By: sunnywalker 
on 5 July 2016 - 12:27
Tags:
Topics:
Avex Group ค่ายดนตรียักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นที่มีนักดนตรีในสังกัดคือ อายูมิ ฮามาซากิ ใช้กลยุทธ์ Streaming-first หรือปล่อยผลงานศิลปินผ่านสตรีมมิ่งก่อนปล่อย CD โดยมีความเชื่อว่าเป็นการโปรโมทศิลปินที่ดีที่สุดในยุคดิจิทัล
ในอัลบั้มล่าสุดของอายูมิ ฮามาซากิ ทางค่าย Avex Group ปล่อยซิงเกิลใหม่ผ่านสตรีมมิ่งแพลตฟอร์มชื่อว่า AWA ช่วงต้นเดือนพฤษภาคมก่อนจะปล่อย CD ออกขายเมื่อ 29 มิถุนายน นั่นหมายความว่าแฟนเพลงมีโอกาสได้ฟังเพลงใหม่ของอายูมิผ่านสตรีมมิ่งเป็นเดือนก่อนจะมี CD ออกมา จนถึงตอนนี้มียอดฟังไปแล้ว 2.4 ล้านครั้ง และทัวร์คอนเสิร์ตของอายูมิที่เริ่มต้นหลังจากปล่อยซิลเกิลเพียงสามวันก็ครึกครื้นมากด้วยแสดงให้เห็นว่าแฟนเพลงส่วนใหญ่ฟังเพลงใหม่ของอายูมิทางสตรีมมิ่งมาแล้ว
ฟีเจอร์ของ AWA ที่ผู้ใช้สามารถแชร์เพลง ทำให้เพลงเข้าถึงคนฟังมากขึ้น นอกจากนี้ค่าสมาชิกของ AWA ยังเป็นอัตราคงที่และสมาชิกใหม่สามารถใช้ฟรีในช่วงแรก
ทางค่าย Avex Group บอกว่านี่เป็นหนทางโปรโมทศิลปินที่ดีที่สุดในยุคดิจิทัล หน้าที่ของค่ายเพลงคือขายศิลปิน ขายความสามารถของพวกเขา ไม่ใช่ CD
ที่มา - Nikkei Asian Review
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
ซิลเกิล => ซิงเกิล
ไอเดียดี แล้วมันต่างอะไรจาก Official MV หรือ Audio-Only ที่ลงใน YouTube หละครับ
Get ready to work from now on.
ต่างตรงที่อัพก่อนอัลบั้มขายเดือนนึงรึเปล่า
AWA น่าจะเป็น streaming เพลงและวีดิโอ แพลตฟอร์มปิด แบบ spotify/netflix อะไรพวกนี้ ที่ต้องจ่ายค่าบริการรายเดือน/ฟรี ที่กลุ่มเป้าหมายคือคนฟังเพลงมากกว่า youtube ที่เป็นช่องทีวีออนไลน์ ส่วนหนึ่งเป็นบริการของบ.ญี่ปุ่นเองด้วย จึงเป็นที่นิยมในประเทศมากกว่า อย่างเช่นช่องทีวีออนไลน์อย่าง niconico
The Dream hacker..
เพลงป๊อบญี่ปุ่นเมื่อก่อนหาฟังใน Youtube ยากมาก ขนาดที่อยู่ในเกมคอนโซลยังโดนค่ายเพลงแจ้งลิขสิทธิ์จนคนอัพวิดีโอ Walkthrough ต้องปิดเสียงเพลงเหล่านี้ถึงจะอัพโหลดได้
เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นครับ ...
คือเค้ายังคิดว่าเค้าขายได้เฉพาะในประเทศมั้ง เลยบล็อกต่างประเทศหมดเลย
น่าเสียดายแทนคนที่อยากอุดหนุน แต่อยู่ต่างประเทศนะครับเนี่ย เศร้า...
Get ready to work from now on.
ผิดกับคนแถวนี้ที่เอาเพลงค่ายตัวเองไปฝากบน YouTube เพื่อสร้างโอกาสให้ตัวเองไปตามจับขู่เข็ญ รีดไถ ชาวบ้าน
ผมว่าถ้ามันจะหวงขนาดนั้นก็อย่าเอามาขึ้นเลย หรือขึ้นแล้วก็กำหนดเป็น private ไปซะ เอามาปล่อยแล้วตามจับแม้กระทั่งร้านกาแฟ มันทุเรศจริงๆ
เมื่อไหร่ AKB48 จะทำงี้บ้าง ทุกวันนี้ปล่อย MV เฉพาะเพลงแรกของซิงเกิลเพลงเดียว
จะปล่อยก็ต่อเมื่อซิงเกิลใหม่วางขาย ซิงเกิลเก่าถึงเอาลงยูทูปได้
ก็เพราะปัญหาในการทำตลาดของญี่ปุ่นที่เป็นอยู่ เลยโดนทั้งจีน เกาหลีไต้ และประเทศเพื่อนบ้านตีตลาดจนไปไม่รอด ต้องม้วนเสื่อกลับบ้านมาหลายรายแล้ว
แถมยังชอบจำกัดแค่ในญี่ปุ่นอีกต่างหาก นึกว่ามีคนอุดหนุนในประเทศเยอะมาก เลยไม่เปิดให้ต่างประเทศเข้าได้ ผลก็เป็นอย่างที่เห็น เศรษฐกิจฝืดเคือง สินค้าของตัวเองขายสู้คู่แข่งไม่ได้ ไม่ต้องไปโทษใครเลย
Get ready to work from now on.
แถมยังต้องแข่งกันเองหนักมาก ศิลปินเยอะไปหมด ไหนจะต้องขายสินค้าอย่างอื่นด้วย ถึงแม้จะมีความคิดสร้างสรรค์สูงมาก อาจจะสูงกว่าประเทศโซนเอเชียอื่นซะด้วยซ้ำแต่ถ้าไม่มีคนเห็นมันก็เท่านั้น ยังดีที่ทดแทนด้วยการท่องเที่ยว ไม่งั้นคงดับดิ้นไปนานแล้ว
พูดยากครับ ตลาดเขาใหญ่เป็นอันดับสองของโลก (และถ้านับเฉพาะเพลง Jazz ก็ใหญ่ที่สุดล่ะนะ) ผมว่าเขาก็มองว่ามันก็ใหญ่พอที่จะรอดได้นะ
แต่วิธีการทำตลาดของเขาจะค่อนข้างอนุรักษ์นิยม ถ้าจะทำตลาดต้องมีตัวแทน และให้ตัวแทนเป็นคนทำตลาด (ซึ่งก็ดีนะในมุมมองของผู้ประกอบการ แต่มันวิ่งช้าน่ะครับ ...) ตัวเองจะไม่ลงมาทำเอง ...
น่าสนใจนะครับว่าอุตสาหกรรมเพลงของญี่ปุ่นใช้การตลาดแบบปิด แต่กลับเป็นตลาดที่ใหญ่อันดับสองของโลก (ในปี 2010 ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งด้วยซ้ำ) จากรายงายของ IFPI
ที่บอกนี่หมายถึงนักร้องญี่ปุ่นคนไหนเหรอ
อย่าง AKB48 ก็ไม่ได้ออกไปทำตลาดนอกประเทศนิครับ ใช้การตลาดแบบเปิดวงน้องในประเทศนั้นๆแทน แล้วยอดขาย AKB48 อย่างซิงล่าสุดก็ขายไปได้กว่า 1.5 ล้านนะ
แล้วกลับกันนักร้องเกาหลีหลายวงพยายามที่จะไปเดบิวที่ญี่ปุ่นด้วยซ้ำ
เวลาไปเดบิวต้องไปอยู่ญี่ปุ่นเรียนภาษาเป็นเดือนๆ ซิงเกิลเพลงที่ออกมาก็ต้องเป็นภาษาญี่ปุ่น
คือไม่ใช้เหมือนนักร้องเกาหลีที่มาบ้านเรานะ แบบมาโปรโมทนิดๆหน่อยๆ
มาเล่นคอนฯเป็นรอบๆไปอะไรแบบนั้น
แต่จะมีนักร้องเกาหลีเฉพาะบ้างวงที่ดังจริงๆเท่านั้นอย่าง snsd หรือ sj
ที่ไม่ต้องไปอยู่เตรียมตัวเดบิวจริงจังในญี่ปุ่น
แถมนักร้องเกาหลีบ้างคนเดบิวแล้วบ้างปีอาศัยอยู่ในญี่ปุ่นมากกว่าอยู่ในเกาหลีซะอีก
บ้างวงถึงขนาดแฟนเพลงเกาหลีจิตตกเลยเวลานักร้องจะไปเดบิวญี่ปุ่น
เพราะต้องหายหน้าไปหลายเดือน
ญี่ปุ่นเศรษฐกิจฝืดจริงแต่ขนาดตลาดด้านบันเทิงก็ยังใหญ่กว่าที่อื่นเยอะอยู่
อันนี้ผมหมายถึงการทำธุรกิจของญี่ปุ่นเองที่ไม่ออกไปทำตลาดต่างประเทศหรือไปทำแบบไม่ตั้งใจ หรือแม้จะตั้งโรงงานและทำการตลาดไปแล้วแต่กลับแผ่วหรือล้มหายตายจากไปก็มี
ตอนนี้กำลังโดนเกาหลี จีน กับชาติอื่นๆ แซงหน้าทำกำไรในตลาดต่างประเทศไปเยอะ ไม่ใช่เฉพาะแค่เพลง แต่รวมถึงหนัง อุปกรณ์ไฟฟ้า รถยนต์ ที่กำลังตีตื้นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด เห็นได้จากรถตู้ฮุนได H1 ที่มีเห็นบ่อยขึ้น เป็นต้น
Get ready to work from now on.
ถ้าเป็นธุรกิจด้านอื่นก็แผ่วตามที่เห็นแหละครับ
แต่ทางด้านเพลงญี่ปุ่นไม่เคยส่งออกอย่างจริงจังเท่าไหร่นะ
แต่ก็มีนักร้องที่ไปเล่นต่างประเทศบ่อย อย่าง One ok rock หรือ beby metal
แล้วก็ไปได้ดีด้วย แต่ในไทยคนที่ไม่ได้ติดตามก็จะไม่รู้
เพราะในไทยโดนกระแสเกาหลีครอบไปหมดแล้ว
ญี่ปุ่นไม่เหมือนเกาหลีที่เค้าสนับสนุนให้ส่งออกอย่างจริงจังนะครับ
จะบอกว่าญี่ปุ่นหัวโบราณก็ใช้นะ แต่ตลาดในประเทศก็ขายได้อยู่ทำให้ไม่คิดว่าต้องส่งออกไปไหน
อย่างวงไอดอลหรือวงดนตรีที่ไม่ดังก็ยังอยู่ได้ เพราะแฟนๆเหนียวแน่นสนับสนุนกันจริง
นอกจากเพลง แล้วก็พวกเกม anime หรืออะไรหลายๆอย่างที่แฟนๆจากทั่วโลกอยากสนับสนุน แต่ติดหัวอนุรักษ์นิยม หรือ(ทุนนิยม รอคนมาซื้อ LC ) ก็ไม่รู้ขายแค่ใน JP อย่างเดียว ไม่ยอมปล่อยออกนอกประเทศซะที....ทั้งที่แฟนอยากจะเสียเงินใจจะขาด...ถ้าได้เศรษฐกิจJP ก็น่าจะดีขึ้นหรือช่วยได้เยอะเลย.....OTZ
การขายเฉพาะในประเทศตัวเอง เมื่อมันสามารถขายไปยังต่างประเทศได้ด้วย เป็นอะไรที่ไม่ฉลาดอย่างมาก
ประสบการณ์เรื่องมือถือน่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีนะ ถ้าสมัยก่อนผลักดันเทคโนโลยีของตัวเองไปยังต่างประเทศ คงขายได้เงินเป็นกอบเป็นกำหลายล้านล้านแน่นอน
That is the way things are.
พวกเกมตู้ หรือของ Limited อะไรหลายๆอย่างด้วย...ขายแค่ local ใน JP เท่านั้น...เซ็ง