Tags:
Node Thumbnail

ในยุคที่บริษัทอินเทอร์เน็ตหันมาออกแบบฮาร์ดแวร์ในศูนย์ข้อมูลกันเอง เราเห็นข่าวกูเกิล-เฟซบุ๊กทำอะไรแบบนี้กันอยู่บ่อยๆ บริษัทอย่าง LinkedIn ก็มีโครงการแบบเดียวกัน โดยเปิดตัวสวิตช์รุ่นแรกของตัวเองที่เรียกว่า "Pigeon"

โครงการของ LinkedIn มีชื่อว่า Project Falco มีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหา latency ภายในศูนย์ข้อมูลของตัวเอง ทีมวิศวกรพบว่าปัญหา latency เกิดจากอาการ "microbust" หรือบัฟเฟอร์แพ็คเก็ตมีข้อมูลเยอะจนล้น แต่ผู้ขายอุปกรณ์เครือข่ายในท้องตลาดไม่ตอบโจทย์ เพราะไม่เปิดให้คนภายนอกเข้าถึง API ดูข้อมูลชิปควบคุม ส่งผลให้ LinkedIn ไม่สามารถพัฒนาฟีเจอร์หรือแก้บั๊กเองได้ นั่นแปลว่าชะตาชีวิตของบริษัทอยู่ในกำมือคนอื่น

โครงการ Falco จึงใช้แนวทางออกส่วนฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ออกจากกัน (decoupling) แล้วสั่งทำฮาร์ดแวร์เองจากผู้ผลิต (ODM) มาเขียนซอฟต์แวร์ควบคุมเองด้วยลินุกซ์ ตามแผนภาพตอนท้าย

Pigeon เป็นผลลัพธ์ชิ้นแรกของโครงการนี้ ใช้ฮาร์ดแวร์ของบริษัท Tomahawk รองรับการเชื่อมต่อแบบ 100Gbps จำนวน 32 พอร์ต (ขีดความสามารถรวม 3.2Tbps) ตัวอุปกรณ์จะถูกนำไปใช้งานในศูนย์ข้อมูลของ LinkedIn เอง และโครงการ Falco จะพัฒนาต่อเนื่องต่อไป

ที่มา - LinkedIn Engineering Blog

No Description

No Description

Get latest news from Blognone