Tags:
Node Thumbnail

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Meizu ประเทศไทยจัดงานเปิดตัว Meizu m2 note และทาง Blognone ก็ได้รับเครื่องมาทดสอบและรีวิวก่อนวางจำหน่ายออนไลน์ทาง Lazada ในวันที่ 29 กันยายนนี้

เจ้า m2 note ถือว่าเป็นมือถือสเปกกลางๆ แต่ราคาอยู่ที่ 5,990 บาทซึ่งถือว่าคุ้มค่าอย่างมาก ส่วนการใช้งานจะเป็นอย่างไร ติดตามได้เลยครับ (รูปเยอะมาก)

No Description

ดีไซน์

No Description

Meizu m2 note มีหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1920x1080 แบบ IGZO หากลองสัมผัสดูจะลื่นๆ แปลว่ามีการ coat สารกันรอยนิ้วมือมาด้วย ตัวเครื่องบรรจุมาในกล่องกระดาษแข็งอย่างหนาสีขาว ดูดีทีเดียว ภายในกล่องมีตัวเครื่อง, สาย micro USB, อแดปเตอร์ และเอกสารนิดหน่อยเท่านั้น โดยเวอร์ชันที่ขายในไทยจะไม่มีหูฟังแถมมาให้นะครับ ตรงช่องที่น่าจะเป็นที่วางหูฟังมีก้อนโฟมวางอยู่พร้อมสติกเกอร์เขียนว่า Earphone not included

No Description

ด้านหน้ามีปุ่ม Home ซึ่งทำหน้าที่เป็นปุ่ม Back ด้วย ถ้าแตะจะเป็น Back แต่ถ้าจะกลับหน้า Home ให้กดลงไปเลย การใช้งานถือว่าสะดวกดี แต่บางทียังเจอแตะ Back แล้วเบิ้ลไปเอง (กลายเป็น Back 2 ที)

No Description

ปุ่มควบคุมทั้งหมดจะรวมอยู่ด้านซ้าย มีปุ่ม Power และปุ่มปรับเสียง ตรงนี้มีข้อติว่าฟีลลิ่งการกดปุ่มยังทำได้แย่อยู่ โดยเฉพาะปุ่มเพิ่มเสียง กดแล้วมีเสียงแกรบๆ ดังออกมา ไม่แน่ใจว่าเป็นเฉพาะเครื่องที่ได้รับมาทดสอบหรือเปล่า

No Description

ด้านขวามีถาดใส่ซิม มีความพิเศษตรงที่สามารถใช้ช่องซิม 2 เป็นช่อง microSD ได้ด้วย กล่าวคือหากเราใช้ซิมเดียว ก็เอา microSD มาใส่เพิ่มแทนได้ในช่องเดียวกันเลย

No Description

ด้านบนมีช่องแจ็คหูฟัง 3.5 มม. และไมโครโฟนตัวที่สองเพื่อตัดเสียงรบกวนขณะสนทนา

No Description

ด้านล่างมีไมโครโฟน, ช่อง micro USB และลำโพง

No Description

ด้านหลังมีกล้อง, ไฟแฟลชสองสี, โลโก้ Meizu และข้อความ "Designed by Meizu Made in China"

No Description

หน้าจอ

หน้าจอเป็นหนึ่งในสิ่งที่รู้สึกประทับใจมาก ให้สีได้สดใส การแตะไม่ดีเลย์ ที่สำคัญคือสู้แดดได้ดีมาก ผมลองยืนกลางแดดตอนบ่ายโมง เปิดความสว่างอัตโนมัติ ยังมองจอได้ชัดเจนมาก อีกทั้งยังมีให้ผู้ใช้ปรับเองได้ว่าอยากได้สีโทนไหน

No Description

ซอฟต์แวร์

Meizu ได้พัฒนารอมของตนเองในชื่อ Flyme OS (อ่านว่า fly-me) เน้นความสดใสของไอคอนผสานกับคอนเซ็ป flat design ตามสมัยนิยม ส่วนเนื้อในเป็น Android 5.1 หน้าตาของรอมแทบไม่เหลือเค้าเดิมของ stock Android เลย

เปิดเครื่องครั้งแรกมีหน้า Home ให้สองหน้า แอพ bloatware นั้นแทบจะไม่มี ซึ่งเป็นข้อดีมากๆ โดย Meizu ได้ทำชุดไอคอนขึ้นมาแทนไอคอนแอพของกูเกิลด้วย เช่น Maps และ Play Store ดังภาพ หากไม่ชอบสามารถปิดได้

No Description No Description

หน้า Home ใช้แนวทางเหมือนรอมจีนตัวอื่น คือไม่มี app drawer ไอคอนแอพทุกตัวในเครื่องจะมาอยู่ที่นี่ทั้งหมด (ผมมองว่าเป็นข้อเสียมากกว่าข้อดี) แต่วิธีแก้ไขก็ง่าย เพียงเปลี่ยน launcher ก็ได้แล้วครับ

ตัวเครื่องมีพื้นที่เก็บข้อมูล 16GB แต่มองเห็นจริง 14.56GB เปิดมาครั้งแรกระบบใช้ไป 2.82GB และเหลือให้ผู้ใช้ประมาณ 10GB

No Description No Description

หน้า Settings จัดเลย์เอาท์แบบ 2 คอลัมน์ โดยคอลัมน์ขวาสามารถเลื่อนซ้ายขวาได้ ตรงนี้ผมมองว่าเป็นข้อเสียอีก เนื่องจากทำให้อาจแสดงผลได้ไม่ครบ ดูตัวอย่างที่รูปบน ตรง Available: 10.... แต่ก็ไม่พบสถานการณ์อย่างนี้บ่อยนัก

No Description No Description

การล็อคเครื่องมีให้เพียงสองตัวเลือกเท่านั้น คือสไลด์เพื่อปลดล็อค หรือใช้รหัส ไม่มี pattern unlock หรือ face unlock ให้ใช้นะครับ นอกจากนั้นฟีเจอร์ smart unlock ที่มีใน stock Android ก็ถูกตัดออกไปเช่นกัน

No Description

คีย์บอร์ดที่มากับเครื่องมีให้สองตัวคือคีย์บอร์ดที่ Meizu ทำเอง (ไม่มีภาษาไทยให้ใช้) และคีย์บอร์ดที่พรีโหลดมาของ TouchPal ตัวนี้โหลดคีย์บอร์ดไทยมาเพิ่มเองได้ สรุปว่าเปิดเครื่องมาครั้งแรกจะยังไม่มีคีย์บอร์ดไทยให้พร้อมใช้งานนะครับ แต่ภาษาตัวเครื่องมีไทยให้เลือกอยู่แล้ว

No Description No Description

นอกจาก Google Play Store แล้ว ผู้ใช้ยังสามารถโหลดแอพจาก App Center ของ Meizu เองได้ด้วย แต่ตอนนี้ยังมีเฉพาะแอพภาษาจีนล้วนๆ รวมถึงธีมก็มีให้โหลดหรือซื้อเช่นกัน

No Description No Description No Description No Description

แอพที่พรีโหลดมาอีกตัวคือ Security Center ตอนแรกผมไม่ได้สนใจเลยเพราะกดเข้าไปดูนึกว่าสแกนไวรัสทั่วๆไป (ปกติผมไม่ใช้แอพลักษณะนี้อยู่แล้ว) แต่ตอนหลังเพิ่งมาเจอว่าทำอะไรดีๆ ได้หลายอย่าง

No Description

ในหน้า Traffic Manager ก็จะมีการนับว่าใช้ดาต้าไปเท่าไหร่แล้ว แต่อีกส่วนที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์มากคือการปิดไม่ให้แอพหนึ่งๆ ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ บางครั้งเราอาจมีแอพในเครื่องที่มักจะโหลดข้อมูลอยู่เบื้องหลัง หรือหากเรามีโควต้าอินเทอร์เน็ตน้อย ก็สั่งปิดได้เลยว่าไม่ให้แอพไหนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ แยกชัดเจนระหว่าง mobile data และ Wi-Fi

ผมทดลองปิดไม่ให้แอพทวิตเตอร์เข้าอินเทอร์เน็ตได้ ผลคือเข้าแอพแล้วจะโหลดอะไรไม่ขึ้นเลย

No Description

อีกส่วนที่ผู้ใช้แอนดรอยด์รอมานานคือสั่งปิดบาง permission ของแอพได้ เช่นสั่งไม่ให้ใช้ไมโครโฟน, ห้ามโทรออก, ห้ามรันตัวเองตอน startup ฯลฯ จัดว่าทำมาได้ละเอียดและใช้ง่ายทีเดียว

No Description No Description No Description No Description

หรือจะดูเป็นรายการแอพแล้วเข้าไปปรับทีละแอพก็ได้

No Description No Description

สุดท้ายคือโหมดประหยัดพลังงานแบบเต็มขั้น คือจะตัดฟีเจอร์ทุกอย่างออกหมด เหลือเพียงโทรศัพท์และส่งข้อความเท่านั้น รวมถึงเปลี่ยนสีจอเป็นขาว-ดำ

No Description

การฟังเพลง

ผมทดสอบด้วยเพลงจาก Maroon 5 เป็นไฟล์ m4a แบบ Apple Lossless (ALAC) 24bit 44.1kHz ปรากฎว่าฟังด้วยแอพฟังเพลงเดิมๆ ที่มากับเครื่องได้เลย โดยจะมีตัวหนังสือเขียนว่า HQ กำกับอยู่ตอนเล่นเพลง จุดนี้ถือว่าดีเพราะปกติส่วนตัวผู้เขียนไม่เคยเจอโทรศัพท์แอนดรอยด์ตัวไหนที่เล่นไฟล์แบบนี้ได้หากไม่ได้ลงแอพเพิ่ม แต่ที่จริงก็ไม่น่าแปลกใจนักเพราะ Meizu ก็ชูเรื่องการฟังเพลงมานานแล้ว

เสียงจากลำโพงนั้นแค่พอใช้ได้ ค่อนไปทางแย่ เสียงไม่ดังมากแม้เร่งเสียงสุดแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่มีอาการลำโพงแตกให้ได้ยิน ส่วนการฟังจากหูฟังถือว่าดีทีเดียว (ทดสอบกับหูฟังบ้านๆ Zero Audio ZH-DX200-CT)

No Description

Equalizer ก็มีให้พร้อม หรือจะใช้ค่า preset ก็ได้ มี Pop, Rock, Classic และ Bass

No Description

อีกฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือ Dirac HD Sound โดยหากเรามีหูฟังตามรายการด้านล่างก็จะสามารถใช้ฟีเจอร์นี้ช่วยขับหูฟังนั้นๆ ให้เสียงดีขึ้นได้ เสียดายว่าผมไม่มีเลยไม่ได้ทดสอบว่าดีขึ้นจริงหรือไม่ รายการหูฟังที่รองรับดังนี้

  • Meizu EP20
  • Meizu EP20S
  • Meizu EP21
  • Meizu EP21HD
  • Meizu EP30
  • Apple EarPods
  • Audio Technica ATH-ES7
  • Audio Technica ATH-CKM500
  • Sennheiser CX200
  • Sennheiser IE 8i

No Description

กล้อง

มาถึงส่วนที่สำคัญมากของโทรศัพท์มือถือกันบ้าง กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชสองสี ให้ภาพที่จัดว่าดีทีเดียวในที่แสงเยอะ แต่พอแสงน้อยก็มี noise มาให้เห็นตามระเบียบ

โหมดกล้องมีมาให้ถึง 7 โหมดด้วยกัน ดังนี้

  • Auto
  • Manual
  • Beauty
  • Panorama
  • Light field
  • Scan (สแกนบาร์โค้ด/QR Code)
  • Slowmotion

โหมด Auto ก็ไม่มีอะไร อัตโนมัติทุกอย่าง จึงขอกล่าวถึงโหมด Manual เลยละกัน โหมดนี้มีให้ผู้ใช้ปรับค่าต่างๆ ได้สี่อย่าง

  • ความเร็วชัตเตอร์ ปรับได้ตั้งแต่ 1/5000s ไปจนถึง 10s
  • ISO ปรับได้ตั้งแต่ 100 ถึง 1600
  • ชดเชยแสงได้ +/- 3 stops
  • ระยะโฟกัส มาโคร (ประมาณ 5 ซม.) ไปจนถึงระยะอนันต์

เป็นที่น่าสังเกตว่ามีให้ปรับเองเยอะขนาดนี้ แต่กลับไม่มีให้ปรับ White Balance เอง!

โหมด Beauty หรือโหมดฟรุ้งฟริ้งเอาใจสาวๆ สามารถพรีวิวก่อนถ่ายได้สดๆ เลย และปรับได้มากขึ้นไปอีกหลังถ่ายเสร็จแล้ว เช่น

  • ปรับแก้มแดง
  • ปรับหน้าเรียว
  • ปรับตาโต
  • เน้นขนตา
  • ปรับผิวเนียน
  • และอื่นๆ อีกสี่ห้าอย่างที่ผมก็ไม่เข้าใจว่าคืออะไร ขออภัยด้วย

โหมด Light field คือโหมดถ่ายแล้วโฟกัสทีหลังครับ มันจะถ่ายรัว 7 ภาพ ในระยะโฟกัสที่ต่างกัน แล้วให้ผู้ใช้เลือกทีหลังได้ว่าจะโฟกัสตรงไหน

ด้านล่างเป็นตัวอย่างรูปถ่ายจากกล้องนะครับ ไม่ได้ทำอะไรเลย ย่ออย่างเดียว

ถ่ายกลางวันออกมาดูดีมาก ผมใช้จอ Dell UltraSharp U2414H ซึ่งผ่านการคาลิเบรตสีมาจากโรงงาน พบว่าสีที่ได้ใกล้เคียงกับความเป็นจริง

No Description

No Description

ถ่ายในร้านอาหาร ไฟสีเหลือง พบว่า White Balance ยังทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร รูปติดเหลืองไปมาก

No Description

No Description

No Description

No Description

ถ่ายกลางคืนในที่โล่ง มี noise ชัดเจน แต่ไม่น่าเกลียดมาก รูปที่ได้ค่อนข้างสั่นเนื่องจากความเร็วชัตเตอร์ต่ำ ผมพยายามถือให้นิ่งที่สุดแล้ว ได้เท่านี้

No Description

No Description

No Description

การทดสอบ Benchmark

มาดูความแรงกันบ้าง ผมรัน AnTuTu 64 บิต ได้คะแนนประมาณนี้ครับ

No Description

ทดสอบการเล่นเกม Asphalt 8 เล่นได้โอเค ไม่มีค้างหรือหนืดให้เห็น

No Description

ปัญหาในการใช้งาน

ข้อดีก็มีเยอะมาก แต่ลองมาดูข้อเสียและปัญหากันบ้าง จากการใช้งานมาเกือบหนึ่งสัปดาห์ ผมพบปัญหาใหญ่ร้ายแรง 2 ประการ อย่างแรกที่ผมเจอคือเฟิร์มแวร์ที่มากับเครื่องตอนแรกนั้นเป็น Flyme OS 4.5.2I โดยเมื่อล็อกอิน Google account แล้วกลับซิงค์ contacts และปฏิทินไม่ได้! คือไม่มีขึ้นมาในเครื่องเลย เหมือนกับว่าเครื่องไม่รู้จักว่าสองอย่างนี้สามารถซิงค์ได้ อย่างไรก็ตามหลังจากที่ลองค้นดูแล้ว เจอว่า Meizu ได้ปล่อย Flyme OS 4.5.3I ออกมาแล้ว แต่ถ้ากดเช็คทาง OTA จะยังไม่พบ ผู้ใช้ต้องโหลดเฟิร์มแวร์ตัวใหม่มาแฟลชเองผ่าน recovery พอแฟลชเสร็จเครื่องก็จะเริ่มซิงค์ contacts และปฏิทินให้ทันที (วิธีแฟลช)

ประการที่สองคือในบางแอพจะกดปุ่มเมนูไม่ได้เลย คือเมื่อแอพนั้นถูกเขียนเมนูขึ้นมาโดยใช้ ListView เราจะกดอะไรไม่ได้เลยครับ ผมเจอปัญหานี้กับแอพ Timetable ที่เอาไว้ดูตารางเรียน ผมไม่สามารถเข้าไปตั้งค่าแอพนี้ได้เลย ทั้งๆ ที่ HTC One M7 รัน Android 5.1 เหมือนกันกลับไม่พบปัญหานี้ หวังว่า Meizu จะออกอัพเดตมาแก้โดยเร็ว เขียนอธิบายน่าจะงง ลองดูคลิปประกอบครับ

นอกนั้นจะเป็นปัญหาเล็กๆ หรือสิ่งที่ผมคิดว่าเป็นส่วนที่ไม่ดีของ Meizu m2 note นี้ ขอลิสต์เป็นข้อๆ นะครับ

  • Meizu ทำการ override ไอคอนของ notifications เข้าด้วยกันเป็นอันเดียว เป็นรูป speech bubble ทำให้ผู้ใช้ไม่ทราบว่าตอนนี้มีการแจ้งเตือนอะไรเข้ามาบ้าง อันนี้ถือว่าแย่พอควร ไม่แน่ใจว่าประโยชน์ของการทำแบบนี้คืออะไร
  • ในการใช้งานปกตินั้นลื่นไหลและทำงานได้รวดเร็วดีมาก แต่หากทำหลายๆ อย่างพร้อมกันจะกระตุกและช้าอย่างเห็นได้ชัด เช่นเล่นทวิตเตอร์อยู่แล้วพูด OK, Google กว่าจอ Google Now จะเด้งขึ้นมาใช้เวลาพอสมควร หรือเปิดเว็บด้วย Chrome แล้วจังหวะที่กำลังโหลดเรากด Back เครื่องจะไม่ตอบสนองทันที ต้องรอสักพักให้เว็บโหลดเสร็จถึงจะ Back ได้ หรือเคยเจอหนักมากก็ crash ไปเลย
  • อายุแบตเตอรี่ยังไม่ถือว่าดีมาก ผมถอดสายชาร์จตอนเจ็ดโมงเช้า ใช้งานเรื่อยๆ ไม่เล่นเกม ไม่ดูวิดีโอ อ่านโซเชียลเน็ตเวิร์คทั่วไป เล่นเว็บ เปิด 3G ตลอดเวลา แบตเตอรี่ลดเหลือต่ำกว่า 20% ตอนประมาณห้าโมง หากมีการใช้งานหนักกว่านี้อาจอยู่ได้เพียงครึ่งวันเท่านั้น
  • เสียงสนทนากลางๆ หากปรับให้เสียงสูงกว่านี้จะฟังได้ชัดเจนขึ้นมาก
  • ยังมีช่องโหว่ Stagefright อยู่

No Description

สรุป

Meizu m2 note นั้นเป็นสมาร์ทโฟนราคาย่อมเยาที่ให้ประสบการณ์การใช้งานเข้าขั้นดีถึงดีมาก คุณภาพวัสดุและการประกอบทำได้ดี รอมทำมาใช้งานง่าย สวยงาม ลื่นไหลดีมาก แต่ยังมีบั๊กแปลกๆ ตามที่เขียนไว้ด้านบน การใช้งานโดยรวมดีมาก หวังว่าผู้ผลิตจะออกเฟิร์มแวร์อัพเดตเพื่อปรับปรุงแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่ยังมีอยู่ต่อไป

ข้อดี

  • จอดีมาก คมชัดแม้อยู่กลางแดดจัด
  • รอมทำมาได้ลื่นไหล รวดเร็ว
  • คุณภาพกล้องถือว่าดีสำหรับราคาเท่านี้
  • รองรับ 3G/4G LTE ทั้งสองซิม หากใช้แค่ซิมเดียวสามารถเอา microSD มาเสียบแทนอีกซิมได้เลย
  • bloatware น้อย
  • จับสัญญาณ GPS ได้เร็วมาก
  • ผู้ใช้สามารถเลือกปิด permission ของแอพต่างๆ ได้เอง

ข้อเสีย

  • ไอคอนการแจ้งเตือนถูกยุบรวมเป็นไอคอนเดียว
  • หากทำหลายอย่างพร้อมกันจะกระตุกและช้า
  • มีบั๊กกดเมนูไม่ได้
  • เสียงลำโพงไม่ดีนัก
  • แบตยังไม่อึดเท่าที่ควร
Get latest news from Blognone

Comments

By: panurat2000
ContributorSymbianUbuntuIn Love
on 24 September 2015 - 22:34 #846295
panurat2000's picture

ความละเอียด 1920x1080 ครอบด้วยกระจก IGZO

กระจก IGZO ?

การทดสอบ Banchmark

Banchmark => Benchmark

คือเมื่อแอพนั้นถูกเขียนเมนูขึ้นมาโดนใช้ ListView

โดนใช้ => โดยใช้

By: BlackMiracle
WriterAndroidUbuntuWindows
on 25 September 2015 - 02:29 #846362 Reply to:846295
By: nununu
Windows Phone
on 24 September 2015 - 23:17 #846316

zero audii dx200 นี้ไม่บ้านๆแล้วครับ ฮ่าๆ

By: errin on 24 September 2015 - 23:19 #846317

Support OTG มั้ยครับ?

By: panurat2000
ContributorSymbianUbuntuIn Love
on 24 September 2015 - 23:34 #846319 Reply to:846317
By: wichate
Android
on 24 September 2015 - 23:47 #846339

แบตอยู่ได้ไม่เต็มวัน อย่างนี้ไปเอา Lenovo A700+ ดีกว่า

By: binla
Windows PhoneAndroidBlackberry
on 25 September 2015 - 09:52 #846414 Reply to:846339

ชั่งอยู่กะตัวนี้ว่าอันไหนจะดีกว่า

By: kiva
iPhone
on 25 September 2015 - 00:19 #846350

น่าจะมีวางขายทั่วไปอยากลองเครื่องด้วย

By: badpig
Android
on 25 September 2015 - 00:21 #846353

ใช้กับ sim My ได้ไหมครับ?

By: Matibul
UbuntuWindows
on 25 September 2015 - 02:12 #846361

ลอง music app 3rd party หน่อยได้ไหมครับ เห็นว่าชอบมีปัญหา

By: BlackMiracle
WriterAndroidUbuntuWindows
on 25 September 2015 - 15:29 #846501 Reply to:846361

ลองใช้ Poweramp ก็ฟังได้ปกตินะครับ


Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ

By: OXYGEN2
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 25 September 2015 - 03:29 #846365
OXYGEN2's picture

เทียบกับ Mi4 ที่ออกมานานมากแล้ว ตัวไหนน่าสนใจกว่ากันครับ


oxygen2.me, panithi's blog

Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6

By: Alios
iPhoneAndroidWindows
on 25 September 2015 - 12:17 #846450

MBK ขายอยู่ที่ 6500

By: iq180
Android
on 25 September 2015 - 14:11 #846479
iq180's picture

Brand เกาหลีถอยไป Brand จีนกำลังมา

By: dotxxx
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 25 September 2015 - 15:51 #846510

อยากทราบว่าสีจอเป็นโทนสีอะไรครับ เคยดูคลิปเทียบกับ m1 รุ่น m2 จะออกโทนเหลืองมากเลย
แล้วกล้องหน้าพอใช้ได้ไหมครับ

By: BlackMiracle
WriterAndroidUbuntuWindows
on 25 September 2015 - 21:12 #846608 Reply to:846510

ความเห็นผมว่าไม่ออกโทนไหนเป็นพิเศษนะครับ แสดงผลได้ตรงดีมาก แต่ถ้าคิดว่ามันติดเหลืองหรือฟ้าก็สามารถปรับอุณหภูมิสีได้ตามชอบครับ มีเขียนไว้ในรีวิวแล้ว

ส่วนกล้องหน้าผมว่าก็ดีครับ ส่วนตัวไม่ได้ใช้สักเท่าไหร่อยู่แล้ว จากที่ลองดูนี่ก็คมชัดดีครับ


Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ

By: dotxxx
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 25 September 2015 - 21:58 #846619 Reply to:846608

ขอบคุณครับ

By: errin on 9 October 2015 - 09:54 #851302

สอยมาละครับ ถูกใจมากไม่น่าเชื่อว่างานประกอบแบบนี้จะราคานี้ครับคุ้มเกินราคาจริงๆ แนะนำสี ขาว ฟ้า ดำ ครับ วัสดุจะเป็นพลาสติกมันคล้ายๆ iPhone 5c แต่สีดำจะเป็นพลาสติกด้านดูบางกว่า