หนังสือพิมพ์ The New York Times รายงานว่า รัฐบาลไทยกำลังเตรียมเปิดตัวหุ่นยนต์ทดสอบอาหารไทย เพื่อสร้างมาตรฐานของอาหารไทยทั่วโลก หลังจากที่ใช้งบประมาณลงทุนในการสร้างและพัฒนาเครื่องไปมากกว่า 9 ล้านบาท โดยเป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่าง วิทยาลัยนาโนเทคโนโลยีพระจอมเกล้าลาดกระบัง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ สวทช. และบริษัทโควิก เคทท์ ผู้ผลิตอาหารเสริมและผลิตภัณฑ์ด้านเครื่องสำอาง
สำหรับวิธีการทดสอบคือการที่หุ่นยนต์จะนำเอาตัวอย่างของอาหารไปทำการตรวจวัดทางเคมีด้วยความต่างศักย์ไฟฟ้า (voltages) ที่แตกต่างกัน จากนั้นเครื่องจะนำผลจากตัวอย่างไปเทียบกับลักษณะตัวอย่างของอาหารไทยที่เป็นมาตรฐานอัตโนมัติ และแจ้งว่าได้ตามมาตรฐานหรือไม่ ซึ่งถ้าได้คะแนนต่ำกว่า 80 คะแนน จาก 100 คะแนน แปลว่าอาหารจานนั้นไม่ได้มาตรฐาน
คุณนาคาญ์ ทวิชาวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โควิก เคทท์ ให้สัมภาษณ์กับทาง The New York Times ว่า ตั้งใจที่จะจำหน่ายเครื่องดังกล่าวนี้ให้กับทางสถานเอกอัครราชทูตไทยตามประเทศต่างๆ ที่มีร้านอาหารไทยอยู่เป็นจำนวนมาก ในราคาที่เครื่องละ 18,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 580,000 บาท)
โครงการสร้างมาตรฐานอาหารไทย รู้จักกันในนามของ Thai Delicious เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเป็นความพยายามในการจัดระเบียบอาหารไทยทั่วทุกมุมโลก และได้รับการถกเถียงอย่างมากในช่วงเวลานั้นว่าเป็นโครงการที่เหมาะสมหรือไม่ และแม้ว่าจะเกิดรัฐประหารไปแล้ว รัฐบาลชุดใหม่หลังรัฐประหารยังคงให้ดำเนินการโครงการนี้ต่อไป
อนึ่ง ในรายงานของ The New York Times ระบุว่า ได้นำเอาแกงเขียวหวานที่ผลิตจากครัวของสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศในประเทศไทย ไปทำการทดสอบ ผลที่ได้คือ 78 คะแนน จาก 100 คะแนน
ที่มา - The New York Times
หน้าตาของหุ่นยนต์ (ภาพจาก The New York Times)
Comments
แกงเดียวกันในแต่ละภาคยังชอบรสชาติแตกต่างกัน 20% ที่เว้นไว้อาจไม่พอทดความแตกต่างในมาตรฐานนั้นได้ เรื่องแบบนี้เปลืองงบเปล่าๆ ปลี้ๆ -..-'
อีกหน่อยอาจมีแฮ็กอาหาร .. ใส่ความต่างศักย์เข้าไปให้ผ่านมาตรฐาน ทั้งที่รสชาติ & คุณค่าทางโภชนาการไม่ผ่าน 55
my blog
เอ่อออออ
blog
ผมว่ามันจำเป็นนะ ที่อาหารอันนั้นจำเป็นต้องมีสูตรมาตรฐานออกมาสักสูตรในแต่ละอย่าง แต่การให้คะแนนออกจะเกินไป
คิดสภาพแกงจืดที่ใส่กุ้งกับน้ำส้มสายชูแล้วบอกว่านี่คือต้มยำกุ้งดูสิ
I need healing.
"คิดสภาพแกงจืดที่ใส่กุ้งกับน้ำส้มสายชูแล้วบอกว่านี่คือต้มยำกุ้งดูสิ"
ฮ่าๆๆ ผมชอบประโยคนี้จัง
เจ๋งอ่ะชอบ แต่ไม่รู้จะมีประสิทธิภาพดีแค่ไหน
ลงทุน 9 ล้าน บาท
แต่ได้ลง New York Times นะครับ พี่น้อง
ผมว่าการทดสอบแบบนี้ได้เรียนสมัยมัธยมแล้วนะ แต่อันนี้เพิ่มความแม่นยำกับฐานข้อมูล
แต่เอาจริงๆ อยากให้งบหลายๆ อย่างมันตามเหตุตามผลหน่อย เจอพวก mega project งบโคตรเว่อร์เลย เว่อร์ยันโครงการเล็กๆ อย่างเสาไฟพลังงานแสงอาทิตย์ ซื้ออมรมาทำได้คุณภาพเท่ากันแต่ราคาต่างกันมหาศาลแม้จะร่วมค่าแรงประกอบติดตั้งแล้วก็เถอะ ขึ้นชื่อโครงการรัฐงบเว่อร์ตลอด เจออันนี้ยังโอเคหน่อย
ผมไปทานอาหารร้านไหนก็จะชอบสั่งต้มยำกุ้งมาลองกิน เพราะว่าแต่ละร้านปรุงไม่เหมือนกัน ลองชิมไปเรื่อยๆหลายๆรสมันก็สนุกดี แล้วมาตรฐานของเจ้าหุ่นยนต์นี่มันเอาของร้านไหนมาใช้กันล่ะหว่า = A=)?
/me รอดูต่อไป
ดูจากรูปแล้วยังเรียกหุ่นยนต์ได้อยู่อีกหรอครับ
ทำไมมันถูกจังงบพัฒนา
เหมือนการคิดค้นเครื่องปริ้น แต่มันก็แทนที่ด้วยการวาดกับมือไม่ได้
ผมว่าการประยุกต์ใช้มันไม่โอเค
แต่ชมเทคนิคและไอเดียแล้วกัน
วัดแต่ความต่างศักย์ไฟฟ้า (ผมว่าเหมือนวัดค่า pH) นี่มันจะใช่อาหารรึ? วัดกลิ่นด้วยน่าจะมีประโยชน์กว่า
เครื่องมือจะตรวจสอบสารเคมีสารต่างๆ ที่มีในอาหารว่าลงตัวมากน้อยขนาดไหนนะเหรอ
อาหารต้องเป็นศิลปะสิ
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ในพรมแดนของรัฐชาติ เรื่องเช่นว่าเกิดขึ้นได้ยากครับ (บทความอ่านประกอบ)
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
หวังว่าจะไม่เหมือนเครื่องให้คะแนนคาราโอเกะนะ TT
ร้องดีแทบตายได้ 40 ดำน้ำทั้งเพลงดันได้ 100 เต็มอะนะ :v .......
+1
แปลกแต่จริง
ไก่วิเชียรบุรีที่ขายริมถนนแต่ละจังหวัดยังรสชาติไม่เหมือนกันเลย มาตรฐานที่ว่าใช้อะไรเป็นตัววัดครับ
แนะนำให้ไปกินที่ วิเชียรบุรี ครับ (ผมคนวิเชียรบุรี)
555 เคยแวะซื้อที่วิเชียรบุรีทีนึงครับ ของ Ori จืดไปนิดครับ แต่อาจจะเป็นเฉพาะร้าน (เพิง) ที่ผมแวะซื้อก็ได้ครับ //ไม่เกี่ยวกับหัวข้อข่าวเลยครับ
ผมก็ยังไม่รู้เลยร้านไหนอร่อยสุด 555
ส่งสัยต้องพึ่งหุ่นยนต์ (ดึงเข้าข่าว 555)
น่าจะเรียกว่า เครื่อง มากกกว่าหุ้นยนต์ครับ
ต้นฉบับใช้คำว่า "robotic" ก็ต้องเป็นไปตามต้นฉบับครับ
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
เหลือบไปดูวันที่ ยังไม่ใช่ 1เมษานี่นา
ทำอาหารทำให้คนทาน แต่ให้เครื่องจักรชิม?
ฮืม?
ฮืมมมมมม?
ฮืมมมมมมมมมมมมม?
ถ้าเครื่องนี้วิเคราะห์คะแนนโดยอิงตัวเลข/ปริมาตรวัตถุดิบก็น่าจะเป็นมาตราฐานในระดับหนึ่งนะฮะ
แต่ผมไม่รู้ว่าการวัดด้วยความต่างศักย์ไฟฟ้านี่ให้ข้อมูลถึงระดับนั้นเลยรึเปล่าแฮะ
ความอร่อยมันเป็นปัจเจกบุคคล บางคนชอบหวาน บางคนชอบเผ็ด แล้วมาตรฐานคืออะไร ตอบได้ไหม
เนื่องจากเครื่องนี้เป็นเพียงเครื่องจำลอง ผลที่ได้อาจไม่ตรงตามความจริง เรียกว่ามีความผิดพลาดได้
แต่ใครที่ปฏิเสธผลการตัดสินของเครื่องนี้ ขอเชิญมาเที่ยวที่เทเวศน์ครับ
อย่างน้อยก็ดีกว่าแปล wikipedia นะครับ
ผมว่าพอกัน
ผมเคยเจอผัดกระเพรา เป็นผัดน้ำตาล นะเออ เพราะคนที่ชอบรถชาติใหน ลิ้นจะดื้อต่อรถชาตินั้น(พูดง่ายๆ คือต้องเพิ่มปริมาณให้มากขึ้นถึงจะรับรู้รสชาตินั้นได้)
น่าจะทำเวบกลาง
เอาคนไทยนี่แหละ เป็นคนชิม
แบ่งเป็นคนไทยทั่วไป
และผู่้เชี่ยวชาญ
ให้คะแนนอาหารไทยในร้านต่างๆ
แล้วให้คะแนนเป็น ThaiScore หรือ Thai Star
คนให้คะแนนทุกคนต้องทำการสมัครกับสถานฑูต
แต่คงกลัวแต่จะมีการกลั่นแกล้งระหว่างร้านคู่แข่ง
เลยต้องทำเป็นเครื่อง จะได้โกงไม่ได่
ดูจากกลุ่มลูกค้าแล้วคือเน้นไปที่การจัดระเบียบอาหารไทยในต่างประเทศ ผมว่าโอเคอยู่ เพราะว่าเมืองไทยึนไทยก็คงคุ้นเคยอยู่แล้วกับรสชาติอาหารแม้จะมีรถปากรสประจำถิ่น แต่ว่าอาหารไทยในเมืองนอกบางร้านไม่ใช่นะครับ ผมเคยไปร้านอาหารไทยที่นิวยอค สั่งต้มยำกุ้ง ได้ต้มจืดใส่พริกเผาใส่กุ้งกับมะเขือ ผัดไทยที่เอาเส้นหมี่เหลืองๆกลมๆมาทำ ผมเลยเรียกเด็กเสริฟมาถาม เขาบอก เจ้าของเป็นคนเวียดนาม เพื่อนฝรั่งบางคนมาเที่ยวไทย เขากินผัดไทยทุกวันเลย บอกออเทนติก และอร่อยมากๆไม่เหมือนเมืองที่เขาอยู่ ที่ร้านอาหารในเมืองเขาเป็นร้านคนจีนแต่ขึ้นป้ายว่าอาหารไทย อาหารไทยฮิตในหมู่ชาวต่างชาตินะครับ ในอังกฤษนี่ เจอร้านอาหารไทยพอๆกะร้าน Yo!Sushi เลย มีทุกเมือง และราคาแพงสำหรับคนที่นุ่นเลยละ
+1 ไม่งั้น New York Times ไม่ทำข่าวนี้หรอกครับ
กลุ่มเป้าหมายน่าจะเป็นร้านอาหารไทยในต่างประเทศมากกว่า ประมาณว่าร้านนี้ได้รับการรับรองแล้วว่าเป็นอาหารไทยแท้ๆ
onedd.net
ถ้าแบบนั้นก็ไม่จำเป็นต้องมีหุ่นยนต์นะครับผมว่า เอาแค่ใครอยากได้ certificate ก็ปรุงแล้วให้เจ้าหน้าที่ที่ได้รับการรับรองไปตรวจสอบแล้วก็ออกใบรับรองให้ เรื่องอาหารมันเป็นศิลปะ มากกว่าจะมาตัดสินด้วยกระบวนการทางเคมี
ผมว่าถ้ามองว่าเป็นการตลาด กระเพื่อมความสนใจเพื่อสร้างกระแสให้อาหารไทยให้ได้ยินบ่อยขึ้นสำหรับชาวต่างชาติก็ถือว่าดีนะครับกับงบแค่นี้
และจากที่บางความเห็นบอกไว้ ก็เหมือนว่ามาตรฐานอาหารไทยในต่างประเทศเหมือนจะมีปัญหา หุ่นยนต์ตัวนี้น่าจะใช้งานได้ในระดับที่น่าพอใจในต่างประเทศนะผมว่า อย่างน้อยก็ควบคุมไม่ให้มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงเหมือนบางความเห็นบอกว่าสั่งต้มยำแต่ได้ต้มจืดใส่พริกเผา
เพจตัวอย่างผลงานถ่ายภาพ / วีดีโอ
ผมว่าปัญหาคือร้านอาหารไทยแท้ ๆ ขายไม่ออกนะ :)
ตอนอยู่ที่ Toronto นี่จำได้ว่า ร้านอาหารไทยที่อยู่ในเมือง เป็นฟิวชั่นบ้าง เป็นฟาสต์ฟู้ดบ้าง เป็นร้านอาหารไทยบ้าง ที่ว่ามาเจ้าของไม่ใช่คนไทย คนทำไม่ใช่คนไทย รสชาตไม่ใช่อาหารไทย แต่คนเต็มแน่นเอี้ยดทุกร้าน
ส่วนร้านที่เจ้าของเป็นคนไทย คนทำเป็นคนไทย รสชาติเป็นอาหารไทยนี่ ทุกร้านที่ผมไปลองก็อร่อยนะ แต่ไม่มีคนกิน ไม่รู้ทำไม
เข้าเมืองตาหลิวต้องหลิวตาตาม ลูกค้าคือพระเจ้าครับ อย่าง kfc บ้านเรายังมีข้าวยำไก่ อยู่ในเมนู 3 จานเลย
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ก็คงเหมือนน้ำชาเขียวที่ขายกันอยู่ ถ้าเอาแบบดั้งเดิมไม่ใส่น้ำตาลคงไม่มีคนดื่มกันมากขนาดนี้
เรื่องรสชาติอาหารไทยบางทีไม่ต้องไม่ไกลถึงต่างประเทศเอาแค่พื้นที่ที่ชาวต่างประเทศชอบเที่ยวก็จะเห็นแล้วว่ารสชาติมันไม่ใช่ เคยไปพังงาแถวเขาหลักแล้วลองสั่งต้มยำมากินดู สภาพต้มยำที่ได้ยังกะซุปต้มยำเลย คนไทยบอกว่ากินไม่อร่อยแต่มันคงจะถูกปากฝรั่งก็ได้
เครื่องนี้ก็จะปรับให้ทุกร้านมามีรสชาติใกล้เคียงกันหมดไงครับ ต่อไปทุกร้านก็จะอร่อยแบบไทยแท้ แต่ฝรั่งไม่ชอบกิน เสมอภาคกันดี #ผิด
ผมว่าปัญหามันมีอยู่อย่างหนึ่งครับ เรื่องอาหารมันเป็นเรื่องลึกลับ ให้เครื่องปรุงไปเหมือนกัน ชั่ง ตวง วัด แบบเดียวกัน ปรุงโดยเชฟคนละคน แต่พอทำออกมาแล้วรสชาติมักจะได้ออกมาไม่เหมือนกัน
ก็นั่นน่ะสิครับ เครื่องมันวัดแค่รสชาติรึป่าว แต่ส่วนประกอบอื่นๆล่ะ เครื่องวัดได้ใหม ฟิวชั่นมาเครื่องจะรู้ใหม
สมมุติผัดไทยใช้เส้นสปาเก็ตตี้ แต่รสชาติดันได้ ถือว่าผ่านมาตรฐานหรือเปล่า
แล้วสมมุติต้มยำกุ้ง แต่กุ้งไม่สด เครื่องไม่ครบล่ะ ผ่านใหม
ผมคิดว่าเรื่องรสชาติตัดสินกันยาก ถ้าเป็นเรื่องความสะอาดน่าจะวัดง่ายกว่า และสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคมากกว่า
เรื่องรสชาติเป็นเรื่องรสนิยมส่วนตัวไม่ใช่เหรอ แล้วปัจจัยหลักของการปรุงอาหารที่สำคัญมากกว่าเท่าที่นึกออกคือความสดใหม่ของวัตถุดิบและสุขอนามัยต่างหาก ผมว่าการสร้างเครื่องนี้ขึ้นมาเหมือนกับกำลังสร้างเครื่องออกทะเลอยู่นะ
จริงๆ แล้วมาตาฐานอาหารไทยจัดได้นะครับ
แต่ผมว่า ควรจะเป็นเรื่องความสะอาดและส่วนประกอบมากกว่า
อาหารมันต้องไปเรื่อยๆ เปลี่ยนแปลงไม่มีหยุด
แถมมีความชอบของแต่ละคนเข้ามาอีก
เอาคนมาวัดแล้วให้ มาตรฐานก็ว่ายากแล้ว
เอาเครื่องมาวัด แล้วให้ มาตรฐาน นี่ผมว่ามันไปกันใหญ่ล่ะ
แถมใครที่ทำอร่อยแต่เครื่องนี้วัดบอกไม่ได้ มาตรฐาน
ก็กลายเป็นร้านนั้นๆ โดนตีตราแล้วว่าร้านนี้ไม่ดี
เป็นผมเป็นเจ้าของร้าน ผมไม่ให้ตรวจ
เอางี้ ที่ญี่ปุ่น ร้านราเมงอยุ่ร้าน มีคนไต้หวันเข้ามาทาน แล้วคนไต้หวันก็บอกเลยว่าเค็มมาก
เจ้าของร้านนั้นก็เลยพบว่า ราเมงที่คนญี่ปุ่นทานกันนั้นมันเค็มเกินไปสำหรับคนไต้หวัน
เขาก็เลยลดความเค็มลงถ้าทราบว่าลูกค้าเป็นคนไต้หวัน
แบบนี้เครื่องจะตรวจให้ไม่ผ่านหรือเปล่าครับ
เครื่องมืออาจจะดี แต่การนำมาใช้จะผิดวิธีด้วยหรือเปล่า
คือ การวัดว่าอะไรอร่อย เขาวัดด้วยการสำรวจ พวก Blind Test แบบที่ผู้ผลิตอาหารเขาทำกันนะครับ
ดูข้าวแช่แข็งสิ อร่อยถูกปากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเทียบกับ EasyGo ยุคแรก
แล้วก็ความดาดหวังของลูกค้าที่มาซึ้ออาหารกินมันแตกต่างกัน
ครั้งแรกๆ ลูกค้าคาดหวังความอร่อยถูกปาก
ครั้งหลัง ลูกค้าคาดหวังว่ารสชาติจะเหมือนเดิม
คราวนี้การทำให้รสชาติเหมือนเดิมมันต้องมีสูตรแน่นอน
แต่อาจมีปัญหากับวัตถุดิบธรรมชาติบ้างเช่น น้ำมะนาวที่เปรี้ยวไม่เท่ากันซึ่งมันก็มีวิธีลดปัญหาบ้าง
ใช้การสำรวจวัดความอร่อยน่าจะตรงตัว และดีกว่าหาความอร่อยที่ "สมบูรณ์" ที่มันไม่มีอยู่จริง เพราะมันเปลี่ยนไปเรื่อยๆดีกว่าไหม
เห็นโพสถึงข้าวแช่แข็ง ขอเตือนเพื่อนๆ เลยละกันข้าวกล่องที่ขายใน F___y ___ ข้าวกะเพราะหมูนะครับ(จำยี่ห้อไม่ได้ละ) แหลกม่ายล่ายยย (เพื่อนเคยเตือนมาแล้ว ไม่เชื่อ 555+ โดนเลย)
แต่ข้าวญี่ปุน+หมูชาบู อร่อยอยู่นะ ขายอยู่ในนั้นแหละ :v ดึกๆ หิวๆ ซื้อกินประจำ
F... y... นี่คิดออกอย่างเดียวคือ fack you ครับ
ใบ้เพิ่มได้ไหม
เว้นวรรคหลัง y ครับ ไม่ใช่ก่อน
F....y M...
อ้อ ขอบคุณครับ
ในเครือ C______ ใช่ไหมครับ //เผ่น
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ใบ้แบบนี้ระวังคนเข้าใจผิดนะครับ 5555
ผมว่าต้องรื้อฟื้น เปิบพิสดาร กับ เชลชวนชิม มาใช้แทนนะครับ
รสชาติอาหารมีมาตรฐานด้วยเหรอเนี่ย เพิ่งรู้ ตลกดี
อาหารคือการดวลครับ เอาหุ่นยนต์มาตัดสินไม่ได้หรอก
pittaya.com
ฮาตรงย่อหน้าสุดท้ายนี่แหละ
ผมว่ามันเป็นความคิดที่ดีนะครับ เหมือนเอาเครื่องนี้มาscreeningเบื้อต้นว่าผ่านไม่ผ่าน จะได้ปรับปรุงฝีมือตนเองให้มันกีขึ้น
คนสองคน กิน แกง จานเดียวกัน แต่คนนึงบอก อร่อย อีกคนบอกไม่ แล้วมันจะวัดยังไง
คิดแบบนี้ครับ
คนสองคนกินแกงจานเดียวกัน คนนึงบอกว่าไม่อร่อย อีกคนบอกว่าอร่อย
แต่คนที่บอกว่าอร่อยสามารถเรียกอีกคนไป "ปรับทัศนคติ" ได้จนทุกคนมีความเห็นไปในทางเดียวกัน หรือไม่ก็ไม่กล้าเห็นต่างอีก
ผมว่ามันเยี่ยมมากๆ ครับ
ในข่าวไม่เห็นมีพูดถึงเรื่อง "อร่อย" เลยครับ มีแต่ "มาตรฐาน"
แต่ความอร่อยมันก็ขึ้นอยู่กับความชอบแต่ละคนนั่นแหละครับ แต่ถ้าถกเถียงกันว่าเอามาตรฐานมาจากไหน อันนี้ผมก็อยากรู้ อยากจะชิมอาหารที่ผ่านเครื่องนี้สักหน่อย ว่าผมจะอร่อยไหม ลิ้นเราชอบรถชาติมาตรฐานนั้นหรือเปล่า
^
^
that's just my two cents.
เครื่องนี้ใช้วิธีประมวลผลแบบโครงข่ายประสาทเทียมนี่ครับ คำว่า 80% นี่น่าจะขึ้นอยู่กับ input ที่ป้อนลงไป ปัญหาคือ input นี่ได้มาตรฐานจากไหนครับ เห็นมีแต่สถาบันศึกษากับบริษัทเครื่องสำอาง น่าจะร่วมมือกับสถาบันอาหารซักแห่งด้วยนะ
การทำงานมันน่าจะวัดแค่ เปรี้ยว-หวาน-เค็ม อย่างละกี่ % เช่นผลออกมาเป็น 40-70-48 แปลว่าหวานเกินไป ไม่ได้มาตรฐาน
ปล.ผมทำงานที่บริษัทอาหาร การพัฒนาผลิตภัณและการชิมรสอาหารจากอาสาสมัครหลายๆคน ก็จะให้กรอกข้อมูลแบบนี้แหละ
เราจะรู้ว่าอาหารเรามัน เค็มไป หรือจืดไป แต่อร่อยไหมอันนี้ไม่รู้ แล้วแต่คนชอบ