ปัจจุบันโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Motors ตั้งอยู่ที่เมือง Fremont รัฐแคลิฟอร์เนีย มีพื้นที่ราว 4.9 ล้านตารางเมตร และขณะนี้ก็กำลังสร้างเพิ่มอีกโรง ในชื่อ Gigafactory ที่รัฐเนวาดา มีพื้นที่ใหญ่มหึมา เป็นรองแค่โรงงานผลิตเครื่องบินโบอิ้ง ที่รัฐวอชิงตันเท่านั้น โดยขณะนี้มีรายงานจากเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ทันหุ้นของประเทศไทยว่า Tesla Motors กำลังสนใจเข้าซื้อที่ดินในประเทศไทยเพื่อตั้งโรงงานผลิตรถยนต์เพิ่ม
แหล่งข่าวรายงานว่านักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่งให้ข้อมูลว่า Tesla Motors ได้เข้ามาเจรจากับบริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด หรือ TFD เพื่อที่จะสำรวจพื้นที่ก่อนซื้อที่ดินแปลงใหญ่ในนิคมอุตสาหกรรม TFD เฟส 2 ณ อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งมีการประเมินว่า Tesla Motors จะขอซื้อที่ดินราว 200 ไร่ (ราว 320,000 ตารางเมตร) จากพื้นที่ของนิคมฯ ทั้งหมดราว 2,500 ไร่ โดยประเมินราคาที่สิ้นไตรมาสที่ 1/2559 ราคาไร่ละ 9 ล้านบาท จึงทำให้มูลค่าที่ดินทั้งหมดของดีลนี้อาจสูงถึง 1,800 ล้านบาท
แหล่งข่าวยังบอกว่าจุดประสงค์ของการเข้าเจรจาซื้อที่ดินในไทยคราวนี้ เป็นไปตามนโยบายของผู้บริหาร Tesla Motors ที่ต้องการขยายฐานการผลิตรถยนต์มาในประเทศแถบอาเซียน, เอเชีย และอื่นๆ
หลังข่าวนี้ออกมา ราคาหุ้นของ TFD เพิ่มสูงขึ้นถึง 12.36% มาอยู่ที่ราคา 4 บาทต่อหุ้นแล้ว (ราคา ณ ตอนเขียนข่าวนี้)
ที่มา - หนังสือพิมพ์ทันหุ้น
Comments
ขอให้เป็นข่าวจริง แต่ขอเป็นราคารถประกอบในประเทศ + สิทธิพิเศษทางภาษี
เห็นข่าวแล้วผมกรี๊ดเลย
เป็นเรื่องของหุ้นรึเปล่า?
รอดู เป็นจริงก็เยี่ยมเลย
ถ้าไม่ใช่ข่าวลวงปั่นราคาหุ้นจะดีมาก
+1 ถ้าทำจริงๆเขาควรจะปิดข่าวให้ดีไม่ให้รั่วออกมา
อันนี้เหมือนตั้งใจรั่ว(หรือลวง)เพื่อปั่นราคาหุ้น TFD
มาจริงพลังงานน้ำมันก็โดนละครับ
ไฟฟ้าขึ้นยาวๆ
กรี้ดดดดด นี่ถือเงินรอเลยนะเนี้ยะ
ปั่นราคาหุ้นแน่ๆ
ถ้านี่ไม่ใช่ข่าวลือ การจัดจำหน่ายในไทย ยังต้องมีภาษีรถนำเข้าอยู่ไหมครับ ?
ก็คงเหมือนรถประกอบในไทยค่ายอื่นๆนั่นแหละฮะ
อยู่ที่โรงงานนี้จะทำอะไร ถ้าแค่ผลิตชื้อส่วนแล้วไปประกอบที่อื่นก็ทำใจโดนภาษีเหมือนเดิม T-T
จิงเหรอ ประเทศมีสิทธิพิเศษสำหรับรถไฟฟ้าหรือมาตรการอะไรที่ดึงดูดได้มากกว่าประเทศในเอเชียอื่นๆหรือเปล่า
หรือจะผลิตส่งญี่ปุ่น
น่าสนใจนะ ประเทศไทยอยู่ใกล้ sg hk jp
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ก็ขายในออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ได้นะครับ หากมาจริง
ไม่ต้องมีสิทธิพิเศษเพิ่มเติมปัจจุบันไทยเราผลิตรถยนต์เป็น1 ใน 10 ของโลกแล้วครับ ฐานการผลิตเราใหญ่และพร้อมมาก ค่าแรงไม่แพง(เผลอๆถูกกว่าจีน) ในอาเซียนเรานำโด่งแบบไม่เห็นฝุ่นนะครับ
ฝีมือของแรงงานในประเทศนี้ สำหรับธุรกิจด้านนี้ยังไงล่ะครับ เทียบกับค่าแรงแล้ว จริง ๆ ถือว่าคุ้มค่าไม่น้อยนะครับ
อีกอย่างประเทศไทยก็มีฐานผลิตเบนซ์อยู่ด้วย และมันคงจะสะดวกไม่น้อยกับเทสลาที่มีส่วนประกอบบางส่วนจากเบนซ์อยู่แล้ว
ราคาวิ่งสนุกเลยครับ
เจ้าเก่าก็แข็งอยู่นะ จะฝ่าด่าน 18 อรหันต์ไปได้หรือเปล่า
น่าจะจริง เห็นหนังสือเวียนนโยบายสนับสนุนรถยนต์นั่งอิเล็กทรอนิกส์อยู่ แต่ไม่ได้ระบุสัญชาติหรือยี่ห้อ
ขอให้เป็นจริง อย่าได้เป็นข่าวปั่นหุ้นเลยนะ รถไฟฟ้าจะได้เกิดในไทยอย่างเต็มตัวเสียที เสียเวลาทิ้งห่างให้ประเทศอื่นๆ มากเกินไปแล้วด้วยซ้ำ อย่าได้มีการเมืองมาแทรกแทรงเลยจะดีมาก
Get ready to work from now on.
รบกวนมาตั้ง SolarCity ก่อนเลยฮะ
ผมว่า Solar City ไฟฟ้าที่ผลิตได้ เจอคนไทยใช้ตอนนี้คงไม่พอครับ ขนาดตอนนี้ต้องขอซื้อจากประเทศเพื่อนบ้านมาใช้หล่อเลี้ยงเลยครับ
ต้องโรงไฟฟ้า Nuclear ตั้งแถวพื้นที่ภาคอีสานที่รกร้างว่างเปล่าและห่างจากเขตชุมชนมากๆ ทำระบบส่งน้ำและคลองระบายน้ำหล่อเย็น และสร้างได้มาตรฐานโลก ผลที่ได้น่าจะคุ้มกว่าในระยะยาว
Get ready to work from now on.
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ต้องอยู่ใกล้แหล่งน้ำ เช่น ทะเล ซึ่งภาคอีสานนี่ผมกล้าพูดเลยว่าไม่มีทางได้เห็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ถ้ายังไม่สามารถแก้ปัญหาภัยแล้งได้อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนครับ
อีสานก็สร้างได้ อีสานไม่ได้แล้งอย่างที่เข้าใจ แค่ไม่ค่อยมีเขื่อนให้ทำนาได้ปีละสองครั้งแบบภาคกลาง
แต่ที่ไหนๆก็มีคนค้าน คนไทยชอบอยู่กันแบบดั้งเดิม แต่ก็ชอบบ่นว่าเศรษฐกิจฝืดเคือง
ทำโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เรื่องระบบล่อเย็นไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะครับน้ำไม่ใช่แค่พอทำนาได้สองครั้งต้องไม่เคยมีภัยแล้งมาก่อนเลยนะครับถึงจะทำได้ แต่เห็นระบบโรงไไฟ้าแยบใหม่ในการล่อเย็นแบบแห้งไม่ต้องใช้น้ำแล้ว เ่ื่องน้ำอาจไม่เป็นปัญหาขนาดนั้น
น้ำในเขื่อนก็มีนี่ครับ คุณเข้าใจคำว่าภัยแล้งคืออะไร ภัยแล้งคือฝนตกไม่ทั่วฟ้า ทำให้บางพื้นที่ขาดน้ำแค่นั้นเองนะ
ภัยแล้งที่ผมเข้าใจคือปริมาณน้ำสุ่มเสี่ยงไม่พออุปโภคบริโภค และถ้าคุณเคยอยู่ภาคอีสานจะรู้ว่าช่วง 5 ปีที่ผ่านมาระดับน้ำในเขื่อนต่างๆ ในช่วงฤดูร้อนเข้าขั้นวิกฤติทุกปี บางเขื่อนที่ไม่เข้าก็เฉียดครับ
ผมเข้าใจว่าเขื่อนยังไงก็ต้องมีน้ำรักษาไว้ระดับนึงเสมอนะครับปล่อยให้ระดับต่ำมากไม่ได้ ซึ่งก็มากพอสมควรด้วย ใช้จากส่วนนั้นก็น่าจะพอหรือเปล่าครับ? (มันเอาไปใช้แล้ววนกลับมาลงเขื่อนได้ใช่มั้ย?)
มันไม่ได้เป็นทุกพื้นที่ในอีสานหรือเปล่า เท่าที่ดูไม่ถึงขั้นวิกฤตินะครับ
http://water.rid.go.th/flood/pics/Slide16.GIF
อีกอย่างคือขึ้นกับนโยบายปล่อยน้ำออกมาจากเขื่อนด้วย ถ้าน้ำน้อยเขาก็ไม่ปล่อยออกมาให้ทำนาปรังหมด ก็ต้องเก็บไว้ใช้
มันควรเป็นแม่น้ำหรือทะเล ที่มีน้ำไหลเข้าตลอดเวลาหรือเปล่าครับ
เพราะระบบหล่อเย็นของโรงนิวเคลียร์มันเอาน้ำเข้าไป แล้วก็ระเหยออกมาเลย
ถ้าน้ำไม่เยอะจริง ผมว่าไม่รอด
เข้าใจผิดแล้วครับ มันมีอยู่สองระบบคือ
1. once through นำน้ำจากแหล่งน้ำไปน้ำความร้อนออกมา(ทำให้ไอน้ำกลับเป็นน้ำ) ก่อนปล่อยคืนแหล่งน้ำ วิธีนี้ใช้ในกรณีที่แหล่งน้ำมีน้ำเยอะ เช่น ทะเล, แม่น้ำใหญ่ อาจมี cooling tower ช่วยลดอุณหภูมิน้ำอีกกรณีปล่อยน้ำคืนแหล่งน้ำแล้วอุณหภูมิสูงกว่าที่ควรจะเป็น
2. ระบบหมุนเวียน นำน้ำไปเอาความร้อนออกมา(ทำให้ไอน้ำกลับเป็นน้ำ) จากนั้นเอาน้ำไปลดความร้อนที่ cooling tower ด้วยอากาศและการระเหย วิธีนี้ต้องเติมน้ำลงไปเพิ่มส่วนที่ระเหยออกไป(อาจต้องเติมมากกว่าเพราะน้ำสกปรก) วิธีนี้จะใช้น้ำน้อยกว่าวิธีแรก ในโรงไฟฟ้าถ่านหินบางแห่งก็มี cooling tower เหมือนกัน
ปัจจัยการตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์มันควรจะต้องตั้งในที่ๆ ใช้ไฟฟ้าเยอะและมีแหล่งน้ำเพียงพอ ผมไม่รู้ว่าภาคอีสานใช้ไฟฟ้าเยอะขนาดนั้นหรือมีแหล่งน้ำเพียงพอหรือไม่ แต่ที่ๆ เหมาะจะตั้งพิจารณาจากปัจจัยด้านบนผมว่ามีเยอะ แต่หาที่ๆ สร้างแล้วไม่ถูกค้านจนต้องพับแผนคงยากกว่าหาที่ๆ แหล่งน้ำเพียงพอ
ขอบคุณครับ ที่อธิบาย
แต่พอจะทราบไหมครับว่า น้ำที่ไหลกลับเข้าสู่แหล่งน้ำคิดเป็นกี่เปอร์เซ็น กับที่เสียไป
วิธีแรกน้อยมากจนไม่ต้องไปใส่ใจน้ำที่หายไปเลยครับ
วิธีที่สอง อ้างอิงจากที่สำรวจใน US จะเสียไปแค่ 3 % หรือประมาณ 15200 m3 ต่อวันครับ แต่ไม่มีคืนสู่แหล่งน้ำ
ถ้าสนใจอ่านเพิ่มเติมได้ที่ Cooling Power Plants
ดูเงื่อนไขแล้วค่อนข้างยากครับ ตอนนี้ที่แถวทางอีสานก็ไม่ค่อยเห็นที่รกร้างนะครับ และถึงจะมีจริงๆ ก็น่าจะรกร้างเนื่องมาจากการที่น้ำท่ามันไม่อุดมสมบูรณ์นี่แหละครับ
สร้างที่อีสานนี่ไม่รอดอย่างแรงครับ หน้าแล้งหนักๆนี่แม่น้ำโขงยังแห้งนะครับ
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ผมว่าตั้งที่กรุงเทพฯ กลางแม่น้ำเจ้าพระยาอะแหล่มสุดแล้ว
มีแหล่งน้ำ(ท่วม)ตลอดปี + ใกล้แหล่งที่มีอัตราการบริโภคไฟฟ้าที่สูงมาก ไม่ต้องลากสายไฟไกล
เรื่องพลังงานผมว่ามันต้องมาจากหลายทางน่าจะดีครับ กันเหนียวอะไรทำนองนั้น
นิวเคลียร์ถ้าสร้างผมก็เห็นด้วยครับ ส่วนเขื่อนก็จำเป็นครับทั้งในแง่การเกษตรและพลังงาน
โซล่าซิตี้ไปทำทะเลทรายดีสุดแล้วครับใช้ที่เยอะ ประเทศเราดินดีปลูกพืชดีกว่า
คือถ้าบอกว่าดินดีแล้วต้องปลูกแต่พืชเนี่ย แบบนี้ต้องกลับไปดูว่าปริมาณสินค้าการเกษตรของเรามันล้นตลาดด้วยรึเปล่า
แต่ไอ้ที่เราขาดแน่ๆ น่าจะเป็นเรื่องพลังงานนะครับ
แน่สิครับก็อะไรราคาดีก็แห่กันปลูกนี่ เร่งปุ๋ยเร่งยาเร่งโต ของมันเลยมีแต่ปริมาณคุณภาพต่ำ
ที่จริงก็ควรที่จะมาตั้งโรงงานในไทยนะครับ เพราะอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับ automotive ในบ้านเราถือว่าครบครันมาก
เตรียมใช้รถไฟฟ้ากัน
facility อะไรสำหรับรถไฟฟ้าก็ไม่มี แหล่งไฟฟ้าราคาถูกและสะอาดก็ยังไม่มี นโยบายภาษีหรือกฎหมายอะไรก็ไม่มีสำหรับรถไฟฟ้า ถ้าประกอบมาราคาขายระดับ E Class ก็จะกลายเป็น niche market ไปอีก สรุปคือคนชั้นกลางทั่วไปไม่ได้ประโยชน์อะไรจากดีลนี้นอกจากหุ้น ส่วนคนที่ได้ประโยชน์จริงๆหรือคนงานโรงงานเพราะมีงานทำ ส่วนคนรวยอันนี้ไม่รู้
ราคาระดับเดียวกับ E-Classs ประมาณ 4 ล้านผมถือว่าไม่แพงนะครับ และตลาดนี้ไม่ใช่ Niche ครับ แต่ถ้าเริ่มที่ 7 ล้านผมถือว่าแพง
ถ้ามันกระตุ้นให้มีจุดเติมไฟฟ้าเยอะขึ้นมาได้ก็ได้ประโยชน์กันเยอะแล้วครับ
คือถ้าไม่มีใครเริ่มซักที มันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นน่ะครับ เอา Tesla มาก็เหมือนตบหัวพวกที่ยังนอนหลับให้ตื่นขึ้นมาได้บ้าง จะได้ไม่ต้องเอาแต่ "ศึกษา"
เคยดูพวก Norway ช่วงแรกๆที่ Tesla เข้าไป คือไม่มีอะไรเลย สถานีชาร์จปกติก็นิดนึง แถมชาร์จทีหลายชั่วโมง
ไม่เชื่อว้อย555 รอดู official
คราวที่แล้วก็ทำเสียใจมารอบนึงแล้ว
ตั้งผลิต แต่ไม่ขายไทยเองเปล่าหว่า
ฝาก SpaceX ไปร่วมงานบุญบั้งไฟยโสธรด้วยนะครับ
ข่าวปลอมแน่ๆ
จาก Bloomberg บอกว่าจะไปตั้งที่จีนนะครับ
http://www.bloomberg.com/news/articles/2016-06-20/shanghai-said-to-be-front-runner-for-tesla-china-production-site
กริ๊ดดดดดดด ข่าวจริงไหมเนี่ย