ฟีเจอร์สำคัญอย่างหนึ่งของ iOS 10 คือแอปเปิลอนุญาตให้ "ลบ" แอพของแอปเปิลที่ติดมากับเครื่องได้ แต่ล่าสุดแอปเปิลออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าตัวไฟล์ของแอพจะยังอยู่ในเครื่อง สิ่งที่ลบมีเพียงแค่ไอคอนและข้อมูลของผู้ใช้ที่ผูกติดกับแอพนั้นเท่านั้น (เหมือนกับการ disable แอพของฝั่ง Android)
Craig Federighi อธิบายเหตุผลของเรื่องนี้ว่าเป็นเพราะตัวไฟล์ไบนารีของแอพ ผูกติดกับตัวระบบปฏิบัติการที่ต้องผ่านการ sign จากแอปเปิลเพื่อการันตีว่าเป็นไฟล์จากแอปเปิลจริงๆ จึงไม่สามารถลบไฟล์ไบนารีเฉพาะแอพได้ (และในแง่ของการอัพเดต ก็ต้องอัพเดตพร้อมระบบปฏิบัติการ)
ในกรณีที่ผู้ใช้ลบแอพไปแล้วและต้องการนำแอพกลับคืนมา วิธีการคือให้เข้า App Store แล้วสั่งดาวน์โหลดใหม่ สิ่งที่เกิดขึ้นคือแอพจะไม่ถูกดาวน์โหลดจริงๆ แต่จะเพิ่มไอคอนคืนมา โดยเรียกจากไฟล์ไบนารีในเครื่อง
ที่มา - TechCrunch
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
มันควรจะยืดหยุ่นได้นะ โดยเฉพาะแอพที่มีไบนารีหรือไฟล์ไดๆ ก็ควรจะแยกออกจากแกนของ OS ไปเลย (แต่ถ้า OS ต้องใช้งานก็ unregistered หรือลบการอ้างอิงและลบแอพออกไปต่างหาก) และให้แอพทำหน้าที่แค่เรียกแกนที่ต้องการใช้งานเท่านั้นทั้งตัวระบบ iOS และ Android เลย
ถ้าทำเหมือน Windows ที่สามารถถอดส่วนประกอบที่ไม่จำเป็นออกไปได้เลยโดยไม่กระทบต่อการใช้งานเลยจะดีมาก
Get ready to work from now on.
ฝั่ง Windows ก็ IE ไงครับ
IE ก็ถอดออกจนหมดได้นะครับ
ไม่หมดครับ engine ของ IE ยังอยู่นะ
iBooks กับ Wallet เตรียมโดนเก็บก่อนใคร
ผมก็ยังใช้ทั้งสองตัวอยู่นะ อย่าถึงขั้นโดนเก็บเลยแค่แยกให้ download จาก appstore ได้ก็ยังดี
Wallet นี่อยู่ตปท หรือเดินทางบ่อยมัน useful มาก แต่ในไทยคงโดนเก็บแหละ
iBooks นี่ตัวใหญ่มาก แค่ตัวก็เป็นGแล้ว
iBooks ผมชอบใช้นะเปิดไฟล์ PDF นี่เร็วและลื่นมาก Adobe Reader กับ Foxit Reader นี่ช้าและอืด แต่ไม่รู้จริงๆ ว่ามันใหญ่ขนาดนั้น -_-
iBook ผมใช้ประจำ แต่เลือกลบได้ก็ดีนะ เพราะตัวอื่นผมไม่ค่อยได้ใช้
น่าจะต้องรอ iOS 11
แป่ววว...ไอ้เราก็หลงดีใจกะว่าจะได้เนื้อที่คืนมาซัก 1 Gb
คุณหลอกดาว
เห็นข่าวนี้ออกมาตอนแรกๆ ยิ้มปากแทบฉีก "16GBของเราจะได้มีเนื้อที่เพิ่ม"
พอข่าวนี้มา...ไม่มีคำอื่นจะพูดนอกจากคำว่า
"คุณหลอกดาว"
เห็นข่าวทีแรก ดูจากประโยคที่ใช้ตอนกดลบผมก็เข้าใจว่ามันทำงานแบบนี้แหละครับ
น่าจะเหมือนกับฝั่ง Android นั่นแหละ disable ได้ แอพไม่ทำงาน แต่แอพยังอยู่
+1
เดี๋ยวนี้มี disable แต่ลบข้อมูลแอพทิ้งไปด้วยครับเหมือนเหลือแต่ชอทคัทเฉยๆ
ก็น่าจะแยกแอพออกมาให้เลือกดาวน์โหลดได้ตั้งแต่ต้นเลยสิครับ
"Craig Federighi อธิบายเหตุผลของเรื่องนี้ว่าเป็นเพราะตัวไฟล์ไบนารีของแอพ ผูกติดกับตัวระบบปฏิบัติการที่ต้องผ่านการ sign จากแอปเปิลเพื่อการันตีว่าเป็นไฟล์จากแอปเปิลจริงๆ จึงไม่สามารถลบไฟล์ไบนารีเฉพาะแอพได้ (และในแง่ของการอัพเดต ก็ต้องอัพเดตพร้อมระบบปฏิบัติการ)"
ก็พอเข้าใจได้นะ แต่วิธีการแบบก็เป็นเพราะ apple ออกแบบเองไม่ใช่รึ ถ้า(อยากจะ)ออกแบบให้ลบได้เลยคงไม่เกินความสามารถหรอก
เหมือนเร่งให้คนย้ายไปใช้ 64 GB จริงๆ
ทำใจไม่ได้ ที่ต้องซื้อใหม่ หลายบาท
ความหวังของสาย16GB พังทลาย T.T
ผมลั่น
555 ผ่านมาหลาย iOS และฟีเจอร์นี้ก็ไม่มีอะไรที่ทำให้เนื้อที่เพิ่มขึ้น
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
จับรวมๆใส่ folder ไว้เหมือนเดิมแล้วกัน T-T