Tags:
Node Thumbnail

IBM เปิดศูนย์ Watson Center ที่ประเทศสิงคโปร์ เน้นเทคโนโลยีในอนาคต 2 กลุ่มคือ IBM Studios งานด้านดีไซน์และ Cognitive Computing ยุคใหม่ กับ IBM Garage เน้นการวิจัยเรื่อง Blockchain

Blognone ได้รับเชิญจาก IBM ให้ร่วมงานแถลงข่าวเปิดศูนย์แห่งนี้ด้วย

ผู้บริหารของ IBM ระบุว่าแวดวงเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปมาก การใช้คลาวด์และอุปกรณ์พกพากลายเป็นมาตรฐาน เมื่อคนนำไอทีเข้ามาใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้น วิธีการสื่อสารระหว่างคนกับเครื่องจักรจึงกลายเป็นเรื่องสำคัญมาก ส่งผลให้ IBM ต้องลงทุนเรื่องนี้อย่างมาก คำตอบคือเทคโนโลยีกลุ่ม Cognitive Computing (ในทีนี้คือ Watson) และการดีไซน์

alt="IBM Watson Center Singapore"

หุ่นยนต์ Nao-mi ที่เชื่อมต่อกับ Watson สามารถพูดตอบโต้กับคนได้ เปรียบเสมือนเป็นมาสค็อตของ Watson (ซึ่งไม่มีหน้าตา)

Cognitive Computing

IBM ทำตลาด Watson มานานพอสมควรแล้ว ตัวอย่างที่นำมาโชว์คือการใช้ Watson กับการแพทย์ ซึ่ง Blognone ก็เคยลงข่าวอยู่เรื่อยๆ

แนวคิดของ Watson คือนำ AI มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลที่มนุษย์อาจมองไม่เห็นหรือไม่ได้สังเกต ในเดโมของ IBM โชว์การเฝ้าระวังผู้ป่วยในห้อง ICU ที่มีระบบมอนิเตอร์สัญญาณต่างๆ อยู่แล้ว แต่สัญญาณเหล่านี้แยกประเภทกัน ซึ่งบางครั้งสัญญาณแต่ละตัวอาจดูปกติทั้งหมด แต่ถ้านำสัญญาณบางตัวมาประมวลผลร่วมกันจะพบว่ามีอาการผิดปกติ ซึ่ง Watson จะเข้ามาช่วยวิเคราะห์และแจ้งเตือนข้อมูลนี้ กับแพทย์หรือพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยได้ทันที

alt="IBM Watson Center Singapore"

alt="IBM Watson Center Singapore"

IBM บอกว่างาน Cognitive กับการแพทย์ต้องทำ 3 เรื่องให้ได้ดี นั่นคือ predictive หรือการวิเคราะห์ข้อมูลแล้วพยากรณ์ล่วงหน้า, insights วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก, advisor แนะนำแพทย์ว่าควรรักษาอย่างไร มีทางเลือกอะไรบ้าง โดยดูจากฐานข้อมูลที่ Watson เข้าถึง

alt="IBM Watson Center Singapore"

ปัจจุบัน IBM มีโรงพยาบาลระดับโลกหลายแห่งร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ ซึ่งก็รวมถึงโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ของบ้านเราด้วย

alt="IBM Watson Center Singapore"

Design

alt="IBM Watson Center Singapore"

IBM บอกว่าริเริ่มผลักดันเรื่องการดีไซน์มาตั้งแต่ปี 2013 เริ่มจากการรวมทีมดีไซเนอร์ที่กระจัดกระจายไว้ด้วยกัน ตอนแรกงานของทีมดีไซเนอร์เน้นการออกแบบเพื่อใช้งานภายในบริษัท แต่ภายหลังก็ขยายออกมาให้บริการกับลูกค้าของตัวเองด้วย

ปัจจุบัน IBM มีหน่วยงานชื่อ Interactive Experience (iX) ซึ่งถือเป็น creative agency รายใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของโลก (อ่านไม่ผิดครับ IBM ทำธุรกิจเอเยนซี่ด้วย น่าตกตะลึงมาก)

หน่วยงานนี้รวมเอาคน 4 ประเภทคือ นักยุทธศาสตร์ (strategy), นักออกแบบ (design/UX), นักวิเคราะห์ข้อมูล (analytics) และโปรแกรมเมอร์ (technical) เข้ามาด้วยกัน นั่งทำงานร่วมกันไม่แบ่งฝ่าย ใช้วิธีการทำงานแบบใหม่ๆ เน้นสร้างต้นแบบให้เร็ว ยังไม่ต้องรอผลงานสมบูรณ์ แล้วมีกระบวนการปรับปรุงให้ดีขึ้นเป็นรอบๆ (IBM เรียกว่า loop) ร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด

ในงานเปิดตัว IBM สาธิตโครงการที่ช่วยสายการบินรายหนึ่งในออสเตรเลีย ช่วยออกแบบตู้ kiosk สำหรับสแกนตั๋วโดยสารก่อนขึ้นเครื่อง ซึ่งตู้แบบเก่ามีขนาดใหญ่เทอะทะ ไม่สะดวก และต้องชาร์จแบตเตอรี่อยู่บ่อยๆ

กระบวนการทำงานของ IBM ย้อนกลับไปที่ต้นเหตุของปัญหาก่อน ไม่ได้เริ่มจากเทคโนโลยี มีวิธีทำงานคล้ายสตูดิโอออกแบบมากขึ้น เช่น ไปสังเกตผู้ใช้งานจริงที่สนามบิน ร่างไอเดียลงกระดาษ เขียน user story ฯลฯ และเนื่องจากมีวิธีการทำงานเป็นทีมที่คล่องตัว ทำให้สร้างต้นแบบได้เร็ว และนำไปทดลองร่วมกับลูกค้าก่อน ค่อยปรับแก้จนลงตัว

alt="IBM Watson Center Singapore"

alt="IBM Watson Center Singapore"

alt="IBM Watson Center Singapore"

alt="IBM Watson Center Singapore"

ผู้บริหารของ IBM บอกกับผมว่าตอนนี้ IBM Thailand มีทีม iX นั่งทำงานอยู่แล้ว แม้จำนวนยังไม่เยอะเท่ากับที่สิงคโปร์ แต่ลูกค้าในไทยก็สามารถใช้บริการได้ถ้าต้องการ ซึ่งจะทำงานร่วมกับศูนย์ใหญ่ที่สิงคโปร์ด้วย

Blockchain

สุดท้ายคือ IBM Garage หน่วยงานอีกแห่งใต้สังกัด IBM Watson Center Singapore มีหน้าที่ทดสอบเทคโนโลยี Blockchain ร่วมกับสถาบันการเงินในสิงคโปร์

เรื่องที่น่าสนใจคือ IBM กำลังนำ blockchain มาช่วยพัฒนาระบบการค้าระหว่างประเทศของสิงคโปร์ พวกการนำเข้า-ส่งออกสินค้า ผ่านท่าเรือในประเทศ ซึ่งต้องยุ่งเกี่ยวกับหน่วยงานมากมาย เช่น การท่าเรือ กรมศุลกากร ฯลฯ การกระจายศูนย์ข้อมูลเหล่านี้ด้วย blockchain ย่อมจะช่วยให้การค้าระหว่างประเทศรวดเร็วและโปร่งใสมากขึ้น แถมใช้ต้นทุนทางไอทีที่ถูกลง

alt="IBM Watson Center Singapore"

โดยสรุปแล้ว การเปิดศูนย์ IBM Watson Center ที่สิงคโปร์ มีหัวใจสำคัญคือต้องการเร่งสร้างความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่คาดว่าจะสำคัญในอนาคต ทั้งเรื่อง blockchain (การกระจายศูนย์การประมวลผล), cognitive (การใช้ AI และปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์), การดีไซน์และ user experience (อินเทอร์เฟซระหว่างคนกับเครื่องจักร)

จุดที่น่าสนใจคือบริษัทเก่าแก่อย่าง IBM ที่คนมักนึกถึงภาพนักธุรกิจใส่สูท กำลังเปลี่ยนตัวเองอย่างหนักให้ทำงานแบบสมัยใหม่ มีการดึงตัวดีไซเนอร์เข้ามาเป็นจำนวนมาก (ปีนี้ซื้อมาแล้ว 4-5 บริษัท เร่งขยายตัวหนักมาก มีดีไซเนอร์เป็นพันคนแล้ว) และใช้กระบวนการทำงานที่ดึงให้ลูกค้าเข้ามานั่งทำงานด้วยกันที่ศูนย์แห่งนี้ เพื่อให้ใกล้ชิดและเข้าใจปัญหาตรงกันมากขึ้น รวมถึงการทำงานแบบ loop ที่เน้นสร้างต้นแบบให้เร็ว แล้วปรับปรุงซ้ำไปเรื่อยๆ

Get latest news from Blognone

Comments

By: Pinery
ContributoriPhoneAndroidIn Love
on 12 June 2016 - 11:31 #918825

ชอบมาก

By: tanapon000 on 12 June 2016 - 13:49 #918849
tanapon000's picture

เป็นบริษัทที่ดูพัฒนาเรื่องใหม่ๆ ตลอดเวลา อ่าวแล้วรู้สึกว่าจะทำให้โลกนี้เจริญขึ้น