หลังจากที่ LG เปิดตัว LG L Bello และ LG G3 Stylus ก่อนงาน IFA ปีนี้เพียงนิดเดียว (ช่วงปลายเดือนสิงหาคม) ในที่สุดก็ได้ฤกษ์ที่ LG ประเทศไทยจะนำมาจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่ง Blognone ก็มีโอกาสได้ไปเล่นมาด้วยในครั้งนี้

สเปคอ่านเอาจากข่าวเก่า (ลิงก์แปะไว้ด้านบนแล้ว) ถ้าพร้อมแล้ว เข้าเรื่องเลยครับ

LG L Bello

L Bello ถูกวางตัวให้เป็นมือถือที่จับตลาดกลางค่อนล่างของ LG โดยใช้แนวทางในการออกแบบเช่นเดียวกับ LG G3 ทุกประการ ขนาดค่อนข้างอ้วนป้อม (ผมจินตนาการว่ามันคือ G3 รุ่นที่ยังไม่ได้ลดน้ำหนัก) เรื่องของหน้าจอก็สมราคาที่เปิดมา ถือว่าไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่หรือน่าเกลียดแต่อย่างใด เพียงแต่ถ้าใครใช้สมาร์ทโฟนระดับเรือธงมาก่อน อาจจะบ่นได้ในเรื่องของหน้าจอ เรื่องของขนาด และคุณภาพของกล้องที่ไม่ค่อยจะดีนัก (แต่ของแบบนี้ก็แล้วแต่คนด้วย)

ด้านหลังของเครื่อง

แกะฝาหลังออกมาแล้วก็ประมาณนี้ ซึ่งเรื่องที่น่าชื่นชมคือการใส่แบตมาให้ถึง 2,540 mAh ซึ่งถือว่าเยอะมากสำหรับเครื่องในระดับนี้

เนื่องจากการคงลักษณะการออกแบบทั้งหมดไว้จาก G3 ทำให้ L Bello เลยมีทุกอย่างไม่ต่างกันเท่าใดนัก ทั้งการวางปุ่ม พอร์ตต่างๆ ก็สอดคล้องไปกับ G3 ทั้งสิ้น

ผมลองเล่นอยู่พักหนึ่ง ต้องบอกว่าสเปคและความเร็วที่ได้ถือว่าสมกับราคาอยู่ แน่นอนว่าคงคาดหวังให้เหมือน G3 ไม่ได้ แต่ถ้าในระดับที่ทำงานแบบวันต่อวันก็พอไปได้อยู่

LG G3 Stylus

G3 Stylus เป็นอีกรุ่นของ LG ที่นำ G3 มาลดความละเอียดหน้าจอ เปลี่ยนของที่อยู่ไส้ใน แล้วก็เพิ่มปากกาเข้าไป เพื่อเจาะตลาดคล้ายกับ Galaxy Note 4 (คือสายที่ชอบใช้ปากกาเป็นตัวทำงาน) เพียงแต่มีราคาที่ถูกกว่ามาก (เรียกว่าคนละช่วงราคากันเลย) และ Stylus ของ G3 Stylus นั้นก็เป็นหัวยางทั่วไป รองรับแรงกดเพียงระดับเดียว ดังนั้นถ้าจะวาดภาพหรือจดบันทึกอะไรแบบหยาบๆ ก็คงพอได้อยู่ แต่ถ้าจะให้ทำแบบเดียวกับ Galaxy Note ก็คงไม่ได้แน่ๆ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหน้าจอจะลดความละเอียดลงมามาก (จาก QHD เหลือ qHD) แต่หน้าจอก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น ก็ยังดูคมชัดและสว่างดี มุมมองหน้าจอก็ถือว่ากว้าง ดังนั้นการที่ความละเอียดลดลงไม่ได้แปลว่าทุกอย่างจะแย่ลงเลยแม้แต่น้อย แต่ถ้าเป็นคนช่างสังเกตก็อาจจะรู้สึกถึงความหยาบมันได้บ้าง แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่ "เข้าใจได้" กับช่วงระดับราคาที่เปิดมา

เช่นเคย ยังคงแนวทางการออกแบบทุกอย่างเหมือน LG G3 ทุกประการ ดังนั้นรายละเอียดทุกอย่างจึงเหมือนกับ G3 แทบจะทุกกระเบียดนิ้ว ยกเว้นมี Stylus เพิ่มขึ้นมาเท่านั้น

Stylus ของ G3 Stylus นั้นแม้จะเป็นหัวยางธรรมดา ไม่ได้ต่างจาก Stylus ที่ขายกันตามท้องตลาด แต่ว่ากลับไม่สามารถใช้ร่วมกับโทรศัพท์เครื่องอื่นๆ ได้เลย ต้องใช้คู่กับ G3 Stylus แต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้นครับ

ผมมีโอกาสได้ลองเล่น G3 Stylus พอบอกได้ว่ามันไม่ได้แย่อย่างที่คิด อย่างไรก็ตามน้ำหนักเครื่องของ G3 Stylus ถือว่าค่อนข้างหนัก การกระจายน้ำหนักยังทำได้ไม่ค่อยดีอย่างที่คาด และถ้าเวลาจดงานเร็วๆ เส้นที่ลากจาก Stylus จะเกิดอาการดีเลย์ (ช้า) กว่าปกติ ดังนั้นในบางสถานการณ์ การตอบสนองจึงยังไม่ได้รวดเร็วกว่าที่คาดไว้เท่าไหร่

สำหรับเรื่องของราคา ทาง LG ประเทศไทย เปิดราคา G3 Stylus อยู่ที่ 8,990 บาท และ L Bello ที่ 6,880 บาท ครับ หวังว่าคงมีโอกาสรีวิวอย่างจริงจังอีกครั้งหนึ่งครับ