By: ตะโร่งโต้ง 
on 30 November 2014 - 01:05
Tags:
Topics:
ทีมงานของ 9to5Google ได้ไปชมงาน LA Auto Show เพื่อไปสำรวจเปรียบเทียบ 2 ระบบปฏิบัติการภายในรถอย่าง Android Auto ของ Google และ CarPlay ของ Apple ว่าในการใช้งานจริงนั้นให้ความรู้สึกแตกต่างกันแบบไหน โดยเลือกชมรถ Hyundai Sonata 2015 ที่มีแผงคอนโซลสามารถรันได้ทั้ง Android Auto และ CarPlay ภายในตัวเดียว
ในการใช้งาน Android Auto หรือ CarPlay ทำได้โดยการนำเอาสมาร์ทโฟน Android หรือ iOS มาเสียบสายเชื่อมต่อกับแผงคอนโซลทางช่อง USB ซึ่งหน้าจอแผงคอนโซลของรถจะเปลี่ยนจากหน้าจอปกติมาเป็นหน้าจอระบบปฏิบัติการของ Google หรือ Apple ตามแต่อุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่
ความสามารถพื้นฐานของ 2 ระบบปฏิบัติการนั้นใกล้เคียงกัน ทั้งเรื่องการติดต่อสื่อสารที่ผู้ใช้สามารถรับสายคุยโทรศัพท์ หรือโทรออกหาคนอื่นได้ เช่นเดียวกับการเปิดอ่านข้อความหรือส่งข้อความถึงบุคคลอื่น รวมทั้งระบบแผนที่และการนำทางที่ต่างฝ่ายต่างก็เอาแผนที่ของตัวเองมาแสดงผลบนหน้าจอแผงคอนโซล ส่วนระบบความบันเทิงนั้นก็ต่างรองรับแอพสำหรับฟังเพลงได้หลากหลายตัว
สิ่งที่ให้ความรู้สึกแตกต่างกันมากที่สุดระหว่าง Android Auto และ CarPlay นั้นคงเป็นรูปแบบของส่วนติดต่อผู้ใช้งาน ในขณะที่ Android Auto มีส่วนติดต่อผู้ใช้งานตามแนวทาง Material Design ที่มีรูปแบบการ์ดนำเสนอข้อมูล และมีการใช้สีสันโทนสว่างสดใส คล้ายคลึงกับ Android บนอุปกรณ์พกพา CarPlay ของ Apple นั้นแตกต่างออกไปด้วยการเน้นใช้ตัวอักษรและไอคอนสีสว่างบนพื้นหลังโทนสีมืด (คาดว่าเพื่อลดแสงแยงตาผู้ใช้)
ใครชอบใจหน้าตาระบบปฏิบัติการตัวไหนมากกว่ากันก็แสดงความเห็นกันได้ตามสะดวก
ที่มา - 9to5Google
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
Googel > Google
Android Auto หน้าตาดีกว่าจม แต่ตรง Notification ระหว่างขับรถจริงๆคงไม่มีเวลาเลื่อนไปดู ไปกดแน่ๆ
Carplay ดูจะใช้งานง่ายกว่าโดยรวม ปุ่มใหญ่บะเอ้ก แต่ลักษณะ "เข้าตามตรอก ออกตามประตู" ดูจะเป็นซอยย่อยเกินไปนิด จนเวลาจะเข้าจะออกอะไรลึกๆ กดๆไป รถอาจจะชนก่อนได้
ที่ไม่เข้าใจของทั้งสองระบบเลยคือ ทำไมต้องเสียบสาย เชื่อมต่อวิธีอื่นได้มั้ย
AndroidAuto ดูใช้งานง่ายกว่านะผมว่า สวยดีด้วย
CarPlay ใช้พิ้นหลังเป็นสีดำ ซึ่งดูไม่หรูสมเป็นแอปเปิ้ลเลย จุดนี้ทำให้ Android Auto ดูหรู+สวยกว่าเยอะ
คงออกแบบมาให้เป็นส่วนหนึ่งหรือกลืนกับส่วนของคอนโซลรถโดยรวมนะครับ
CarPlay ไม่สวยเลยถ้าเทียบกับ Android Auto แต่CarPlay ดูแคร์เรื่องความปลอดภัยมากกว่าเน้นสวย สีทึบๆตัวหนังสือใหญ่ๆ icon ตัดกับพื้นหลัง ใช้หน้าจอเต็มที่กว่า
Android Auto ขนาดใช้นิ่งๆไม่ขับรถผมยังว่าตัวหนังสือเล็กไปเลย
Andriod ผมว่าสวยกว่า แต่ถ้าใช้งานตอนกลางคืนไม่อยากแยงตาผมว่า CarPlay ดีกว่า
ผมว่าทั้ง 2 ระบบไม่ได้เหมาะแก่การใช้ระหว่างขับรถมากนักหรอกครับ
Eyes on the road ดีกว่ามานั่งจิ้มหรือมีปฏิสัมพันธ์กับหน้าจอครับ (ยกเว้นตอนอยู่นิ่งๆ)
ผมว่าตัวตัดสินคุณภาพการใช้งานจริง น่าจะเป็นที่ Voice Actions มากกว่าหน้าจอ UI หรือลูกเล่นอีกครับ
ป.ล. Android Auto สวยดีครับ และดูท่าทางใช้งานง่ายมากกว่า CarPlay เสียอีก
ถ้าดูตามวีดีโอ CarPlay ใช้สั่งงานหลายๆ อย่างด้วย Siri ครับ ไม่ต้องจิ้มเองทุกอย่าง
UI ของ CarPlay ดูเชยเพราะมันชินตากับรูปแบบไอคอนบนสีพื้นมาหลายปี แต่เพราะมันชินตาเลยดูว่าใช้งานง่ายกว่า คือเห็นปุ๊บรู้เลยว่าอันนี้ใช้ทำอะไร
เห็นด้วยว่า UI ของ Android ดูเฉี่ยวกว่า แต่ต้องดูว่าตอนใช้งานจริงแบบไหนเราถนัดกว่า
ไม่ว่าระบบไหน เราเลือกที่จะสั่งงานเสร็จแล้วค่อยออกรถได้ครับ ความปลอดภัยอยู่ที่คนขับเป็นหลักอยู่แล้ว
+1 ครับ ดูแล้วการใช้งานยังไม่เหมาะทั้งคู่ สำหรับผมคิดว่าควรจะต้องสั่งงานทั้งหมดได้จากปุ่มบนพวงมาลัยหรือเสียง ไม่ควรจะต้องใช้มือเอื้อมไปจิ้ม เพราะขนาดผมขับรถแค่จะเอื้อมมือไปกดปุ่มปิดเครื่องเสียง(ปุ่มเล็กแถมต้องกดค้าง)ยังรู้สึกเสียสมาธิจากถนนเลย
แล้วสงสัยสเปคเครื่องที่รันทั้ง 2 ระบบนี้จริงๆ UI ไม่ได้ซับซ้อนอะไรแต่ทำไมกระตุกซะยังกับรันบนอีมูเลเตอร์
เพราะจริงๆรันบนวินโดว์อยู่
เฮือก !!
เดาว่าเพราะตัวจอภาพทำหน้าที่แสดงผลอย่างเดียวครับ ทั้งหมดเป็นการสตรีมมาจากตัวมือถือ และใช้ตัว CPU ในการเข้ารหัสวิดีโอทำให้บางครั้งอาจจะทำงานไม่ทัน
ถ้าเป็น lossless แบบพวก mhl นี่ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องกระตุก แต่มันส่งข้อมูลได้ทางเดียว (ถ้าผมจำไม่ผิดนะ)
เท่าที่รู้มา Car Play รันบน QNX ฮะ http://time.com/12452/gasp-apple-carplay-software-runs-on-blackberrys-qnx-platform/
ถ้าอย่างนั้นผมยิ่งไม่แปลกใจเลย (ว่ามันกระตุก) เพราะว่ามันรันบนตัวเครื่องเองเลยนี่นา (ผมไม่เคยเห็นฟรอนท์ตัวไหนที่มันดูลื่น ๆ เลย 55)
a auto เข้าถึงการใช้งานง่ายกว่า ไม่ต้องกดเยอะ
car play กดหลายทีกว่าจะเข้าถึง ใช้เวลาที่หน้าจอนาน
สั่งงานด้วยเสียงได้กันทั้งคู่
ผม เคย เห็น รถของเล่นของ Apple ที่มันสามารถเลี้ยว หลบ ได้เอง มันใช่ระบบ car play หรือเปล่าครับ
น่าจะหมายถึง Anki Drive ซึ่งไม่เกี่ยวกับ CarPlay ครับ
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
ผมก็เคยเห็นรถจริงฯของ google ที่วิ่งบริการจากหน้าบริษัทไปถึงสนามบิน นี่ใช้ระบบandroidหรือป่าวครับ
CARPLAY ดูแลคกว่าช้ากว่า Android เยอะเลย (สาวกซัมซุง)
ยังไง android ก็รุ่งกว่าเยอะครับ เพราะ carplay คือ os ใหม่ appleขยันพัฒนาจังแทนที่เอามารวมกัน
แถม android สเปกต่ำฯก็ลื่น ส่วน car play อยู่ในช่วงเริ่มพัฒนาเพราะเป็น os new v.
ดูไม่น่าใช้ทั้งสองอันเลยค่ะ
แอนดรอยด์คงปรับขนาดฟ้อนต์ได้แหละ ถ้าได้ใช้จริงๆ สีสันสว่างๆก็ทันสมัยดี เข้ากับยุคดี
แอปเปิล ดูหน่วงๆนะคะ ไอค่อนใหญ่น่าจะกดจะอะไรได้ง่ายกว่า? แต่โทนสีดำ นี่มันย้อนยุคจังเลยคะ
ในเรื่องหน้าตาและการใช้งานจากมุมของผู้โดยสารคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่คนขับผมให้ Android Auto ชนะเลิศ แต่ว่าในส่วนของการใช้งานจริงในตำแหน่งคนขับ คงต้องมาวัดกันอีกที
เป็นห่วงเรื่อง การตอบข้อความ จริงๆแล้วถ้ารถเคลื่อนไหว น่าจะไม่ให้ ตอบหรือดูข้อความใดๆ เลยนะ
ถ้าดูเรื่องความความปลอดภัยตามความรู้สึกผม ในการใช้ Apple ผมว่า นำอยู่นิดนึงนะ
เพราะว่า ใหญ่ แต่ว่าข้างในพวกเพลง อะไรนี่ ยัง ไม่ดีพอเลย น่าจะจัดระเบียบหรือ ออกมาให้ดีกว่านี้
ส่วน Android สวยดี ขาว หมวย ทันสมัยดี แต่เล็กไปหน่อย
สรุปจะใช้อันไหน ก็แล้วแต่มือถือที่ตัวเองมีครับ 555
"สวยดี ขาว หมวย ทันสมัยดี แต่เล็กไปหน่อย"
ไม่ได้คิดเรื่องกันใช่มั้ย
ผมนี่ยืนขึ้นเลย
เผื่อตุ๊กตาหน้ารถกดให้บ้างสิครับ
ไม่ต้องเลือกครับ บน Windows ผมเห็นมี AutoPlay #ห๊ะ
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.