By: nismod 
on 24 December 2014 - 19:00
Tags:
Topics:
The New York Times รายงานว่าก่อนหน้าที่ Sony Pictures จะประกาศฉาย The Interview ในวันคริสมาสต์ ทาง Sony ได้ติดต่อสอบถามไปยังทางแอปเปิลถึงความสนใจในการเอาภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวขึ้น iTunes ซึ่งในเบื้องต้นแอปเปิลได้ปฏิเสธไป
ทั้งนี้ Sony ได้ติดต่อสอบถามไปยังแอปเปิลผ่านทางทำเนียบขาว โดยทางแอปเปิลได้ปฏิเสธหลังการประกาศไม่ฉายภาพยนตร์เรื่อง The Interview ในโรงภาพยนตร์ก่อนหน้านี้ของ Sony ไม่นาน
ที่มา - MacRumors
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
ถาม Apple ทำไมต้องผ่านทำเนียบขาวหว่า?
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
เรื่องนี้กลายเป็นวาระแห่งชาติของอเมริกาแล้วครับ
คือทำเนียบขาวเป็นคนกลางช่วยหาคนเผยแพร่หนังให้ SPE เหรอครับ?
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
เพราะมีพลังทำงานใด้หลายหน้าที่ครับ
ก่อนอื่นก็ผูกหนังกับเรื่องที่โดน hack ทำให้มีคนสนใจหนังเรื่องนี้
จากนั้นก็ถามผ่านทำเนียบขาว ผลคือมันจะออกสื่อ กดดันไปในตัว
apple เอา ก็ดีไป เพราะ apple มี install base เยอะ
apple ไม่เอา มันก็จะดึงดูดค่ายให้เช่าหนังอื่น Netflix Amazon
... แต่ผมว่าคนที่อยากเอาคงมีไม่เยอะ เพราะส่วนใหญ่น่าจะรู้ว่าการไม่ล่อเป้าทำให้โอกาศโดนโจมตีน้อยลง
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
เป็นผม ไม่เสี่ยงเอาบริษัท ไปยุ่งก่ะสงครามนะ คือเอามาใช้นี้แทบไม่ได้อะไร แต่เสี่ยงโดนเล่น
กลัว iCloud โดนเจาะอีกล่ะสิ
ลำพังแอปเปิลเองก็เอาตัวไม่รอด เคยโดนตอนเจาะไอคลาวด์นี่ก็สาหัสไม่ต่างจากโซนี่ตอนนี้
จะหาศัตรูเพิ่มเพื่อ?
มันแสดงถึงศักดิ์ศรีเลยนะเรื่องนี้ สรุปบริษัทไอทีไม่กล้าต่อกรกับแฮคเกอร์
apple ไม่ใช่บริษัท it แล้วนี่ครับ แฟชั่นขายของลูกเดียว
กลัวกันเว่อร์เกินไปรึเปล่าอ่ะครับ เซ็นเซอร์ตัวเองกันแบบนี้ ถึงที่โซนี่โดนจะน่าสยดสยอง แต่ถ้ามัวแต่กลัวทำตามคำขู่ผู้ก่อการร้ายก็มีแต่จะโดนเรียกร้องหนักขึ้นไม่ใช่เหรอ ผมว่ากลุ่ม IS ที่ฆ่าตัดหัวคนออกอากาศนี่ยังไม่ทำให้คนกลัว สร้างผลกระทบได้ทั้งประเทศขนาดนี้เลย
+1
USA กับเรื่องสื่อเป็นอะไรที่โคตร sensitive ครับ ถ้ามีสัญลักษณ์ซาตานหรือไม้กางเขนกลับหัวก็โดนสั่งห้ามฉายครับ
ไม่งั้นก็ต้องแก้งานครับถึงจะมีสิทธิ์ฉายได้
ไม่ต่างจากบ้านเราเลย
คนแบบ ไม่ใช่เรื่องของตัวเองก็บอกว่า เอาเลย เอาเลย มีเยอะครับ google นี่ถ้าโดนเมื่อใหร่ข้อมูลผมตกอยู่ในอันตรายเลยทีเดียว เงินทั้งนั้น
Apple ไม่อยากเข้าร่วมสงครามไซเบอร์หรอครับ?
แหม...
เสี่ยงแล้วไม่ได้ประโยชน์เป็นผมก็ไม่ทำครับ
ผมว่าเขาคงไม่อยากล่อเป้าถ้า iTunes โดนแฮกมันอาจจะหายนะกว่าก็ได้ ได้รับผลกันทั่วโลก แบบโหลดฟรีทุกหนังทุกเพลงทุกแอพ 5555
Apple เหมือนจะรู้ตัวนะว่าด้านบริการของตัวเองยังไม่แข็งแกร่งพอจะรับมือสิ่งที่จะเกิดหลังจากฉาย 555+
Google บอกมาลองกัน
Edit: Microsoft เอาด้วย
เอาไปเขียนเป็นอีกข่าวได้เลยนะครับเนี่ย
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
ถ้า Microsoft กับ Google โดน Apple อาจจะยิ้มเยาะก็ได้ครับ "ทำเป็นกล้าท้าทาย แต่ก็ไม่รอด"
มีผลงานเรื่อง iCloud อยู่ คงยิ้มเยาะต่อหน้า Microsoft กับ Google ไม่ได้หรอกนะครับ
อย่างน้อยถ้าจะตายก็ยังตายอย่างสมเกียรติ์นะครับ ไม่เหมือนกับบริษัท IT ที่ชอบอ้างความปลอดภัยของลูกค้าต้องมาเป็นอันดับ 1 และขอให้ลูกค้ามั่นใจในตัวบริการของตัวเอง แต่พอเจอกรณีแบบนี้กลับไม่กล้ายืนยันจุดยืนที่ตัวเองอ้างซะงั้น แล้วลูกค้าที่ไหนจะมาไว้ใจครับ ภาพลักษณ์เสียกว่ากันเยอะ
แน่ใจเหรอครับ คนที่กระเทือนไม่ใช่แค่บริษัทหรอกแต่คนใช้บริการด้วย Hacker ถ้าอยากเจาะแล้วรุมเจาะนะ ไม่รอดหรอก ขึ้นอยู่กับบริมาณฝั่งโน้นแหล่ะ
ข้อมูลผมอยู่บริษัทใหนผมก็ไม่อยากให้บริษัทนั้นไปเสี่ยงหรอกครับ มองกว้างๆหน่อยครับ ผมฝากสิ่งสำคัญไว้ที่ cloud 3 บริษัทนี้แหล่ะ ถ้าโดนก็กรี๊ดอยู่นะ พูดเอามัน เอาสนุกอย่าพูดเลยครับผม
ถ้าบริษัทมันเป็นเพียงแค่คนๆ เดียว ตายไปก็ไม่ได้มีผลกระทบกับคนอื่นเป็นวงกว้างก็ทำไปเถอะครับ แต่มาอ้างเรื่องศักดิ์ศรีแล้วเอาบริษัทมาเดิมพันเล่น ซึ่งเป็นบริษัทที่มีคนเกี่ยวข้องหลายคนหลายครอบครัวที่เกี่ยวข้องอาจจะถึงขั้นล่มจมได้ ผมว่ามันดูไม่ make sense เท่าไหร่ ก่อนจะลงมือทำอะไรผมว่าเค้าคงมีการพิจารณาความเสี่ยงอย่างถี่ถ้วนกันแล้ว
กูเกิ้ลของเถื่อนเยอะ บ.หนังคงไม่ชอบเท่าไหร่
หมายถึงบน YouTube ใช่มั้ยครับ?
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
ทำแล้วบ.ได้ผลประโยชน์ไม่คุ้ม ผู้ถือหุ้นไม่ปลื้มใครจะกล้ารับผิดชอบ ถ้าเป็นหนังภาคต่อทำเงินอันดับต้น ๆ ก็ว่าไปอย่าง
ไม่เอาขึ้น iTunes ดีแล้ว เดี๋วยมีเรื่อง
ก็สิทธิ์ของเขานิ