Tags:
Node Thumbnail

แนะนำหนังสือออกใหม่ที่น่าสนใจสำหรับแวดวงสตาร์ตอัพ (รวมถึงวงการเทคโนโลยีรวมๆ) ครับ หนังสือเล่มนี้ชื่อ Zero to One เขียนโดย Peter Thiel (หนึ่งในทีมผู้ก่อตั้ง PayPal และนักลงทุนคนแรกๆ ที่เห็นคุณค่าของ Facebook) และ Blake Masters นักเรียนของ Thiel

Peter Thiel เป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลของซิลิคอนวัลเลย์ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา เขานำพา PayPal เข้าตลาดหุ้นในปี 2002, ก่อตั้งบริษัท Palantir ทำด้าน big data ให้หน่วยงานภาครัฐของอเมริกา ภายหลังเขายังเปิดบริษัทลงทุน Founders Fund ที่ร่วมลงทุนในสตาร์ตอัพรุ่นหลังอย่าง Facebook, Spotify, Lyft, Oculus, Airbnb และ SpaceX (คนที่เคยดูหนัง The Social Network มีบทของเขาโผล่มานิดนึงด้วย)

No Description

Thiel เป็นสมาชิกคนสำคัญในกลุ่ม PayPal Mafia อดีตพนักงานและผู้บริหารของ PayPal ในยุค 90s ที่ภายหลังแยกออกมาทำธุรกิจและโด่งดังกันถ้วนหน้า (มีอิทธิพลเยอะจนถูกขนานนามว่าเป็น "มาเฟีย" ของวงการ) ตัวอย่างคนที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม PayPal Mafia คือ Elon Musk (Tesla/SpaceX), Reid Hoffman (LinkedIn), Max Levchin (Slide/Yelp) และทีมผู้ก่อตั้ง YouTube

Thiel สอนวิชาสตาร์ตอัพให้หน่วยงานต่างๆ มาหลายปี หนังสือ Zero to One เป็นการรวบรวมคำบรรยายและมุมมองของเขาจากการสอนสตาร์ตอัพรุ่นหลัง มาขยายความเพิ่มเติมและเล่าเรื่องในแบบของหนังสือ โดยแทรกประสบการณ์ของ Thiel มาเป็นระยะๆ ด้วย

No Description

ชื่อหนังสือของ Thiel ต้องการสื่อความหมายว่าการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ทางเทคโนโลยี เป็นการนับเลขจาก 0 ไปยัง 1 (จาก "ไม่มี" เป็น "มี") ซึ่งต่างไปจากวิวัฒนาการทางธุรกิจทั่วๆ ไปที่เป็นการต่อยอดธุรกิจเดิมให้ดีขึ้น (จาก 1 เป็น n) ซึ่งแบบแรกนั้นเป็นสิ่งที่ยากกว่ากันมาก แต่ถ้าไม่มีคนกลุ่มนี้ที่กล้าท้าทายแนวคิดเดิมๆ และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้โลก โลกเราคงหยุดนิ่งและไม่สามารถก้าวหน้าต่อไปได้ด้วยโมเดลหรือวิธีคิดแบบเดิมๆ (สโลแกนของหนังสือเล่มนี้คือ Notes on Startups, or How to Build the Future)

ตอนนี้ Zero to One วางขายแล้วทั้งแบบเป็นเล่มและอีบุ๊ก (Amazon, iTunes) สำหรับคนที่อยากได้ฉบับกระดาษ ผมเห็นร้านหนังสือภาษาอังกฤษในไทยอย่าง Kinokuniya ก็มีวางขายแล้วครับ

ใครที่สนใจลองอ่านก่อน ลองดูบทความของ Peter Thiel ใน Wall Street Journal ที่คัดบางส่วนมาจากหนังสือ ผมลองอ่านไปได้ 3 บทแล้วพบว่า Thiel จะคอยตั้งคำถามยากๆ เพื่อท้าทายลูกศิษย์ของเขา (และคนอ่าน) ให้มองถึงอนาคตยาวๆ ของวงการเทคโนโลยี และกล้าจะคิดใหญ่เพื่อไปให้ถึงฝั่งฝัน แต่ก็ต้องไม่ลืมบทเรียนอันเจ็บปวดของสตาร์ตอัพรุ่นก่อนๆ ที่เจ็บกันมาเยอะแล้วเช่นกัน (ซึ่งประสบการณ์ของ Thiel ในฐานะคนรุ่นก่อนนั้นมีคุณค่ามาก)

Get latest news from Blognone

Comments

By: punataro
ContributoriPhoneWindows PhoneAndroid
on 19 September 2014 - 20:13 #744557

ขอไป Party Like It's 1999 ก่อนครับ :)

By: Zew on 19 September 2014 - 22:48 #744585

Asia Book จะมีไหมหว่า

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 20 September 2014 - 01:17 #744610
PaPaSEK's picture

ผมเข้ามาอ่านบทความเพราะ Blake นะนี่ ไม่เขียนถึงเลยครับ

By: mekpro
ContributorAndroidUbuntu
on 20 September 2014 - 05:12 #744631
mekpro's picture

คำถามโหดๆ ของ Peter Theil อาจจะดูโหดร้ายหน่อยนะครับ เช่น "สิ่งที่เราต้องการคือรถบินได้แต่เรากลับได้ใช้ข้อความ 140 ตัวอักษร" แต่ฟังจนจบแล้วได้ใจความว่าเขาต้องการให้มองที่ความสำคัญของเทคโนโลยีที่ทำให้ชีวิตคนดีขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนได้จริงๆ ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับการหาเงินเลย

ฟังอันนี้ก็ดีครับ http://www.youtube.com/watch?v=VtZbWnIALeE (ทำให้คิดว่า Startup คนอื่นมองโลกดีเกินจริงไปหมดเลย)

By: HyBRiD
ContributoriPhoneSymbianUbuntu
on 21 September 2014 - 04:24 #744945
HyBRiD's picture

kindle ผมสั่น