By: SainTKK 
on 16 June 2015 - 18:11
Tags:
Topics:
แอปเปิลและกูเกิลมักจะรายงานสถิติของสโตร์ในงานสำหรับนักพัฒนาช่วงกลางปีเสมอ แม้ว่าจะไม่สามารถเปรียบเทียบได้อย่างแม่นยำ แต่ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงระหว่างผู้ใช้งานและผู้ให้บริการ
ในปี 2014 แอปเปิลจ่ายเงินให้กับนักพัฒนาแอพ 1 หมื่นล้านเหรียญ และกูเกิลจ่ายไป 5 พันล้านเหรียญ และผู้ใช้ Android มากกว่า iOS ถึงเท่าตัว เท่ากับว่าผู้ใช้ iOS ใช้เงินบนสโตร์มากกว่าผู้ใช้ Android ประมาณ 4 เท่า
ปี 2015 แอปเปิลจ่ายเงินให้กับนักพัฒนาแอพ 1 หมื่นล้านเหรียญเท่าเดิม ทั้งๆ ที่รายได้เพิ่มจากปีก่อน 1 หมื่นล้านเหรียญ การเติบโตที่ลดลงอาจมาจากการปัดเศษแต่แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้งาน iOS ใช้จ่ายเงินน้อยลงกว่าค่าเฉลี่ยเดิมเพราะจำนวนผู้ใช้งานมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนกูเกิลเปิดเผยตัวเลขไว้ในช่วงต้นปีที่ 7 พันล้านเหรียญแสดงให้เห็นถึงการเติบโตของ Google Play และคาดว่าอาจทำรายได้ได้สูงกว่า App Store ในอีกไม่นาน ตอนนี้เท่ากับว่าผู้ใช้ iOS ใช้เงินบนสโตร์มากกว่าผู้ใช้ Android ลดลงเหลือเพียงประมาณ 2 เท่า
ในปีล่าสุด Google Play มียอดดาวน์โหลดประมาณ 5 หมื่นล้านครั้ง App Store มีประมาณ 2.5 หมื่นล้านครั้ง แต่จำนวนครั้งการดาวน์โหลดแอพต่ออุปกรณ์ยังเท่าๆ กัน อย่างไรก็ตามตัวเลขยังแสดงให้เห็นว่า Google Play มีการเติบโตที่สูงกว่าและเร็วกว่า App Store แล้ว
สถิติเหล่านี้ยังแสดงให้เห็นว่าผู้ใช้ทั้งสองค่ายใช้จ่ายเงินไปทั้งหมดกว่า 2.5 หมื่นล้านเหรียญ และทั้งสองสโตร์มียอดดาวน์โหลดแอพทั้งหมดกว่า 7.5 หมื่นล้านครั้งในปีที่ผ่านมา
ที่มา – Benedict Evans
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
เป็นสัญญาณแห่งการ...ใช้แอพแท้กันมากขึ้น
บ่งบอกว่าพวกใช้แอพเสียตังในฝั่ง แอนดรอย ก็เริ่มนิยมซื้อแอพกันแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องดีเกมเด่นๆจะได้มาลงแอนดรอยเยอะๆครับ
มันมีโมเดลว่า ผู้ไช้ Android ทำรายใด้ต่อคน ประมาณ 65% ของ ios (dau-up สำรวจปลายปี 2014) ... แต่ด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่มากกว่าประมาณ 4 เท่า
ทำให้กำไรจาก android vs ios อยู่ที่ (65×4) = 260 : 100 หรือ android ทำกำไรมากกว่า ios 2.6 เท่า แต่ต้องจำว่า Android นิยม ad support มาก
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
กำไรต่อนักพัฒนาหนึ่งคนเหรอครับ แต่ทำไมในข่าวบอกแอปเปิลจ่ายเงินให้นักพัฒนามากกว่า หรือยังไง ผมงง
ปีนี้ยังไม่ได้ซื้อแอป iOS เลย จากที่ปีที่แล้วซื้อรัวๆ
เพราะสุดท้ายแล้ว ใช้แค่ Line FB Twitter tapatalk แล้วพวกแอปชอปปิ้ง แค่นี้จริงๆ
ขนาดโหลดฟรียังไม่โหลดเลยช่วงนี้ รก ID
แอพเดียวกัน(Marvel's Future Fight)iPhone 5 อัพเดตไป 2 รอบไม่รู้นับเป็นสามครั้งรึเปล่า ส่วน S5 โหลดแล้วลบนับครั้งไม่ถ้วนเวลากดเข้าแอพแล้วเด้งออกเล่นไม่ได้สมมุติ 8 ครั้งนี่นับเป็น 8 ครั้งเป๊ะๆ ไหม/แค่สงสัย
ไม่ได้แยกใช่ใหมครับว่าซื้อแอพหรือจ่าย in app
เพราะหลังๆ ซื้อแอพน้อยลงเช่นกัน เบื่อพวกฟรีแล้วไป in app purchase อารมณ์คืออยากซื้อแล้วจบเล่นยาวๆ ไม่ใช่ฟรีแล้วทำกั๊กๆ ไปหาเพิ่มข้างใน
ซื้อเกมแท้ทั้งฝั่ง iOS กับ Android ไปหลายเกมเพราะค่าย Gameloft ปีนี้เกมค่ายนี้กลับออกน้อยจนน่าตกใจ ไม่รู้จะขาดทุนหลายเกมรึเปล่านะครับ เล่นทำระบบเกมคุณภาพสูงเหมือนเกมคอนโซลหลายเกมซะขนาดนั้น
ผมใช้ oppo มี FLASH 4GB ลงแอพที่อยากใช้อย่าง Here map, Google pdf, excel, line ที่เพิ่มจากเดิม จะมีเตือนว่าหน่วยความจำพื้นที่ไม่พอ ซื้อไมรโครเอสดี 32 GB มาใส่แล้วย้ายที่เก็บแอพไปที่ไมโครเอสดีแล้วก็ยังมีเตือนว่าหน่วยความจำไม่พอ เลยแก้ปัญหาโดย แอพที่ยังไม่ใช้ลบออกไปก่อน แล้วโหลดแอพที่จะใช้ สลับไปมาทุกวัน เหมือนเครื่องจะลงได้ สี่แอพ แอพ line นี้ลบไม่ได้ แต่ google pdf ลบแล้วลงทุดวัน อย่างนี้นับมั๊ยครับ
ขายเครื่องได้มากขึ้นก็จริงแต่ใช้บริการAppตู้เพียบ มันไม่แค่เมืองไทยรอบๆบ้านเรามีทั้งนั้น
และนโยบาย In App อาจจะเหมาะกับAndroidsนะ ใช้หรือเล่นจนติดแล้วต้องยอมจ่าย (โดนจริตหญิง มากกว่าชาย)
In App เองก็ไม่เหมาะกับ Android ตรงช่องว่างนโยบายการคืนเงินทำให้เกิดธุรกิจการปลดล็อคต่างๆ อย่างเอิกเกริกด้วยครับ