Tags:
Node Thumbnail

โครงการ dtac Accelerate ปี 2015 เชิญนักลงทุนชื่อดังระดับเอเชียมาเป็น mentor ให้ความรู้กับทีมสตาร์ตอัพที่ผ่านเข้ารอบ หนึ่งในนักลงทุนที่ทาง dtac เชิญมาคือ Jeffrey Paine ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทลงทุน Golden Gate Ventures ซึ่งเป็น venture capital (VC) จากประเทศสิงคโปร์

Golden Gate Ventures ก่อตั้งเมื่อปี 2012 ในสิงคโปร์ เน้นการลงทุนใน early state สตาร์ทอัพอย่าง Seed Round และ Series A ลงทุนไปแล้วกว่า 25 บริษัททั่วภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ และมีแผนจะลงทุนเพิ่มในภูมิภาคนี้อีก 50 ล้านเหรียญสหรัฐจากการระดมทุนรอบล่าสุด

ปัจจุบัน Golden Gate Ventures ได้ลงทุนกับสตาร์ตอัพในประเทศไทยไปแล้ว 4 ราย ได้แก่ Claim Di แอพเคลมประกัน (ร่วมโครงการ dtac Accelerate Batch 2), Stamp แอพสะสมแต้ม, Noonswoon แอพหาคู่ และ Hubba บริการสถานที่ทำงานให้กับเหล่าสตาร์ทอัพและอาชีพอิสระ

alt="FullSizeRender"

สาเหตุที่ให้ความสนใจลงทุนในประเทศไทย

ปัจจัยหลักอยู่ที่ตลาดแอพพลิเคชันบนอุปกรณ์พกพา (mobile application) ในไทยทำเงินได้มากกว่าในอินโดนีเซียถึง 5 เท่า แม้ว่าอินโดนีเซียจะมีประชากรที่มากกว่าก็ตาม

ส่วนปัจจัยอื่นๆ ได้แก่ ความสามารถในการแก้ปัญหา และศักยภาพของผู้ก่อตั้งในด้านความรู้ และประสบการณ์

อย่างไรก็ตามสำหรับตลาดในไทยบริษัทไม่ได้มองที่มูลค่าตลาดรวมเพราะเป็นตลาดที่มีศักยภาพที่เอื้อต่อการลงทุนอยู่แล้ว และมีความคาดหวังต่อการเติบโตของสตาร์ทอัพให้มีมูลค่าประมาณ 50–200 ล้านเหรียญสหรัฐ

หลังจากเจอทีมสตาร์ตอัพไทยรอบล่าสุด ประทับใจอะไรในสตาร์ตอัพไทยจาก dtac Accelerate

สิ่งที่ Jeffrey Paine ประทับใจสำหรับการพบปะกับสตาร์ตอัพในโครงการ dtac Accelerate รอบนี้ คือ ผู้ก่อตั้งสตาร์ตอัพจากคนในวงการธุรกิจ (SME) นั้นๆ เอง ทำให้มีประสบการณ์และรับรู้ปัญหาในแวดวงธุรกิจกิจนั้น ได้ทะลุปรุโปร่งมากกว่าสตาร์ทอัพที่มักเริ่มก่อตั้งมาจากคนไอที

ทีมในโครงการ dtac Accelerate Bootcamp ชุดที่ 3 ทั้ง 6 ทีม Paine ให้ความสนใจหลายๆ ทีมจากความประทับใจข้างต้น และมีความเป็นไปได้สูงที่จะลงทุนกับทีมเหล่านี้ และให้ความเห็นว่าทุกทีมล้วนมีศักยภาพเพียงแต่อาจจะต้องปรับแผนบางอย่างเล็กน้อยก็อาจก้าวไปได้อีกไกล

บริษัทลงทุนมีฐานคิดในการลงทุนที่แตกต่างกันออกไป บางรายมองตลาดระดับภูมิภาคก่อน แต่สตาร์ทในไทยมีการเน้นที่ตลาดภายในประเทศก่อน ซึ่งตรงกับความต้องการของบริษัทลงทุน Golden Gate Ventures และเมื่อสนใจในธุรกิจสตาร์ทอัพใดจะนำธุรกิจตัวนั้นมาวิเคราะห์ใน 4 ประเด็น

  1. แรงบันดาลใจหรือจุดประสงค์ของธุรกิจ
  2. วิสัยทัศน์ของสตาร์ทอัพที่มีความมุ่งมั่นและเป็นหนึ่ง
  3. การสรรหาคนมาเข้าร่วมพัฒนาธุรกิจ เพื่อฝ่าฟันอุปสรรคและการเติบโต
  4. ความมุ่งมั่นในธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม Paine มองว่าสตาร์ตอัพไทยยังมีจุดอ่อนที่ทรัพยากรบุคคลในด้านศักยภาพของวิศวกร แม้ว่าภาพรวมของตลาดสตาร์ตอัพเหมาะสมกับการลงทุนก็ตาม

สตาร์ตอัพไทยควรเน้นอะไรบ้าง เพื่อประสบความสำเร็จ

Paine ให้ความเห็นว่า “ไม่ควรทิ้งตลาดไทย และควรออกสู่ตลาดที่ใหญ่ขึ้น หากศักยภาพของผลิตภัณฑ์เอื้อต่อการเติบโตในแนวทางนี้”

นอกจากนี้ สตาร์ตอัพไทยควรมีทักษะภาษาอังกฤษที่ดี และที่สำคัญควรหาโอกาสไปเที่ยวในต่างประเทศเพื่อเปิดหูเปิดตา และสร้างสัมพันธ์กับคนในวงการนี้ในต่างประเทศบ้าง

สตาร์ตอัพลักษณะใดจะเป็นต้องการของตลาด

Paine คาดว่าน่าจะเป็นบริการประเภทวิดีโอลักษณะเดียวกับ SocialCam จะมาแรงเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนอันดับรองลงไปน่าจะเป็นบริการที่ผูกกับแอพพลิเคชันแชตอย่าง LINE ในไทย และ Zalo ในเวียดนาม โดยใน 2-3 เดือนที่ผ่านมาบางท่านอาจเริ่มเห็นบริการที่เข้ามาร่วมธุรกิจกับ LINE บ้างแล้ว

มุมมองต่อการลงทุนในภูมิภาคนี้

Golden Gate Ventures มีการลงทุนกระจายอยู่ในทุกประเทศ และกำลังสนใจการลงทุนในเมียนมาร์ จากการที่ชาวเมียนมาร์ที่มาเรียนในสิงคโปร์ มีศักยภาพที่มากพอเมื่อกลับไปก่อตั้งและพัฒนาสตาร์ทอัพ นอกจากนี้โครงสร้างพื้นฐานในเมียนมาร์ก็เริ่มพัฒนาขึ้นมาแล้ว

เมื่อถามถึงการจัดอันดับการลงทุน Paine จัดอันดับการลงทุนในภูมิภาคนี้ 3 อันดับ ดังนี้ 1. อินโดนีเซีย 2. สิงคโปร์ 3. มาเลเซีย และประเทศไทย

Get latest news from Blognone

Comments

By: panurat2000
ContributorSymbianUbuntuIn Love
on 21 September 2015 - 14:45 #844820
panurat2000's picture

สตาร์ตอัพ / สตาร์ทอัพ

  • ต้องมีความสม่ำเสมอ (consistency) สะกดชื่อคำใดไปแล้ว ต้องเขียนให้เหมือนกันทุกครั้ง

บางรายมองตลาดระดับภูมิภาคก่อน แต่สตาร์ทในไทยมีการเน้นที่ตลาดภายในประเทศก่อน

สตาร์ทในไทย ?