไม่ได้จับนานมากตั้งแต่10รุ่นทดลองใช้ใหม่ๆ
The Last Wizard Of Century.
ไม่มีครับ
สวยยมาก
สวยมาก แต่ช่วยบังคับให้ app อื่นออกแบบตามแนวทางเดียวกันได้มั้ย โปรแกรมบน windows นี่ไม่ค่อยสามัคคีเรื่องการออกแบบเหมือน mac เลย
กำลังจะเข้าสู่ช่วง"เว้นรุ่น"รึปล่าว
ก๊อปแอปเปิ้ลชัดๆ
วินโดวส์วิสต้าออกเมื่อปี 2006 แล้ว zune ก็ออกแนวๆ นี้
ก๊อปยังไงเหรอครับ ใช้ mac มาซักพักแล้วยังไม่สัมผัสถึงความเหมือนของ ui เลย
ผมว่ามีตัวหนังสือเหมือนกันแน่ๆ ที่ว่าก็อป อ่อมีเม้าเหมือนกันด้วย 555
ดูสบายตาดี
นี่มัน Vista กลับชาติมาเกิดชัดๆ ฮี่ฮี่
หวังว่าคราวนี้คงจะแก้ไขปัญหาเรื่อง UI พิกลพิการเวลาใช้กับจอที่มีความละเอียดสูง ๆ สักที (DPI scaling) ผมหละเข็ดมากเมื่อใช้ Windows 10 กับจอ 4K พวกที่ไม่ใช่ Modern App ถ้าไม่เล็กจิ๋วก็เบลอจนหมดอารมณ์ใช้หรือไม่อัตราส่วนของเมนูกับไอคอนก็เพี้ยนเละเทะ ดูฝั่ง Mac บ้างเขาเปลี่ยนผ่านสู่ Retina แบบไม่มีปัญหาอะไรเลย ทำไมเขาทำได้ ทำไม 3rd party app เขาทำได้หมด ทุกวันนี้ขนาดโปรแกรมหลายตัวที่เป็นของ Microsoft เองยังเละเทะเลย เช่น Microsoft Office (Desktop App) หลายจุดที่ง่อยจนใช้งานลำบากเวลาใช้จอความละเอียดสูง แค่ขยาย DPI ขึ้นมาเป็น 200%, 300% แบบที่ทำทุกวันนี้มันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย จอสวยแค่ไหนก็เท่านั้นจริง ๆ เพราะ UI มันพิการ ผมจะรอดู
คือการทำทุกอย่างเป็นเว็กเตอร์เบสหรือปล้าวครับที่ทำให้ยืดแล้วคม ถ้าเอาuiแบบรูปมาแปะพอยืดแล้วก็เละ
ถ้าตอบแบบเทคนิคก็ต้องบอกว่า architecture ด้านกราฟิกของแมคทันสมัยกว่า เพราะตอนย้ายจาก macOS มาเป็น OSX ครับ
หมายถึง MacOS ก่อนจะเป็น Aqua ใช่ไหมครับเพราะถ้า macOS มันเป็นตัวปัจจุบัน เคยดู keynote เหมือนกันเห็น Steve Jobs บอกว่า OS X เป็น PDF base ส่วนของ Windows เป็น text + bitmap
ทำใจครับ ต้องรอให้เปลี่ยนเป็น Metro ให้หมดก่อนครับ
นอกจากจะ UI จะ minimal & sexy เหมือน Apple แล้ว พอถึงคราวที่ Microsoft ใช้คำว่า most compatible กับ device ของตัวเองเมื่อไหร่ ก็ถึงกาลอวสานของผู้ผลิต OEM รายอื่นทันที
Zune player เมื่อก่อนก็เป็นงี้
อันนี้สวยถูกจริตดี
Mekokung's Story บล็อกส่วนตัวที่ย้ายไป Blogger แล้วนะ
เหมือน MacOS ตรงใช้พื้นหลังโปร่งใสแบบเบลอ ตรงแถบเมนูด้านซ้ายครับและรงแถบด้านบนด้วย ซึ่งมี MacOS มีมาก่อน
เหมือนแค่เบลอไม่ใช่ ui โดยรวม ต่างอะไรกับรถที่มีกระจกเหมือนกัน
ปุ่มย่อขยายร่นจากขอบลงมาระดับเดียวกับ toolbar รู้สึกเปลืองที่แปลกๆ แต่ก็ชอบที่ดูเป็นหนึ่งเดียวกับ toolbar
ขอเมนู setting เวลาใช้โปรแกรมต่างๆ แบบ Mac ด้านบนเถอะ ไหนๆ ก็มาขนาดนี้ละ
ตรง title bar ใช่ไหมครับ อยากได้แบบนั้นเหมือนกัน ว่าแต่แบบนั้นมันมีข้อเสียอะไรหรือเปล่า
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
ข้อเสียสำหรับผมคือมึนครับและรกด้วย มึนคือตัวแอพกับ title bar มันไม่เป็นหนึ่งเดียวกันเวลากดก็ต้องอ่านก่อนว่าเป็น title bar ของแอพที่เราใช้จริงหรือเปล่ารุ้สึกเสียเวลาถ้าเป็นแอพหน้าตัวหน้าหลายต่าง พอเลือกแอพแล้วยังต้องยิงเมาส์ไปสุดขอบจอเพื่อกดอีก ต่อให้ใช้คีย์ลัดเอาได้ก็ไม่เห็นความจำเป็นของ title bar ด้านบน และรกตอนไม่ได้ใช้ มีอะไรเยอะแยะข้างล่างก็มีแล้ว ข้างบนยังมีอีกอึดอัดครับ แถมแอพรุ่นใหม่มันไม่ได้ต้องการไอของแบบนั้นแล้ว ขนาด Office ยังเป็น Ribbon รูปเลย บางทีตัวอักษรก็ล้าสมัยไปแล้ว
นั่นเป็นจุดที่ผมเกลียดที่สุดของ OSX เลยนะครับ :)
ไหงงั้น คือแอบคิดว่าได้พื้นที่แสดงผลเพิ่มมาสัก 10 - 20 พิกเซลน่าจะดี (เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าที่ @john dick หมายถึงกับที่ผมหมายถึง มันอันเดียวกันหรือเปล่า) >_<
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
ที่ผมไม่ชอบคือบางโปรแกรมที่เปิดไม่เต็มจอผมก็ต้องเลื่อนเมาส์ขึ้นไปด้านบนสุดเสมอ ซึ่งใช้นานๆผมค่อนข้างรำคาญ
5555 ผมด้วยครับ ^^
Ubuntu ก็เช่นกัน (ในโหมด full screen แต่อย่างน้อยมันยังตามมาใน window ต่าง ๆ ได้)
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ผมว่าไอ้แถบนี้มันนานาจิตตังครับ
ส่วนตัวผมชอบนะเพราะไม่ต้องศึกษาUIแอพแต่ละแอพใหม่มาก ตั้งค่าทุกอย่างอยู่ที่เดียวกันหมด
แต่บางคนไม่ชอบเพราะมันต้องลากCursorไปจนสุดจอ ซึ่งบางสถานการณ์มันไม่เอื้ออำนวย เช่นในกรณีที่ใช้จอความละเอียดสูงและปรับdpiให้มีSpaceมากๆ ลากCursorกันจนหงิกกันไปข้างเลยทีเดียว
เห็นด้วยเลยครับ...ผมคนนึงที่ค่อนข้างมีปัญหากับเรื่องแบบนี้ ง่ายๆ อย่าง Firefox กับ Chrome บน Windows ผมมึนทุกทีว่าจะเรียก Menu Bar ออกมายังไง...
เช่นกันครับ ผมคงชินกับมันแล้วเลยรู้สึกไม่มีปัญหาเลย ซึ่งต่างจากตอนที่ย้ายมาจาก Windows ช่วงแรกๆ ซึ่งพบว่ามันคือปัญหาใหญ่มาก
ผมชอบนะ ใช้พื้นที่ได้เกิดประโยชน์ดี
ไม่กิน Working Space ด้วย
สวยๆ