หนึ่งในมือถือเรือธงที่ออกช่วงต้นปี (แต่เพิ่งจะวางจำหน่ายในบ้านเราได้ไม่นานนัก) คือ Sony Xperia X Performance ซึ่งถือเป็นการ "คิดใหม่ ทำใหม่" ครั้งแรกของ Sony โดยเลิกทำตลาดมือถือตระกูล Z ที่เป็นเรือธง แล้วเปลี่ยนมาใช้แนวทางมือถือรุ่นเดียว ตระกูลเดียว แต่ตอบโจทย์ตลาดแตกต่างกัน และแน่นอนว่า Xperia X Performance ย่อมเป็นตัวเรือธงหลักสุดของค่าย
แม้จะเป็นการเปลี่ยนแนวทางใหม่หมด แต่ผู้ใช้ตระกูล Z แต่เดิม รวมถึงคนที่เคยใช้ Sony อาจจะถามว่าแตกต่างจากเดิมมากไหม หรือว่าเปลี่ยนแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งทาง Sony ได้ส่งให้ผมมาทดสอบเป็นเวลาประมาณ 1 อาทิตย์ หวังว่ารีวิวนี้พอจะมีคำตอบให้ได้บ้างครับ
การออกแบบ
จุดขายสำคัญของ X Performance เรื่องแรก คงเป็นเรื่องของการออกแบบและการใช้วัสดุที่ระบุว่าเป็นโลหะแบบไร้รอยต่อ (seamless metal) ซึ่งต้องบอกว่าในเชิงการออกแบบ X Performance แตกต่างจาก Xperia Z5 ไม่มากนัก ส่วนเรื่องวัสดุที่เป็นโลหะแบบไร้รอยต่อก็ไม่ได้ไร้รอยต่อจริงๆ (มีรอยต่อระหว่างด้านข้างและแผ่นหลัง)
ถามว่ารู้สึกว่าหรูหรากว่า Xperia Z ทุกรุ่นที่ผ่านมาหรือไม่? คำตอบคือใช่ มันเรียบหรู (ในระดับที่รู้สึกว่าหรูจนใส่กับเสื้อสูทออกงานสบายๆ ได้) สัมผัสก็สบาย แต่ถ้าถามว่าสัมผัสโดยรวมไม่นับโลหะ ต่างจาก Xperia Z5 มากไหม คำตอบก็คงเป็นว่าไม่ แต่ถ้าใช้ Xperia Z, Z2 อาจจะรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงระดับก้าวกระโดด
สิ่งที่ต้องชื่นชม Sony คือการที่ยังคงรักษาปุ่มกดถ่ายรูปเอาไว้อย่างเหนียวแน่น เรื่องนี้ทำให้มือถือ Sony กดถ่ายรูปได้สะดวกมาก อย่างไรก็ตามจุดที่ต้องตำหนิคือพอร์ตชาร์จและการส่งข้อมูล ควรจะเป็น USB-C ได้แล้ว แต่ก็ยังเป็น microUSB อยู่ (หวังว่ารุ่นหน้าน่าจะเป็น USB-C)
รุ่นที่ได้รับมาเป็นรุ่นใส่ได้สองซิม (ซิมที่สองต้องเลือกระหว่าง Micro SD หรือซิมการ์ด) ตามสมัยนิยม
ซอฟต์แวร์ สเปก และการใช้งาน
Sony ที่ใช้ Android มาโดยตลอด ยังคงยึดแนวทางในการปรับแต่งตัวระบบปฏิบัติการเช่นเดียวกับผู้ผลิตมือถืออื่นๆ แต่เมื่อเทียบกับมือถืออย่าง Samsung แล้ว Sony มีการปรับแต่งที่น้อยกว่า ตัวแอพที่ติดมากับเครื่องก็ยังมีแอพของ Sony อยู่จำนวนหนึ่ง (จริงๆ ควร preload แอพเหล่านี้ให้ต่ำที่สุด แล้วให้ลูกค้าไปหาดาวน์โหลดเพิ่มเอาเองในภายหลัง)
ตัวเครื่องที่รีวิว แม้จะมาพร้อม Android 6.0 Marshmallow แต่ได้รับอัพเดตความปลอดภัยล่าสุดเดือนเมษายน (นี่สิงหาคมแล้วนะ!) ในแง่นี้ Sony คงสอบตกเรื่องของการอัพเดตซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยอย่างชัดเจน ส่วนเรื่องการสำรองข้อมูล Sony ก็มีบริการสำรองข้อมูลขึ้นคลาวด์ของ Sony ได้โดยตรง อันนี้ถือว่าสะดวกมากกับผู้ใช้
จุดขายสำคัญอันที่ 2 ของ X Performance จะอยู่ที่เรื่องสเปกและประสิทธิภาพ (สเปกเต็มอ่านเอาจากข่าวเก่าเองนะครับ) ซึ่งจากการใช้งานก็ถือว่าไม่เลวร้ายอะไร คือเร็วอย่างเห็นได้ชัดเจนเมื่อเทียบกับ Galaxy Note 4 ที่ใช้อยู่ในทุกวัน และไม่มีอาการช้าหลังจากใช้ไปได้นานๆ พักหนึ่ง (Samsung ควรเรียนรู้เรื่องนี้จากผู้ผลิตรายอื่นอย่าง Sony บ้าง)
เรื่องของหน้าจอถือว่าคมชัด แม้ความละเอียดเป็น 1080p ก็ตาม อาจด้วยเพราะขนาดของหน้าจอที่ยังคงใช้ที่ 5 นิ้ว (และนั่นทำให้จับสะดวกมือ) ไม่ใหญ่มากไป
อย่างไรก็ตาม จุดที่ต้องตำหนิคือเมื่อถึงการทดสอบเล่น Ingress เพื่อวัดความแม่นยำของ GPS และใช้ในสภาวะจริง ปรากฏว่าเครื่องระบุตำแหน่ง GPS ผิดพลาด บางครั้งมีตำแหน่งค้าง จนต้องรอให้เครื่องเย็นลงก่อน GPS จึงกลับมาทำงานเป็นปกติ ดังนั้นใครที่คิดอยากจะทำเป็นเครื่องเล่น Ingress หรือไล่จับสัตว์ประหลาดบน Pokemon Go ก็คงต้องพิจารณาในส่วนนี้ให้ดีนะครับ
ส่วนการอ่านลายนิ้วมือ แม้จะทำได้เร็ว แต่ต้องตั้งค่าตั้งแต่แรกให้ดีๆ และแม่นยำ (รองรับสูงสุด 5 นิ้ว) เพราะมีหลายครั้งที่การสแกนลายนิ้วมือทำงานได้ไม่ถูกต้อง ไม่แม่นยำพอ
โดยรวมแล้วถือว่าซอฟต์แวร์ไม่หนีห่างจากตระกูล Z เท่าใดนัก ส่วนเรื่องการใช้งานก็มีจุดติงอยู่ แม้โดยทั่วไปจะเร็วสมราคาก็ตาม แบตเตอรี่ก็ถือว่าทำได้ดีตามที่คุย (ผมไม่ได้จับเวลาแบบจริงจัง แต่ก็ถือว่าอึดอยู่พอสมควรทั้งที่เปิดใช้งานอินเทอร์เน็ตจากมือถือ)
กล้อง
จุดเด่นที่ 3 ซึ่ง Sony ชูเป็นจุดเด่นที่สุดของ X Performance คือเรื่องของกล้อง (เพิ่งได้การลงคะแนนเป็นอันดับ 1 ร่วมว่ากล้องดีที่สุดในบรรดาสมาร์ทโฟนด้วยกัน) คำถามคือ ดีจริงหรือไม่?
คำตอบก็คงเป็นว่า ดีจริง และในฐานะคนที่ใช้ Xperia Z รุ่นแรกมาก่อน X Performance ต้องถือว่ามีกล้องที่ดีมาก ในโหมด Manual ก็ปรับแต่งค่าได้เยอะมาก แต่การเข้าถึงการตั้งค่าเหล่านั้น กลับทำได้ยาก (ใช้โหมด Auto น่าจะง่ายกว่ามาก)
แต่พอเลือกเป็นโหมดแบบ Auto แล้ว กลับกลายเป็นว่าตัวซอฟต์แวร์ยังคงทำงานได้ไม่ดีพอเช่นเดิม การโฟกัสและเก็บรายละเอียดยังคงเป็นปัญหาของ X Performance หลายภาพต้องถ่ายซ้ำ แม้ตัวเครื่องจะมีระบบกันสั่น (น่าจะ EIS) ติดมาด้วยก็ตาม เพราะไม่เช่นนั้นจะเบลอ โดยเฉพาะในสภาวะแสงที่มืด แต่ถ้ามือนิ่งๆ แล้ว การถ่ายในที่มืดก็ถือว่าให้ภาพสว่าง ส่วนภาพถ่ายในแสงปกติถือว่าทำออกมาได้ดีมาก ลองดูจากภาพตัวอย่างด้านล่างได้ครับ (คัดเลือกมาแล้วและปรับให้เหมาะสมกับการแสดงผ่านเว็บ ใครอยากได้ภาพเต็มแจ้งที่ comment ด้านล่างครับ)
เรื่องของวิดีโอถือว่าทำได้ดีเช่นกัน การกันสั่นก็ถือว่าทำได้ดี (แม้อาจจะไม่ได้ดีมากๆ) ลองดูจากวิดีโอด้านล่างครับ
สรุป
โดยภาพรวมต้องถือว่า Xperia X Performance เป็นมือถือที่มีความน่าสนใจ และมีข้อเด่นหลายอย่าง โดยยังคงไม่ทิ้งจุดเด่นหลายส่วนของ Xperia Z5 รวมถึงการดีไซน์ ซึ่งแม้จะไม่เหมือนกัน แต่ก็เรียกว่าไม่ได้ทิ้งห่างกันมาก
ในแง่สเปก X Performance ก็คงแรงทัดเทียมกับเรือธงของค่ายอื่นๆ ที่มีอยู่ในตลาดตอนนี้ เรื่องของซอฟต์แวร์ก็ยังคงแนวทางได้อย่างดี ส่วนของกล้องก็ทำได้ดีตามที่โฆษณาเอาไว้
อย่างไรก็ตาม จุดติไม่ว่าจะเป็นเรื่องของซอฟต์แวร์กล้องที่ยังคงไม่ดีขึ้นอย่างที่คาด เครื่องร้อนจนกระทั่งทำให้ GPS ทำงานผิดปกติ ซอฟต์แวร์ที่ใส่ของมาให้จนเยอะ (ทั้งที่หลายตัวหาดาวน์โหลดเองได้) หรือการไม่ได้อัพเดตความปลอดภัยล่าสุด กับการอ่านลายนิ้วมือที่เร็วแต่ยังไม่แม่นยำอย่างที่ควร กลายเป็นประเด็นที่อาจจะทำให้คนที่คิดจะซื้อ Xperia X Performance บางคน (ย้ำว่าบางคน) อาจจะต้องหยุดคิดได้ แต่ถ้าไม่ได้คิดเรื่องพวกนี้มาก ก็สามารถมองข้ามไปได้
ถ้าใช้ Xperia Z, Z2, Z3 หรือมือถือเรือธงอื่นๆ เมื่อสัก 2-3 ปีที่แล้ว Xperia X Performance ถือเป็นตัวเลือกที่ดีอันหนึ่งในการพิจารณาครับ แต่ต้องยอมรับในข้อเสียจุกจิกบางข้อด้วยเช่นกันครับ
Comments
"แต่พอเลือกเป็นโหมดแบบ Auto แล้ว กลับกลายเป็นว่าตัวซอฟต์แวร์ยังคงทำงานได้ไม่ดีพอเช่นเดิม การโฟกัสและเก็บรายละเอียดยังคงเป็นปัญหาของ X Performance หลายภาพต้องถ่ายซ้ำ"
จุดเด่นเรื่องแอพกล้องนี้ ชาตินี้แก้ไม่หายจริงๆใช่มั้ย Sony
สดุดีแก่โหมด Auto ผู้ป่วยแล้วป่วยอีก ป่วยจนแก้ไม่หาย TvT
Xperia P ของผมยังไม่พังเลยครับ รุ่นเรือธง
วัสดุก็ดี ไม่ใช่พลาสติกเกรดต่ำ คงเป็นเหตุผลที่ราคาสูงด้วย
ผมเจอประจำเวลาเครื่องร้อนก็จะแจ้งว่าเครื่องจะดับ หรือร้อนเกินไปกล้องจะยังไม่ทำงาน รอเย็น
ตอนนั้นเป็นเรื่องที่หงุดหงิดพอสควรเลย ยี่ห้ออื่นดันไม่เป็นแบบนี้ ร้อนก็ถ่ายไปโลด
แต่ก็คงเพราะเหตุนี้ เครื่องผมยังคงปกติไม่พัง แค่เปลี่ยนแบตไป 1 รอบ
จริงๆมีอีกหลายอย่างที่ประทับใจและมีเหตุผลและแบนด์ของเขาที่เป็นเช่นนี้
ได้อย่างเสียอย่างไม่มีอะไรดีที่สุด เอาที่เราพอใจเป็นพอ ผมคิดแบบนั้น
เสียดายนิดนึง เป็นเรือธงแต่จอ 5 นิ้วเอง z5 ยัง 5.2 เลย ถ้าเทียบกับ z5 แล้ว คงต่างกันแค่ cpu แต่ส่วนอื่นๆ แทบจะเหมือนกัน คงยังไม่คุ้มถ้าจะเปลี่ยนจาก z5 ที่สำคัญ ผมชอบสีเขียวของ z5 มากกว่าอะ
จริงครับ สีเขียวของ Z5 สวยมาก สวยกว่าทุกสีในตระกูล Z5/P ทั้งหมดเลยครับ และ ถ้ามี Z5 ในมือแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรเลยที่จะไปซื้อ XP นอกจากหน้าตาที่เปลี่ยนไป๋ (ผมว่า Z5 สวยกว่าน่ะ)
เม้นข้างบนกับเม้นนี้ พิมพ์จาก z5 สีเขียว
จริงๆ อยากได้ 820 มาใส่ใน z5 น่าจะลงตัวที่สุดละ
แหะ ผมดันซื้อสีดำนี่จิ สุดท้ายแล้วก็ซื้อสีดำทั้งๆที่สีเขียวมันสวยกว่า แง่บๆ
ตอนแรกก็ว่าจะซื้อสีเขียว แต่ความเห็นน้องผู้ไปส่องตัวจริงมา บอกไม่สวย เอาสีพื้นดีกว่า เลยถอยสีขาวมา เพราะใช้ Z สีดำจนพัง เบื่อสีดำ 555 สังเกตนะ ใครใช้ยี่ห้อไหน ต่อให้พัง ก็ยี่ห้อเดิม
ใช้ z5 ต่อไป
กล้องนี่ไม่มี OIS นี่ครับ ? เท่าที่ผมทราบคือมือถือโซนี่ที่มี OIS ตอนนี้มีแค่ Xperia XA Ultra ที่ใส่ให้กับกล้องหน้าเท่านั้น ส่วนเรือธงยังใช้งาน EIS อยู่อย่างเดียวเหมือนเดิม
สำหรับโหมดออโต้ ผมแนะนำให้ลองเล่น Launch and Capture ของ Xperia X Performance เพิ่มครับ บางสถานการณ์จะได้ภาพที่ White Balance ดีกว่าเข้ากล้องตรงๆ ถ่ายโหมดออโต้เองซะอีก (งงกับโซนี่เหมือนกัน 55)
+1 ตามนี้ครับจะมาเม้นเรื่อง OIS เหมือนกัน
auto ระหว่าง 8m กับ 23m แบบ 8m สวยกว่าเยอะ
XP มี VoLTE หรือยังครับ
Z5 รอแล้วรอเล่า ก็ยังไม่มาสักที
มีครับ แต่เครือข่ายไม่เปิดให้ใช้สักที ปล. รุ่นนี้รองรับ 3CA ด้วยนะ ใช้ 4G แรงสุดๆเลยครับ
รุ่นนี้ไม่มี OIS นะครับ ผมดู review เมืองนอกหลายเจ้าเขาว่าไว้อย่างนั้น ส่วนเรื่อง overheat นี่น่าตลกมาก ไม่รู้ว่าออกแบบกันอย่างไร ปี 2016 แล้วยังระบายความร้อนกันได้ไม่ดีถึงขนาดนี้ บางครั้งถึงขั้นบังคับปิด app กันเลยทีเดียวจากที่ผมไปดูมา (app กล้อง)
That is the way things are.
ยังดีนะครับบังคับปิดแอป ผมเอา Surface 3 (Intel Atom) ไปเล่น Battlefield 4 นี่พี่แกไม่แจ้งอะไรล่วงหน้าด้วย ขึ้นอีกทีคือ shutting down เลย orz ถ้าจะทดสอบยาวๆ แบบนิ่งๆ ผมก็เปิดแอร์แล้วเอาพัดลมเป่าเครื่องไปด้วยแทน
L950 พยายาม(เปิด)ใช้ Windows Hello ไม่เกิน 5 ครั้ง (ไม่สำเร็จ ลองใหม่) เครื่องร้อนจนขึ้นเตือน (จะพักหน้าจอหรือจะปิดเครื่อง)
เล่น The Sims จนอุ่นมือเป็นชั่วโมง ชาร์จไปด้วย ซึ่งแน่นอนว่ามันจะร้อนมาก แต่ไม่ขึ้นเตือนอะไรสักอย่าง ไม่โอเวอร์ฮีต ไม่ชัตดาวน์ อันนี้ก็งงเหมือนกัน ว่าเป็นเพราะอะไร
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
L920 ถ้าร้อนจัดจริงๆ มันดับนะครับ ขึ้นเตือนแล้วก็ปิดตัวเอง ผมเคยเจออยู่สองรอบ แต่มันต้องร้อนจัดมากจริงๆ มันถึงจะปิดครับ เล่น Asphalt กับเพื่อนนี่ร้อนจนจับไม่ได้ต้องเลี่ยงหามุมที่จับได้แต่มันก็ไม่ดับครับ ผมจำไม่ได้แล้วว่ารอบที่ดับนี่ทำอะไรลงไป
Windows Hello มันอาจใช้อะไรมากกว่าเล่นเกมอีกก็เป็นได้ครับ 555
บังคับปิดน่าจะแค่ app กล้องนะครับ เพราะ app อื่นผมเล่นอย่างโปเกม่อน เปิดตลอดก็ร้อนๆนะ แต่ไม่บังคับปิด งงดี
ถ้าไม่มี OIS เดี๋ยวผมแก้นะครับ (บางเจ้าบอกว่ามี อันนี้ผมก็งงๆ)
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
น่าจะเป็นผลมาจากการทำกันน้ำครับ เคยอ่านข่าวนึงบอกว่าการทำมือถือกันน้ำ มันต้องมีซีลยางนู่นนี่เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าเครื่อง ส่งผลให้ตัวเครื่องระบายความร้อนยาก แต่ในส่วนของแอพกล้องที่บังคับปิดเวลาร้อน อันนี้ก็อาจจะมาจากความสามารถของการทำกันน้ำที่ระบายความร้อนยาก กับอีกเหตุผลนึงก็คงเป็นเพราะ SONY ด้วย ที่ไม่สามารถจัดการปัญหานี้ให้หมดไปได้ ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าอย่าง S7 / S7 Edge ที่มาตรฐาน IP68 เหมือนกับมือถือ SONY เครื่องมันร้อนมันระบายความร้อนยากเหมือนกันมั้ย? ผมมองว่า..ถ้าทำกันน้ำแล้วมันมีปัญหาความร้อนขนาดนี้ และยังไม่สามารถหาทางออกแบบให้มันระบายความร้อนได้ดีๆ ผมว่าอย่าทำเลยดีกว่า ไม่ต้องถึงขั้น IP68 อ่ะ เอาแค่กันฝนหรือกันตกน้ำแบบแป๊บๆก็พอ (ถ้าทำกันน้ำแล้วมันจะมีปัญหากับความร้อนมากขนาดนี้)
ผมมองว่าไม่ได้เป็นปัญหาที่ฮาร์ดแวร์ครับ เป็นที่ซอฟแวร์กล้องมากกว่าที่กินทรัพยากรเครื่องมากกว่าจ้าวอื่นๆและดูเหมือนจะไม่ปรับปรุงตรงนี้ซักที
จริงๆส่วนตัวผมว่า Z5P สี Chrome นี่หรูสุดๆแล้วครับ ยังไม่มีใครแทน
ส่วนเรื่องเดียวที่น่าติที่สุดสำหรับผม คงเป็นเรื่อง RAM ที่ให้มาแค่ 3GB กั๊กมากๆ ช่วงนี้ผมที่ขนาดเป็นแฟนบอย XPERIA ยังไม่กล้าถอยมาใช้กับราคาขนาดนี้ ชาวบ้านไป 6GB กันแล้ว แค่อย่างน้อยๆ 4GB จาก SONY ยังไม่เคยเห็น
ผมก็รอไปเรื่อยๆนี่แหละครับ ไม่เปลี่ยนจนกว่าพี่ SONY จะออก RAM เยอะกว่านี้สักที
ด้านหน้าไม่สวยเลย ดูใช้พื้นที่ขอบหนามากเกินเหตุสำหรับมือถือยุคนี้ด้วย
ผิดหวังกับ Experia มากครับ โดยเฉพาะ ตระกูล Z5 เพราะพอจะซื้อจริง พบว่ามันต่อ DAC ที่ผมใช้ไม่ได้เลยสักตัว (ผมมี DAC ไปทดสอบ 3 ตัว) ตระกูล X เอง เท่าที่ทดสอบกับ XA/X ก็ต่อได้บ้างไม่ได้บ้าง มือถือตัวเองไม่เน้นใส่ชิปเสียงดีๆ มา แถมยังต่อ DAC แยกลำบากอีก อย่างนี้ไม่ไหวครับ #บาย
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.
กด ตรวจสอบการเชื่อมต่อ USB หรือยังครับ
ยังไม่ได้กดครับ หุหุ เรื่องนี้ผมก็เพิ่งรู้มาเหมือนกัน ว่า Z5 นี่ Sony ทำ rom มาให้ต่อ external DAC ยุ่งยากจังเลย
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.