By: mk 
on 24 August 2016 - 10:15
Tags:
กูเกิลประกาศการเปลี่ยนแปลงของระบบค้นหา Google Search บนอุปกรณ์พกพา 2 เรื่อง ดังนี้
- กูเกิลจะเลิกขึ้นป้าย mobile-friendly ที่หน้าลิงก์แล้ว ด้วยเหตุผลว่าเว็บเพจจำนวน 85% รองรับการแสดงผลบนอุปกรณ์พกพาแล้ว จึงเอาป้ายคำนี้ออกเพื่อไม่ให้รกหน้าจอ
- เว็บเพจจำนวนหนึ่งเริ่มแสดงโฆษณาทับหน้าจอเนื้อหาบนอุปกรณ์พกพา ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งาน กูเกิลจะเริ่มลงโทษโดยลดอันดับเว็บเพจลง เริ่มมีผลในวันที่ 10 มกราคม 2017 เป็นต้นไป
ตัวอย่างโฆษณาที่จะถูกกูเกิลลงโทษ ได้แก่การแสดงโฆษณาทับเนื้อหา หรือแสดงโฆษณาในสัดส่วนที่เยอะเกินไปบนหน้าจอแรก
ที่มา - Google Webmasters Blog
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
ผมไม่เห็นด้วยกับการใช้คำว่า "ลงโทษ" ครับ
+1 Google มีอำนาจหน้าที่ในการ "ลงโทษ" คนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ
การลดอันดับผลการค้นหาถือว่าเป็นการลงโทษครับ
โดยเฉพาะถ้าเป็นเว็บขายสินค้า ถูกลดอันดับนี้หน้าซีดกันเลยทีเดียว
ถูกลดอันดับ = หาเจอได้ยากขึ้น = ขายสินค้าได้น้อยลง = กำไรหาย
ลดอันดับก็คือลดอันดับครับ จะบอกว่ากูเกิลปรับลดอันดับ, กูเกิลต่อต้านการกระทำแบบนี้ๆๆ ด้วยการลดอันดับ, กูเกิลไม่สนับสนุนการทำแบบนี้ๆๆ เลยลดอันดับอะไรก็ว่าไป
แม้จะเป็นเรื่องจริงที่ว่าอัลกอริทึมจัดอันดับของกูเกิลมีผลมากต่อเว็บมาอย่างยาวนาน แต่การใช้คำว่าลงโทษมันทำให้ดูว่ากูเกิลเป็นผู้ควบคุม/กำกับดูแลเว็บครับ เป็นการเสริมอำนาจให้กูเกิลมากขึ้นไปอีกจนอาจถึงขั้นฝังใจ (จริงๆ ก็ฝังใจกันพอสมควรอยู่แล้ว)
การตัดสินใจในการเลือกใช้คำเป็นสิทธิ์ของผู้เขียนครับ ผมแค่ออกความเห็นว่ารู้สึกอย่างไรเท่านั้น
ผมมองว่ามันเป็นเว็บไซต์และ engine การค้นหาของเขาใช้คำว่าลงโทษก็น่าจะได้นะครับเพราะเว็บไซต์การค้นหาของกูเกิล กูเกิลก็ต้องเป็นคนกำกับดูแลในฐานะเจ้าของมันอยูาแล้วนะครับ มันก็เหมือน GM ลงโทษถูกเล่นที่ทำผิดกติกาในเกมอะครับ
Google will punish sites that use annoying pop-up ads
พาดหัวข่าวมาจาก Link นี้รึเปล่า
+128
ผมไม่ค่อยแน่ใจในกรณีนี้นะครับเพราะไม่เคยทำเว็บตรงๆ แต่ทางเว็บต้องแจ้งความประสงค์กับ Google เองหรือเปล่าครับว่าต้องการให้ข้อมูลขึ้นไปอยู่บนเว็บไซต์การค้นหาของกูเกิล? ถ้าใช่ ผมก็โอเคกับคำว่าลงโทษครับ แต่ถ้าไม่นี่ผมผมก็ยังยืนยันตามความเห็นเดิม
ผมลองสมมติกรณีนึงขึ้นมา อย่างผมทำเว็บขึ้นมาไว้เขียนบล็อกไปเรื่อยเปื่อยเองเว็บนึง กูเกิลก็มาดึงผลไปขึ้นการค้นหา พอกูเกิลปรับอัลกอริทึมให้อันดับร่วงลงไปก็ใช้คำว่าลงโทษเว็บผม? มันรู้สึกแปลกที่อยู่ดีๆ เว็บผมก็โดนลงโทษโดยกูเกิลได้โดยที่ไม่ได้ไปกดยอมรับกฎกติกาอะไรของกูเกิลเลย ทำให้ผมเองก็ไม่สามารถไปทำผิดจนต้องถูกลงโทษได้น่ะครับ
+1
เวบที่จะโดนลดอันดับ คือเวบที่แสดงโฆษนาทับเนื้อหา นั่นหมายถึงว่าเป็นเวบที่ต้องการเงินจากโฆษณา และเวบพวกนี้มักจะทำ SEO นั่นหมายถึงเขายอมรับกติกาของ search engine ทุกเจ้าแล้วล่ะครับ
การที่โดนลดอันดับทำให้คนสนใจเข้าเวบน้อยลง เกิดผลเสียต่อเวบดังนั้นจะเรียกว่าการลงโทษก็คงได้มั้งครับ
เห็นด้วยกับการใช้คำว่าลงโทษครับ +256
ภาพประกอบน่าจะผิดอันครับ จากที่มา อันบนคืออันที่ Google บอกว่าผิด ส่วนอันล่างคือทำได้ ควรจะนำอันบนมาใส่แทนครับ
โอเค แก้ละครับ
ดีครับ บ้างทีก็เยอะเกินไป
"ลงโทษ" เป็นภาษาที่คนอ่านเข้าใจได้ง่ายครับ
โดยหากเว็บที่ทำ นำโฆษณามาปิดบังข้อมูลเว็บ Google ก็จะปรับ "ลดอันดับ" ลง
เริ่มแผนการผูกขาด คราวนี้ถ้าอยากได้อันดับดีๆก็ต้องโฆษณากับgoogleเท่านั้น
หมดยุคจ้างดูโฆษณา ตอนนี้มันถึงยุคบังคับดูโฆษณาแล้วสินะ
ภาพรวมดีต่อผู้ใช้นะครับ เจ้าใหญ่ขึ้นมาเริ่มกำหนดมาตรฐานผมว่าก็ควรจะเป็นอย่างนั้น ใครมีดีกว่าก็เสนอ ไม่งั้นมือถือโดน ads บังจะมิดจอแร่ะบางเว็บ -..-'
my blog
ผลดีกับเราสิ หรืออยากเข้าเว็บแล้วเจอแต่ ads ต้อง Pinch นิ้วซูมออกเพื่อไปกดปิด
ซุลต่านจ่ายเงินเพื่อไม่ต้องดูโฆษณา
เตรียมกี่ปีละ
ภาพประกอบผิดอันนะครับ ที่แสดงอยู่คือตัวอย่างของการใช้งานที่จะไม่โอเค จะไม่โดนปรับครับ
เริ่มช้าไปนะ ให้มีผลภายใน 1 เดือนเลยยิ่งดี
WE ARE THE 99%
+1
อยากให้มีผลวันนี้เลยยิ่งดีครับ ผมเลิกเข้าไปหลายเงว็บเพราะโฆษณาแบบนี้ละ
ความเห็นส่วนตัวคิดว่า Google ก็คงตัดสินใจดีแล้วแหละครับ เพราะว่า User Experience ถือว่า
เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะทำให้คนใช้งาน Google Search ต่อไป (ไม่งั้นผู้ใช้ก็อาจจะไหลไปใช้เสิร์ชเอนจินเจ้าอื่นได้)
และ Google ยังมีเมทริกซ์ที่ชื่อว่า Core Web Vitals
เอาไว้ใช้วัดประสบการณ์ใข้งานของผู้ใช้โดยเฉพาะ