สิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่ๆ หลังจากโลกเข้าสู่สังคมไร้เงินสดเต็มตัวคือ สุขอนามัยที่ดีขึ้น เพราะมีงานวิจัยมากมายเหลือเกินที่ยืนยันว่า เงินสดโดยเฉพาะเงินสดสหรัฐฯเป็นที่รวมตัวของเชื้อโรคที่อาจก่อให้เกิดโรคภัยต่างๆนานา
งานวิจัยดังกล่าวชื่อว่า dirty money ระบุว่าบนพื้นผิวธนบัตรดอลลาร์มีเส้นใยและรอยแยกที่ใหญ่ เชื้อโรคและแบคทีเรียเข้าไปอาศัยอยู่ได้มาก ยิ่งธนบัตรค่าเงินน้อยๆ ยิ่งมีการจับจ่ายสูง แบคทีเรียก็สูงตาม แบคทีเรียบางชนิดอยู่ได้เป็นเดือน นอกจากนี้ธนบัตร 1 - 100 ดอลลาร์ หมุนเวียนใช้กันมือต่อมือเป็นระยะเวลานานตั้งแต่ 4-15 ปี (ข้อมูลจากธนาคารกลางสหรัฐฯ)
งานวิจัยในปี 2010 จากนักวิจัยชาวออสเตรเลียระบุว่า ธนบัตรสหรัฐฯมีแบคทีเรีย 10 ตัว/พื้นที่ 1 ตร.ซม. มีเชื้อโรคเยอะกว่าธนบัตรออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ เนื่องจากธนบัตรสหรัฐฯทำจากฝ้ายและลินิน จึงดูดแบคทีเรียได้มากกว่าธนบัตรออสเตรเลียและแคนาดาที่ทำจากโพลีเมอร์ ด้านนักวิจัยกองทัพอากาศสหรัฐฯทำงานวิจัยในปี 2002 ระบุว่า เชื้อโรคบนธนบัตรก่อให้เกิดโรคปอดอักเสบและการติดเชื้อร้ายแรงอื่นๆ
อย่างไรก็ตามไม่มีงานวิจัยไหนที่บอกได้ว่า มีคนป่วยเพราะเชื้อโรคบนธนบัตรเป็นจำนวนเท่าไร เพราะยังมีสิ่งสกปรกภายนอกอีกเยอะที่คนจับแล้วติดเชื้อ แต่อย่าลืมว่าเงินสดอยู่ใกล้กับอาหารมากกว่าราวบันไดและลูกบิดประตู
ภาพจาก Stocksnap.io
ที่มา - Scientific American
Comments
อย่างหนึ่งเหรียญนี่เคยเจอแบบนิ่มมาก อย่างเน่า
มันคือสิ่งที่จำเป็นจะต้องรับ และเก็บมันอย่างดี
ไปซื้อของกินเล่นข้างทาง รับเงินทอนทางแม่ค้า มือมันๆสกปรกนิดๆ จับเงินใส่กระเป๋า แล้วก็จับของกินเข้าปาก
นึกถึงเกม ดิวิชั่น ที่ผู้ก่อการร้ายใช้เชื้อโรคไข้ทรพิษที่ตัดแต่งพันธุกรรมแปะไปกับธนบัตร
แล้วเอาไปปล่อยในวันช้อปปิ้งแบล็คฟรายเดย์
งั้นต้องออกธนบัตรรุ่นซิลเวอร์นาโนมาแทนซะแล้ว
ธนบัตรบ้านเราพวกใบ 20 50 100 ก็มีคนแนะนำให้ล้างมือหลังจับธนบัตรพวกนี้
นึกถึงอันนี้เลย
Small Pox (โรคฝีดาษ) ภาคปรับปรุง เหอๆ
"10 ตัว/พื้นที่ 1 ตร.ซม" น่าจะพิมพ์ผิดนะครับ ตกคำว่า 'ล้าน' ไปตัวนึง อาจจะล้านล้านด้วยซ้ำ
ออกธนบัตรใหม่ ติดตั้งโปรแกรมกำจัดไวรัส
อิอิ
วันก่อนตอนรอคิวซื้อของ ยังเห็นคนยืนข้างหน้าเอาแบ้งค์ยี่สิบเข้าปาก ถูไปถูมาเล่นอยู่เลย o
ไม่ได้รับเลย จนภูมิต้านทานถดถอย พอได้รับทีนี้เป็นหนักเลย