Tags:
Forums: 

การริเริ่มสิ่งใหม่จะช่วยให้ธนาคารนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ได้อย่างทันท่วงที
ในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ธนาคารเตรียมโยกย้ายข้อมูลมากถึงร้อยละ 50 ไปยังคลาวด์ภายในปีพ.ศ. 2561

ธนาคารดีบีเอส เป็นธนาคารระดับแนวหน้าของการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิตอล และยังคงมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำโดยการปรับปรุงโครงสร้างด้านเทคโนโลยีให้เสมือน Fintech เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า ทางธนาคารได้เปิดเผยว่า ธนาคารดีบีเอสได้ลงนามข้อตกลงกับ อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (AWS) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านโครงสร้างพื้นฐานชั้นนำ เพื่อนำเทคโนโลยีคลาวด์ของ AWS มาใช้ประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจ จากข้อตกลงดังกล่าว ธนาคารดีบีเอสจะสามารถสร้างรูปแบบคลาวด์แบบสมผสานที่เหมาะสำหรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทั้งในด้านการปริมาณการใช้งานและระบบการทำงานซึ่งจะช่วยเกื้อหนุนการใช้งานดาด้าเซ็นเตอร์ในรูปแบบเดิม

การที่ธนาคารดีบีเอสได้ริเริ่มใช้งานคลาวด์ก่อนภาคอุตสาหกรรมการเงินอื่นๆ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านดิจิตอลครั้งสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมการเงิน ด้วยการใช้ระบบคลาวด์นี้ธนาคารจะสามารถทดลองและปรับเปลี่ยนในทางดิจิตอลและสามารถพัฒนาแอพพลิเคชั่นใหม่ๆได้เร็วขึ้น ในขณะที่ยังคงไว้ซึ่งมาตรฐานสูงสุดด้านความปลอดภัย

นายเดวิด เกลดฮิล หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีและการปฏิบัติการของธนาคารดีบีเอส กล่าวว่า “ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หลายๆ บริษัท อาทิ Amazon Facebook Google และ Netflix เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในฐานะผู้นำในการสร้างสรรค์นวัตกรรม สิ่งที่ทำให้บริษัทเหล่านี้แตกต่างจากบริษัทอื่นคือความสามารถในการทดลองสิ่งใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง ขยายขนาดโครงสร้างพื้นฐานโดยอัตโนมัติและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆออกสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว บริษัทเหล่านี้สามารถทำเช่นนี้ได้โดยการใช้ประโยชน์จากความยืดหยุ่นของเทคโนโลยีคลาวด์”

ธนาคารดีบีเอสได้เซ็นสัญญากับ AWS หลังจากมีการขยายระยะเวลาของประเมินผลโดยธนาคารดีบีเอส และพิสูจน์แนวคิดการทดลองว่า AWS นั้นจะสามารถนำมาใช้และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับดาต้าเซ็นเตอร์ของทางธนาคารที่มีอยู่ในปัจจุบัน

ธนาคารดีบีเอสได้ปรับระบบการทำงานเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของธนาคารกลางสิงคโปร์ด้านการบริหารจัดการความเสี่ยงของเทคโนโลยี อีกทั้งธนาคารดีบีเอสได้เพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยด้านเทคโนโลยี ระบบอนุมัติการเข้าถึงข้อมูลภายใน และมาตรฐานการเข้ารหัสข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงเพื่อรองรับระบบคลาวด์

"พันธสัญญาของธนาคารดีบีเอสคือการย้ายข้อมูลสำคัญไปยัง AWS ซึ่งแสดงให้เห็นว่าธนาคารดีบีเอสไม่ได้มีความมุ่งมั่นแค่เพียงให้บริการที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าของธนาคารเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้นำในด้านการพัฒนาอย่างรวดเร็วของธุรกิจการเงินในประเทศสิงคโปร์” นายนิค วอลตัน ผู้จัดการประจำภูมิภาคอาเซียน ของ Amazon Web Services กล่าว "เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างมากมากที่ธนาคารดีบีเอสเลือก AWS เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิตอล นั่นหมายความว่าธนาคารดีบีเอสจะได้รับประโยชน์มากมายจากการใช้โครงสร้างพื้นฐานของ AWS Cloud ที่ได้รับการออกแบบมาโดยคำนึงถึงความปลอดภัยมากที่สุด เชื่อถือได้ และสามารถปรับเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมระบบคลาวด์คอมพิ้วติ้งโลกได้ “AWS ยังคงเดินหน้าทำงานร่วมกับสถาบันการเงินทั่วโลกเพื่อช่วยให้สถานบันการเงินสามารถย้ายไปใช้ระบบคลาวด์ได้อย่างมั่นใจ"

หนึ่งในกรณีศึกษาแรกของการใช้ AWS ในธนาคารดีบีเอส คือธุรกิจ Treasury and Markets (T&M) ของธนาคารดีบีเอส ธนาคารจะใช้บริการ AWS เพื่อวัตถุประสงค์ในการกำหนดราคาและมูลค่าเครื่องมือทางการเงิน ในการบริหารจัดการความเสี่ยง เนื่องจากข้อมูลเหล่านี้ต้องใช้คอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง

AWS ทำให้ธนาคารดีบีเอสสามารถปรับเปลี่ยนตามการขยายตัวได้อย่างรวดเร็วของ computing grid ไม่ว่าจะเพิ่มขึ้นหรือลดลง โดยไม่กระทบต่อระบบการทำงานและฐานข้อมูล ในกรณีของ T&M บริการของ AWS จะช่วยให้ธนาคารมีวิธีที่รวดเร็วและยังคุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายในการจัดการปัญหาการซื้อขายที่เกิดขึ้นแบบฉับพลัน เช่นปัญหาที่เกิดจากสถานการณ์ Brexit

ธนาคารคาดว่าจะขยายการใช้งาน AWS นอกเหนือที่ใช้อยู่ปัจจุบันและอาจจะย้ายข้อมูลมากถึงร้อยละ 50 ไปยังคลาวด์ภายในระยะเวลาสองปี ซึ่งจะส่งผลให้ธนาคารประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างมหาศาลเพิ่มความยืดหยุ่นและสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว

ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ธนาคารดีบีเอสได้ลงทุนอย่างมีนัยสำคัญในการริเริ่มเทคโนโลยีเชิงกลยุทธ์เพื่อเชื่อมโยงธนาคารให้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของลูกค้า ลูกค้าสามารถใช้เวลามากขึ้นกับคนหรือสิ่งที่พวกเขาสนใจมากขึ้น ซึ่งรวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างทางเทคโนโลยีของธนาคาร และกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมภายในองค์กรของธนาคารเพื่อให้เหมือน Fintech มากยิ่งขึ้น

Get latest news from Blognone