เว็บแห่งหนึ่งของจีน Wei Feng รายงานว่า iPhone 6 รุ่น 5.5 นิ้วจะวางจำหน่ายพร้อมกับความจุข้อมูล 128 GB เพียงอย่างเดียว ในขณะที่รายงานก่อนหน้าอ้างว่า iPhone 6 รุ่น 4.7 นิ้วจะไม่มีรุ่นความจุ 16 GB เช่นเดียวกันไอโฟนรุ่นก่อน ๆ อีกต่อไป แต่จะมีเพียงแค่รุ่น 32 GB และ 64 GB เท่านั้น
รายงานล่าสุดนี้บอกว่า แอปเปิลต้องการใช้ความจุข้อมูลที่ไม่เหมือนกัน เป็นตัวช่วยสร้างความแตกต่างให้กับ iPhone 6 ทั้งสองรุ่นที่มีขนาดจอภาพแตกต่างกัน ทั้งนี้แอปเปิลได้ใช้วิธีดังกล่าวกับการจำหน่าย iPad mini และ iPad Air อยู่แล้ว
นอกจากเรื่องของความจุข้อมูล ก่อนหน้านี้เราเคยได้รายงานไปแล้วว่า optical image stabiliser (OIS) หรือที่ภาษาบ้าน ๆ ของเราเรียกว่า “ระบบป้องกันการสั่นไหวของกล้อง” ก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติ ที่ใช้สร้างความแตกต่างระหว่าง iPhone 6 รุ่นจอภาพเล็ก กับรุ่นจอภาพใหญ่
ที่มา - MacRumors
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
^^
ไม่แก้อีกแล้วครับ ถ้าเป็นเรื่องของ British <-> American English เว้นแต่จะเป็น trademark เท่านั้น
@TonsTweetings
เรื่อง British-American English นี่น่าปวดหัวเหมือนกันนะครับ ส่วนตัวผมจะมองว่าคำพูดนี้มาจากที่ไหนแล้วก็ใช้ตามนั้น
+1 เห็นด้วยครับ หากต้นทางข่าวใช้ s หรือ z ก็ควรใช้ตามนั้น
+100 กดไลค์ให้คุณ toandthen แรงๆ เลยครับ ได้ใจผมไปเต็มๆ
เรื่อง British English กับ American English ผมว่าเลิกเอามาเป็นประเด็นซักทีเถอะครับ เพราะในชีวิตจริงมันสามารถใช้ได้ทั้งสองแบบ ไม่มีผิดไม่มีถูก ไม่ว่าจะใช้คำไหนหรือสะกดแบบใด ผมเชื่อว่าคนทั่วโลกเองก็สามารถเข้าใจได้หมด ถูกต้องหมด เพียงแต่มันมีที่มาต่างกัน และเขียนต่างกันเท่านั้น
ถ้าผมเจอคนจับผิดในเรื่องนี้นะ ผมมักจะตีความเสมอว่าคนจับผิดน่ะ ไม่แม่นภาษาอังกฤษซะเอง เพราะถ้าแม่นจริงก็จะไม่มาจับผิดกับเรื่องแบบนี้เลย
นาน ๆ ไปจะทำแบบสคัลลีย์ป่าวนี่
ขอให้ไม่เป็นจริงด้วยเถิด iPhone 6 5.5" 128 GB ราคาทะลุ 32,000 บาทขึ้นไปแน่ (ถ้าเทียบกับ iPad+LTE 128 GB ราคา 31,900 บาท แต่ปกติ iPhone จะแพงกว่าด้วยซ้ำในความจุที่เท่ากัน) อยากใช้ iPhone จอใหญ่แต่ราคานี้สู้ไม่ไหวนะ
นี้เป็นจังเหวะหนีการมีส่วนแบ่งการตลาดต่ำจนส่งผลกระทบถึง ecosystem ผมคิดว่า apple มีแรงจูงใจให้ขายสินค้าในราคาถูกกว่านั้นครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
สื่อเก็บข้อมูลราคาลดลงเรื่อยๆ แต่ความจุในมือถือก็ไม่ได้เพิ่มตามเลย พอเพิ่มนิดหน่อย ราคาก็กระโดดอย่างน่ารังเกียจ
ยิ่งมือถือที่เพิ่มความจุไม่ได้ แล้วหากำไรกับราคาความจุแบบนี้
แต่ก็ยังขายดี ยังยอมให้ฟันเรื่อยๆ ก็ต้องทนต่อไป
ผมว่า iphone 4.7 นิ้วน่าจะเป็น 32 , 64 GB ส่วน 5.5 นิ้ว น่าจะเป็น 64 , 128 GB มากกว่านะคัรบ
มือถือ เกือบห้า หมื่นผมไม่ซื้อใช้หรอก แพงไป จะแพงไปไหน
นี่แหละที่ต้ิงการ ตอนที่ผมจะซื้อ iPhone 5s นึกง่าจะมี 128GB วะอีก ไม่มีซะได้ เซ็ง ใช้ไม่พอ
เสียดายนะครับ iPhone ต่อ ExHDD ไม่ได้ :P
เอาอ้อมๆ ก็ต่อผ่าน Lightning to USB Camera Adapter ได้ครับ แต่ต้องอาศัย jailbreak
16GBนี่มันน้อยไปแล้ว 32GBนี่แหละกำลังดีเลย
ผมไม่เห็นใครเรียก OIS ว่า “ระบบกล้องกันสั่นสะเทือน” เลยครับ ลองเสิร์ชใน Google ก็เจอแต่ในบทความเดียวกันนี้เท่านั้น เราน่าจะใช้คำว่า “ระบบป้องกันการสั่นไหว” อะไรทำนองนี้มากกว่านะครับ
ลองใช้ Google ค้นหาประโยค “ระบบกล้องกันสั่นสะเทือน” กับ “ระบบป้องกันการสั่นไหว” ปรากฏว่า อันหลังที่คุณ uthain แนะนำ... ชนะขาดลอย!!!
ผมเรียก "กันสั่น"
:: DigiKin8 ::
เหมือนตั้งใจจะให้ตัว 5.5 นิ้วเป็นตัวพรีเมี่ยม
ผมสงสัยว่าทำไมจู่ๆถึงเปลี่ยนใจมาคิดว่าคนส่วนใหญ่ต้องการจอใหญ่ถึงระดับนั้น
ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ยึดติดกับจอเล็กมาตลอด ทั้งๆที่ชาวบ้านเขาไปจอใหญ่กันหมดแล้ว
ไม่ต้องถามแล้วครับ ทำเป็นลืมๆไปว่าเคยจิกกัดแบบนั้น
เกิดมายังไม่เคยใช้ของในเครือ apple เลยครับ แพงเกินไปครับสำหรับหลาย ๆ ท่าน ผมลองเทียบกันเกือบทุกด้านราคาก็ยังแพงกว่ารุ่นมือถือของค่ายอื่นอยู่พอสมควร อยากให้ apple ทำราคาที่น่าสนใจและลดราคาพวกอุปกรณ์เสริมลงอีกครับ แพงมากๆ
เคยมีใครไม่รู้บอกว่า Apple ไม่ได้ทำสินค้าไอที แต่ทำสินค้าแฟชั่นต่างหาก
สินค้าแฟชั่นที่วางตำแหน่งไว้สูงๆ ไม่มียี่ห้อไหนถูกครับ
บางทีผมคิดว่า Apple ไม่ได้ต้องการทำสินค้าเพื่อคนส่วนใหญ่ แต่ทำสินค้าเพื่อคนที่อยากจะดูมีระดับ จำนวนมากๆ ต่างหาก //ถือ Vertu คนส่วนใหญ่ไม่รู้จัก แต่ถือ iPhone คนส่วนใหญ่รู้ว่าแพงชิบxxx นะครับ
ถ้านับเรื่องซอฟแวร์อย่างเดียว แอพที่ให้โหลดแอพในสโตร์ของแอปเปิ้ลมีคุณภาพกว่าแอพสโตร์แอนดรอยเยอะมากครับ เกมสนุกและภาพสวยเยอะกว่ามาก และมีการแนะนำแอพและเกมดีดีให้ดูตลอด ซึ่งแอนดรอยไม่มีการแนะนำที่ดีแบบนี้ แต่เรื่องระบบในเครื่องแอนดรอยตัวใหม่ล่าสุดดีกว่าระบบแอปเปิ้ลมากครับ แอปเปิ่ลมันคุกกระจกแบบที่ใครหลายคนเรียกจริงๆครับ ปรับแต่งหน้าจออะไรไม่ได้สักอย่าง
สรุปที่ผมเจอคือผมซื้อแอพกับเกมในแอพสโตร์ของแอปเปิ้ลเยอะมากกว่าแอพสโตร์แอนดรอยมากครับ 8/2 เลยนะ
แต่แอนดรอยจูนเครื่องให้เร็วมากกว่าและปรับหน้าตาระบบหลักให้สวยกว่าแอปเปิ้ลได้มากครับ
เอามาใช้จริงๆมันก็รู้สึกอัดอัดที่แต่ละเครื่องไม่มีจุดเด่นที่ผมบอกทั้งสองอย่างรวมกันได้สักเครื่อง
ผมซื้อ iPad เพราะมีคนบอกแบบนี้แหละครับ "There's an app for that"
แต่คนบอกดันลืมบอกว่า App มัน 3-5$ สำหรับรุ่น iPad ในขณะที่ Android มีฟรีให้ใช้ไม่ก็ทำได้ในตัวระบบเอง _ _
แอพฟรีใน iOS ก็มีไม่ใช่รึครับ แถมไอ้ 3-10 เหรียญเนี่ยมันก็มีช่วงแจกฟรีด้วย แต่ Android ดันไม่มีโดยเฉพาะเกมส์ ล่าสุดพวก Fruit Ninja, Collosatron เกมส์ค่ายนี้แจกฟรีใน iOS แต่ใน Android อดซะงั้น
ผมหมายถึงว่าแอพที่ทำได้ตามที่ผมต้องการมันไม่ฟรีน่ะครับ
บางเคสอาจจะเป็นที่ข้อจำกัดของ iOS เองด้วย (เรื่องการ Open With.. ไม่ได้)
ส่วนเรื่องแจกฟรี มันก็มีทั้งคู่แหละครับ แต่ตอนที่ผมได้ iPad มาใหม่ๆแล้วเริ่มหาแอพ มันไม่ฟรีน่ะ
ยังยืนยันว่าแอปของ iOS กับ Android ต่างกันคนละเหวครับ
ผมใช้ Android หาแอปฟรีดีๆ ใช้ไม่ได้เลย แต่ iOS ผมได้แอปฟรี (ที่เคยขาย) ทุกวัน แล้วก็เป็นแอปชั้นดีด้วย
นั่นสิครับ ผมเคยใช้แอนดรอยด์นะ หาแอพดีๆ ถูกใจไม่ได้เลย ต้องกลับไปใช้ไอโฟนอยู่ดี แพงหน่อยแต่ก็ยังดีมีของดีให้ใช้
ตอนนี้นะครับ เห็นแอนดรอยด์โฟนออกใหม่สวยๆ (SONY, HTC) อยากได้มั่งก็ไม่กล้าซื้อ ไม่ใช่เพราะหาแอพไม่ได้นะ
เพราะเสียดายเงินที่ซื้อคอนเทนต์ใน iOS จนตอนนี้เป็น "ทาสแอปเปิล" ไปแล้วครับ ไม่รู้จะทำไงเหมือนกัน :D
ถ้าตามความตั้งใจของจ๊อบส์เขาอยากให้สินค้าของแอปเปิลเป็นเหมือนรถยนต์เมอร์เซเดสนะครับ ซึ่งแน่นอนโตโยต้า ฮอนด้า ซูซูกิก็วิ่งได้เหมือนกัน
5c 14,000 เองนะครับผมว่าไม่แพงเลยประสิทธิภาพก็ไม่ได้ต่างกับ 5s มากถ้าไม่ติดว่าเป็นคนชอบจอใหญ่รุ่นนี้คุ้มมากครับ
เยี่ยมเลยครับ 8 กิ๊ก 16 กิ๊ก เลิกไปเลยดีครับ หน่วยความจำมันถูกลงเยอะแล้ว ขายราคาเดิมแต่เพิ่มเมมให้ลูกค้ามั้งอันนี้เห็นดีด้วยครับ
ใจผมนะมือถือขนาดไม่ควรเกิน 4.5-4.7 นิสุดๆและงะ 5.5 ว่าดีไมดีแต่ใหญ่เกินไปงะครับผมเรื่องขนาดความหน่วยความจำเห็นด้วยเพราะตอนนี้ 16 มองว่าน้อยเกินไปและงะครับเพราะตอนนี้ผมก็ใช้ 32 ดูโอเคสุดและครับ 64 ผมว่ายังเยอะเกินไปงะ
เรื่องหน่วยความจำเห็นด้วยถ้าจะเพิ่มขึ้นโดยคงราคาเท่าเดิมหรือแพงขึ้นนิดหน่อยไม่เกินหลักพัน เพราะ ใช้ i5 16gb อยู่ ลงได้แค่แอพฯสามัญ กับการถ่ายรูปที่ต้องคอยลบทิ้ง เพื่อให้เม็มเหลือเพียงพอ
ส่วนเรื่องหน้าจอตอนนี้ใช้ z1 รู้สึกว่าเทอะทะเกินไป ดังนั้นชอบจอเล็กๆมากกว่า ให้เหมาะกับการเป็นสมาร์ทโฟน ถ้าจะใช้จอใหญ่จริงๆ ก็ไป ipad เลยดีกว่า
เหมือนหลายคนเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ในข่าวบอกแค่ว่าจะไม่มีความจุ 16GB แล้ว แต่ไม่ได้บอกว่าจะขาย 32GB ในราคา 16GB เดิมนะ :-D
+1 หลายๆ comment แสดงความยินดีด้วย ผมอ่านต้นฉบับตั้งหลายรอบไม่เห็นมีบอกว่าจะขายราคาเดิมเลย
มิน่าๆ สื่อถึงบอกว่าแพงขึ้น 5555
ถ้าขายราคาเดิมมันก็เป็นการเอากำไรเกินควรหรือเปล่าครับ
ฮา..ดีครับ Apple เค้าขาย iPhone ในราคาที่แพงกว่า android เมื่อเทียบความเร็วและความจุมาตั้งนานแล้ว ถ้าเขาจะขายในราคาเดิม ด้วยความจุเท่าเดิม (และด้วยความเร็วที่มากขึ้นแต่แน่นอนว่าน้อยกว่า android) จะบอกว่าเป็นการเอากำไรเกินควรได้ยังไง
ที่จริงต้องบอกว่า Apple เอากำไรเกินควรมาตั้งแต่แรกแล้ว แต่ที่ตลกคือตลาดยอมรับมันเองต่างหาก :-D
32GB อยากให้ไม่เกิน 24k
ผมยังใช้ HTC One SV ที่มีความจุ 8GB อยู่เลย T^T
เริ่มมีปัญหา ความจุในเครื่องไม่พอแระ
โอยมี 32G นา แต่ ไม่เคยใช้เนื้อที่ถึง 50% เลยอ่ะ - -a คิดว่า 16G ยังควรมีอยู่
ผมว่าที่ทิ้ง 16GB เพราะจะอัพราคาแน่นอน (ทั้งๆที่หน่วยความจำ ต้นทุนมันไม่ได้แพงขนาดนั้น T^T)
ป.ล. ผมใช้แค่ 16GB พอ
:: DigiKin8 ::
หัวข่าวไม่ใส่ (ลือ) เหรอครับ
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.