Tags:
Node Thumbnail

ผู้อ่าน Blognone คงคุ้นชื่อ Red Hat ในฐานะผู้นำของวงการลินุกซ์ที่ได้ดิบได้ดีจนเป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ของสหรัฐ ถึงแม้ว่าระยะหลัง Red Hat จะขยายธุรกิจออกมาด้านอื่นๆ นอกเหนือจากระบบปฏิบัติการเพียงอย่างเดียว แต่ภาพในใจของเราก็มักมองว่า Red Hat ทำลินุกซ์อยู่ดี

ในโอกาสที่ผู้บริหาร Red Hat มาแถลงข่าวด้านธุรกิจในประเทศไทย (พร้อมกับลูกค้าในไทยคือธนาคารกรุงศรีฯ) ผมเลยไปร่วมคุยเพื่อดูว่าตอนนี้ Red Hat ไปถึงไหนบ้างแล้ว จากบริษัทที่มีต้นกำเนิดจากลินุกซ์ ปัจจุบันทำอะไรอยู่บ้าง

alt="Damien Wong"

คุณ Damien Wong ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคอาเซียนของ Red Hat บินจากสิงคโปร์มาแถลงข่าว

สถานะปัจจุบันของ Red Hat

Red Hat เป็นบริษัทซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สบริษัทเดียวที่มียอดขายเกินพันล้านดอลลาร์ ปัจจุบันเน้นตลาดซอฟต์แวร์องค์กร โดยผลักดันให้ใช้ระบบไอทีกับงานระดับ mission critical

  • มีลูกค้าครอบคลุม 90% ของบริษัทใน Fortune 500
  • บริษัทมีสาขาใน 33 ประเทศ, สำนักงานรวม 75 แห่ง
  • ได้รับรางวัลบริษัทนวัตกรรมอันดับ 4 ของ Forbes

ผลิตภัณฑ์ของ Red Hat ตอนนี้ครอบคลุมทั้งฝั่งระบบไอทีภายในองค์กร และระบบไอทีบนกลุ่มเมฆ

ฝั่งระบบไอทีภายในองค์กร มีครบตั้งแต่ระบบปฏิบัติการ RHEL, สตอเรจ Red Hat Storage Server, มิดเดิลแวร์ JBoss และซอฟต์แวร์บริหารจัดการระบบ ปัจจุบัน Red Hat มีส่วนแบ่งตลาด 62% ของเซิร์ฟเวอร์ลินุกซ์ นับตามจำนวนเครื่อง และ 73% ถ้านับจากรายได้

แพลตฟอร์มกลุ่มเมฆของ Red Hat ในปัจจุบันแบ่งเป็น 3 ระดับคือ

รูปแบบการขาย OpenShift และ CloudForms คือขายโซลูชันให้กับ cloud provider อีกต่อหนึ่ง ปัจจุบันตัวอย่างลูกค้าด้านกลุ่มเมฆในไทยตอนนี้คือ TCC Technology (TCCT) ผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลรายใหญ่ (บริษัทในเครือไทยเบฟ)

ผลิตภัณฑ์ของ Red Hat แบ่งเป็น 5 ระดับ หรือ 5 business unit ได้แก่

  • Platform
  • Middleware
  • Storage
  • Cloud
  • Virtualization

Red Hat ยังไม่สนใจขยายธุรกิจไปยังระดับแอพพลิเคชันในลักษณะของ ERP หรือ CRM เน้นที่ตัวโครงสร้างพื้นฐานของระบบมากกว่า

No Description

ทิศทางธุรกิจ

Red Hat มองว่า CIO และแผนกไอที กำลังกลายเป็นแผนกหลักที่ขับเคลื่อนกลยุทธ์ของธุรกิจ ทิศทางของระบบไอทีองค์กรที่ตลาดกำลังให้ความสนใจมี 2 แนวทาง คือ

  • cloud + mobility เปลี่ยนวิธีการทำงานของคนในองค์กรไปจากเดิม ทำให้องค์กรเองก็ต้องปรับตัวตามด้วย
  • social + collaboration ตรงนี้ open source และ open standard จะเข้ามามีบทบาทสูง

สำหรับตลาดประเทศไทย Red Hat จะเน้นอุตสาหกรรมที่เป็นแนวดิ่ง (vertical หรืออุตสาหกรรมที่มีแนวทางทางทำธุรกิจเฉพาะของตัวเองมากๆ) ได้แก่ การเงินการธนาคาร, โทรคมนาคม, หน่วยงานภาครัฐ ส่วนพาร์ทเนอร์ในไทยก็มีหลายระดับทั้งระดับฮาร์ดแวร์ ระดับช่องทางการขาย ระดับการขายโซลูชัน ระดับของซอฟต์แวร์องค์กร

ตลาดอาเซียนในภาพรวมก็ไปในทิศทางเดียวกันคืออุตสาหกรรม vertical โดยเน้นการขายโซลูชันไอที ไม่ใช่แค่ตัวเทคโนโลยี

กรณีศึกษา: ธนาคารกรุงศรีฯ

No Description

คุณ Guy Deffaux รองประธานฝ่ายโครงสร้างพื้นฐานไอที ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เล่าว่าธนาคารกรุงศรีถือเป็นธนาคารขนาดใหญ่เป็นอันดับห้าของไทย พนักงาน 18,000 คน จำนวนสาขา 605 สาขา เอทีเอ็ม 4,278 ตู้ โดยรวมถือว่ามีระบบไอทีขนาดใหญ่พอสมควร

เดิมทีระบบของกรุงศรีรันบนเมนเฟรม แต่กำลังย้ายมาอยู่บนระบบเปิด ซึ่งปัจจุบันย้ายมาแล้วประมาณ 80%

ปัญหาของกรุงศรีคือมีแอพพลิเคชันองค์กรเยอะ หลากหลาย สร้างโดยนักพัฒนาหลายทีมหรือหลายบริษัท การสนับสนุนจึงยากเพราะระบบซับซ้อน ทางทีมไอทีจึงพยายามแก้ปัญหานี้ เริ่มจากการกำหนดโจทย์ 3 ข้อ

  • มองผู้ใช้ของระบบไอทีเป็นทั้งพนักงานภายในและลูกค้าภายนอกที่ต่อเชื่อมเข้ามาผ่านเน็ต ดังนั้นบริการต้องดี อัพไทม์ต้อง 100%
  • ลดต้นทุนของระบบไอทีลง
  • กระบวนการพัฒนาแอพต้องใช้เวลารวดเร็วกว่าเดิม เพราะสายธุรกิจต้องการแอพใหม่ๆ ทุกเดือน

ยุทธศาสตร์ที่เลือกใช้

  • ลดภาษาที่รองรับเหลือแค่ .NET หรือ Java ซึ่งกรณีของ .NET นั้นง่ายเพราะเป็นไมโครซอฟท์ ส่วน Java เลือกใช้ 2 โซลูชัน โดยหนึ่งในนั้นคือ JBoss Enterprise Application Platform (JBoss EAP) ของ Red Hat (เหตุผลที่เลือกเป็นเพราะกรุงศรีเคยใช้ JBoss รุ่นฟรีมาก่อนแล้ว และพบว่าเป็นโซลูชัน Java ที่มีคุณภาพดีที่สุดในตลาด)
  • โครงสร้างพื้นฐานที่ consolidated เอาแอพทั้งหมดขององค์กรไปรันบน private cloud ขององค์กรเอง ช่วยให้ระบบเซิร์ฟเวอร์มีประสิทธิภาพ เข้มแข็งและบริหารได้ง่ายขึ้น

เดิมทีซอฟต์แวร์องค์กรยังไม่ค่อยสนับสนุน JBoss มากนักทำให้มีปัญหาอยู่บ้าง แต่ปัจจุบันซอฟต์แวร์ส่วนใหญ่ใช้กับ JBoss ได้แล้ว ที่ผ่านมา JBoss เสถียรมากและยังไม่เคยมีปัญหาจากระดับมิดเดิลแวร์ (JBoss) เลย

Get latest news from Blognone

Comments

By: nextman13
AndroidBlackberryUbuntuWindows
on 26 April 2013 - 14:09 #566275

ไม่เคยใช้ jboss ครับเคยใช้แต่ tomcat แต่ถ้าใช้ jboss เวลาเขียน app นี่มันจะอืดมากไหนนี่

By: easyduck
iPhoneAndroidRed HatWindows
on 26 April 2013 - 20:36 #566407
easyduck's picture

ตอนนี้ก็ใช้ jboss + apache อยู่บน redhat5 ครับ ;) ดีนะ

By: narok119
ContributoriPhone
on 26 April 2013 - 23:46 #566455

ที่บริษัทใช้ JBoss (EAP) อยู่เหมือนกัน ยังไม่พบปัญหาที่เกิดจากตัว JBoss เลยนะ