Tags:
Node Thumbnail

ถึงแม้ Windows XP หมดระยะสนับสนุนและออกแพตช์ไปแล้ว แต่วินโดวส์รุ่นใกล้เคียงสำหรับงานเฉพาะทางอย่าง Windows Embedded POSReady 2009 ยังมีอัพเดตอยู่ เลยมีคนค้นพบว่าถ้าเข้าไปแก้ registry ของระบบให้จำลองตัวเป็น Windows Embedded ก็จะสามารถอัพเดตแพตช์ต่อไปได้ โดยเพิ่มไฟล์ .reg ที่มีข้อความสั้นๆ เท่านั้น

ตัวแทนของไมโครซอฟท์ออกมาชี้แจงกรณีนี้ว่า บริษัทรับทราบเรื่องการแก้ registry แต่ในความเป็นจริงแล้ว แพตช์เหล่านี้ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับ Windows XP โดยตรง ทำให้มีความเสี่ยงทั้งการอัพเดตแพตช์แล้วป้องกันรูรั่วไม่ได้จริง และอัพไปแล้วทำให้เครื่องใช้งานไม่ได้ ดังนั้นไมโครซอฟท์ยังแนะนำเหมือนเดิมคือให้อัพเกรดไปใช้ Windows 7 หรือ 8 แทนจะดีกว่า

ที่มา - ZDNet

Get latest news from Blognone

Comments

By: iCyLand
iPhoneAndroidRed HatUbuntu
on 2 June 2014 - 09:15 #709110
iCyLand's picture

Upgrade เป็น Windows 7 เกือบหมดแล้วครับ ที่ยังเหลืออยู่ใช้ Anti Virus ที่มีพวก Virtual Patching มาช่วยเบื้องต้นไปก่อน

By: HoLY CoMM@nDo on 2 June 2014 - 10:50 #709128
HoLY CoMM@nDo's picture

ปัญหาของผู้ใช้ Windows Desktop ในมุมมองของผู้ใช้ทั่วไปก็คือ Windows มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบทีละนิดเรื่อยๆ ทุก 3 ปี ทำให้คนที่ใช้ Windows แบบเดิมๆ ไม่ชินและไม่อยากอัพเกรด หลายคนก็อยากได้หน้าตา Theme Luna สีน้ำเงินเข้มตัดเขียวของปีสตาร์ตแบบ Windows XP ก็มีอยู่มาก (ผมล่ะคนนึง จนต้องหา Custom Theme มาลง Windows 7 และ 8 แต่ของ 8 ยังหาไม่ได้) ความง่าย ความรวดเร็ว ความไม่ซับซ้อนอะไรมาก มันจึงทำให้คนยังยึดติดกับ Windows XP แถมยังเครื่องที่รัน Windows 7, 8 ไม่ได้อยู่นั้น ก็ยังมีอยู่มากด้วย จึงไม่แปลกที่จะไม่อยากอัพเกรด (อย่าง Netbook Eee-PC 900A มันรองรับแค่ Windows XP Home เท่านั้น มันจะแรงจากไหนไปเล่น Windows 7, 8.x ต่อให้ลงได้ แต่รันเพลงกับวิดีโอก็กระตุกกระจายก็หมดสิทธิ์)

มองในมุมผู้พัฒนา หรือธุรกิจที่ต้องว่าจ้างให้ทำโปรแกรมเฉพาะของร้าน หากมีการว่าจ้างให้ทำโปรแกรมแบบครั้งเดียวแบบสมบูรณ์ ก็จะใช้ได้เพียง Windows ตัวนั้นๆ เท่านั้น หาก Windows ตัวใหม่เข้ามาแล้วไม่รองรับโปรแกรมเฉพาะทางนี้นั้น ก็ตายครับ เพราะการพัฒนาโปรแกรมหนึ่งๆ นั้น ค่าใช้จ่ายสูงมาก แล้วจะเปลี่ยนไปทำไม? ในเมื่อ Windows ที่ใช้อยู่ ไม่มีปัญหา จึงยังคงทำให้มีผู้ใช้ Windows XP กันต่อไปนั่นแหละ

ผมคิดว่าจะทำให้ Windows XP เหลืออยู่ใช้ต่ำกว่า 10% ก็ใช้เวลานานมากๆ หรือเป็นไปได้ยากเลยด้วยซ้ำ ก็เพราะช่วงอายุการใช้ Windows มันยาวกว่า Windows อื่น ทำให้โปรแกรมที่ถูกพัฒนาบน Windows XP มีเยอะมากกกกก จึงแปลกใจอะไรที่มันจะล้มหายตายจากได้ง่าย

ถ้า Microsoft ทำอุดจุดด้อยพวกที่เกล่ามาได้ หรือทำให้รองรับเทคโนโลยีเก่าไปพร้อมๆ กับเทคโนโลยีใหม่ๆ มันจะดีกว่านี้ แถมดึงพวกที่ไม่อยากอัพเกรด Windows เพราะโปรแกรมใช้ไม่ได้ มาได้ด้วย แล้วถ้าทำให้รองรับ Theme เก่าๆ ระดับ Windows XP และรองรับ Aero Glass ที่ใน Win 8.x ถูกตัดออกไป ก็จะดีมาก โดยใช้โหมดอย่างง่ายในการปรับแต่งให้เหมือนกับ Windows แต่ละเวอร์ชั่นบน Windows 8.x ก็จะดึงผู้ใช้หน้าเก่ามาได้อีก

ป.ล. การที่ Mac OS มันไม่เปลี่ยน UI เลยก็เพราะแบบนี้ด้วยล่ะมั้ง กันผู้ใช้งานสับสน เพราะเห็นกี่เวอร์ชั่นกี่เวอร์ชั่นก็หน้าตาแบบเดิมตลอด

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 2 June 2014 - 11:37 #709143 Reply to:709128
hisoft's picture

ถึง XP mode มันจะไม่ค่อยสมบูรณ์ แต่ผมว่าไมโครซอฟท์น่าจะยังคงใส่มาใน Windows 8.x ด้วยนะ

By: HoLY CoMM@nDo on 2 June 2014 - 13:23 #709169 Reply to:709128
HoLY CoMM@nDo's picture

อ้อ... อีกข้อที่ทำให้ไม่ค่อยอยากจะเกรดไป Windows ที่ใหม่กว่า ก็คือมันต้อง "จ่ายเงินซื้อ Windows" มาติดตั้งครับ

ถ้ามันแจกฟรีเหมือน Android, iOS, Mac OS, Linux ใครก็อยากอัพครับ (แต่ก็ไม่ใช่ทุกกรณีนะ เพราะบางทีอัพ OS แล้วมีปัญหาก็ไม่ค่อยมีใครอยากอัพเกรดกันหรอก จนกว่ามันจะเสถียร) การที่อัพเกรด Windows แล้วต้องจ่ายเงินหลายพัน คนที่มีเงินแล้วไม่ข้อผูกพันกับโปรแกรมที่ใช้ ก็ไม่มีปัญหาเรื่องการอัพเกรด Windows ไปตัวใหม่เท่าไหร่ แต่คนที่ทำธุรกิจนั้น มันเท่ากับต้องจ่ายเงิน 2 เด้ง เด้งแรกคือจ่ายเงินเพื่อให้นักพัฒนาโปรแกรมทำให้โปรแกรมรองรับ Windows ตัวใหม่ เด้งที่ 2 คือจ่ายเงินซื้อ Windows เพื่อมาอัพเกรด ทำให้เกรดการต่อต้านคำแนะนำของ Microsoft กลายๆ ไปแล้ว (ยกตัวอย่างเช่นพี่จีนที่จะเปลี่ยนจาก Windows XP ไปใช้ระบบ Linux)

คงต้องดูกันต่อไปยาวๆ ว่า Windows 9 หรือ 10 หรืออะไรก็ตามแต่ จะมีการปรับเป็นใช้ Windows ฟรีหรือไม่ แล้วไปหารายได้จาก Windows Store แบบที่ Apple ทำ หรือแม้แต่โมเดล Google คือแทรก Ads ตามจุดต่างๆ

By: Orion
Windows PhoneAndroidWindows
on 2 June 2014 - 13:59 #709175 Reply to:709169
Orion's picture

ผมว่า Windows ทำแบบ OSX นั่นยากเพราะกำไรส่วนหนึ่งของ Apple มาจากการขาย"เครื่อง"ครับ

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 3 June 2014 - 01:50 #709523 Reply to:709175
hisoft's picture

อีกหน่อยก็ไม่แน่นะครับ ขายสิทธิ์การใช้งานเครื่องเดียว อัพถึงไหนถึงกัน

By: Meow-Meow
ContributoriPhoneWindows PhoneAndroid
on 2 June 2014 - 17:01 #709320 Reply to:709169
Meow-Meow's picture

Android ให้ใช้ฟรีจริง แต่ถ้าจะใช้ Google Service ผู้ผลิตต้องจ่ายตังให้กับ Google เปนค่า License ครับ ถ้าไม่จ่ายก้อไปทำ Service กันเอาเอง เหมือนกับ Nokia X/XL แต่อย่าง MacOS ,OSX หรือ iOS นั่นคือคุณจ่ายค่าเครื่องพร้อมค่า License ของ OS ครับ แต่อย่าง Windows นั่นคือคุณจ่ายค่า License ของ Windows ครับไม่รวมค่า Hardware

ลองเอา Hardware ที่มี spec ใกล้เคียงกัน ระหว่าง Mac กับ PC มาเทียบกัน PC จะถูกกว่า Mac เกือบครึ่งนึง ซึ่งต่อให้คุณบวกค่า License ของ Windows แล้วก้อยังถูกกว่าอยู่ดี

คนไทย(บางคนและหลายคน) มักจะบอกว่าค่า License ของ Windows แพงมาก แต่พอถามเข้าจิงๆ ว่า version ไหน ซึ่งส่วนใหญ่จะได้คำคอบว่าเปน Professional จนถึง Ultimate หรือ Enterprise แต่พอเอาตาราง Feature มากาง กลับใช้แค่ Home Edition แค่นั้น

Microsoft แบ่ง Edition ออกมาได้ครอบคลุมต่อการใช้งานแล้ว เลือกให้เหมาะกับการใช้งาน มันจะลดค่าใช้จ่ายลงได้เยอะครับ

ส่วนตัวแล้วใช้ที่บ้านเครื่องเดียว Home Premium กล่องนึง 4-5000 บาท ใช้กันเกือบสิบปี จนมัน End of Support นี่ ถือว่าถูกมากครับ ถูกกว่าค่าเหล้ามื้อนึงอีก


Destination host unreachable!!!

By: skuma
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 2 June 2014 - 11:10 #709136
skuma's picture

อ่านตอนสุดท้าย เหมือนขายองมากกว่า เลยแฮะ

By: obnetarena
Windows PhoneWindows
on 2 June 2014 - 14:12 #709178

เท่าที่ผมทราบคืออัพเดตส่วนใหญ่ก็เพราะเรื่องความปลอดภัย ถ้าในเรื่องนี้เราไม่ได้สนใจอะไร ก็ไม่เห็นจะต้องแคร์เนอะครับ
เพราะไหนจะค่าโปรแกรมที่ต้องจ้างเขียนใหม่ (กรณีที่เขียนยึดกับ Windows ไปเลย) หรือจะค่า Windows ตัวใหม่

บางทีอาจจะยอมเสียเงินกับ Anti Virus สักตัวแทนก็ได้มั้งนะครับ
แต่สำหรับผม ผมซื้อ Windows 8.x นะเพราะใช้แล้วชอบมาก ง่ายกว่า Windows XP มาก
แทบไม่ต้องตั้งค่าอะไรเลย แถมพอซื้อเครื่องใหม่ หรือลง Windows ใหม่ เปิดปุ๊บลงชื่อ MS Account เราค่าเดิมที่เคยตั้งกลับมาหมดเลยลดเวลาไปได้มากครับ

ส่วนซอฟต์แวร์ที่ผมใช้ส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาเรื่อง Run บน Windows 8.x ไม่ได้
ถ้ามีปัญหาก็เลือก run compatibility mode ก็จะใช้ได้แล้วล่ะครับ

คงจะโชคดีที่ผมไม่ได้ใช้ซอฟต์แวร์เฉพาะทางมากนัก