By: lew 
on 16 January 2013 - 14:39
Tags:
บริษัท Verizon Enterprise Solution (บริษัทไอทีในเครือ Verizon) อนุญาตให้พนักงานบางส่วนทำงานที่บ้านได้ แต่ต้อง VPN แบบ two-factor authentication ที่ใช้ตัวสร้างรหัสผ่านชั่วคราวเสมอ ปรากฎว่าแม้จะป้องกันขนาดนี้แล้วก็ยังพบว่ามีการล็อกอินเข้ามาจากประเทศจีน แถมล็อกอินสำเร็จจึงลงมือสอบสวนโดยคาดว่าจะมีมัลแวร์ที่มุ่งโจมตีพนักงานของบริษัททำให้เครื่องของพนักงานถูกบังคับให้เชื่อมต่อไปยังประเทศจีนเพื่อล็อกอินกลับเข้ามา โดยเรียกชื่อสมมติพนักงานว่า "Bob"
ทีมสอบสวนเข้าตรวจสอบไฟล์อิมเมจของฮาร์ดดิสก์ แต่กลับพบไฟล์ PDF นับร้อย เป็นสัญญาจ้างโปรแกรมเมอร์จากประเทศจีน จนสรุปได้ว่าตลอดเวลาที่ทำงานมา Bob ไปว่าจ้างโปรแกรมเมอร์ในจีนให้ทำงานแทนตัวเอง โดยส่ง token ของบริษัทไปให้โปรแกรมเมอร์ในจีนทางไปรษณีย์
เงินเดือน Bob นั้นอยู่ในหลักแสนดอลลาร์ต่อปี รายงานฝ่ายบุคคลระบุว่าเขาเป็นโปรแกรมเมอร์ชั้นเยี่ยม มีความเชี่ยวชาญภาษา C, C++, Perl, Java, Ruby, PHP, Python, และภาษาอื่นๆ โค้ดของเขาสะอาดและส่งงานได้ตรงเวลา
ค่าจ้างที่เขาจ่ายให้โปรแกรมเมอร์ชาวจีนนั้นไม่ถึง 1 ใน 5 ของเงินเดือนที่เขาได้รับ ยิ่งกว่านั้น จากการสอบสวนยังพบว่าเขาทำงานหลายที่พร้อมกันและส่งงานให้ชาวจีนในแบบเดียวกัน รวมเงินที่เขาจ่ายไปยังประเทศจีนมากกว่า 50,000 ดอลลาร์ต่อปี ขณะที่ตัวเขาเองได้รับเงินเดือนปีละหลายแสนดอลลาร์
ที่มา - Verizon Business Security Blog
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
ป๊าดดดดดดดด
อย่างนี้ก็เรียกว่าใช้เงินทำงาน แต่ดูโกงๆ ไปนิด ;p
ยังอุตส่าห์ขี้เกียจเนอะ = =
จับเสือมือป่าวซินะ
เมพฟะ
แล้ว Bob ก็ตกงาน โปรแกรมเมอร์ชาวจีนได้งานแทน :P
อย่างนี้ที่เขาเรียกว่ากระจายรายได้สินะ o_O
เทพขิงๆ ไปเป็นนักบริหารดีกว่าแบบนี้
เหมือน sub contract สินะ
ผมว่าก็ไม่ผิดนะ มันก็เป็นความสามารถของเค้าที่หาตัวคนเขียนเก่งและไม่เลทได้
May the Force Close be with you. || @nuttyi
เขาเป็นโปรแกรมเมอร์น่ะสิครับ ไม่ใช่ฝ่ายบุคคล - -
แต่มันก็ win-win-win ? ถ้าไม่นับเรื่องความลับบริษัทน่ะนะ
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ปกติสัญญาจ้างงานแบบนี้ ไม่ใช่สัญญารับช่วงครับ
เค้าจะมีอยู่แล้วว่าอนุญาตให้ sub งานไปให้คนอื่นทำได้หรือไม่
ซึ่งถ้าเค้าให้จ้างไปทำแบบไหนก็ได้ เค้าก็จ้าง vendor มาสับงานออกไปครับ
ไม่ใช่มาจ้างพนักงานประจำแบบนี้
ผมเลยนึกไม่ออกว่า จะมองว่า win-win-win ได้ด้วยอะไร
เหมือนเราไปซื้อ ซาลาเปาวราภรณ์ เพราะร้านนี้ทำ ซาลาเปาอร่อย สูตรของร้าน คุณเลยไปจ้างร้านวราภรณ์ให้เอาซาลาเปามาเสีร์ฟในงานเลี้ยง เพราะเชื่อมั่นในรสชาติและสูตรประจำร้าน แต่มาเจอว่า วราภรณ์เอาซาลาเปาเจ้าอื่นมาส่ง ไม่ได้ทำเอง
แล้วถ้า ซาลาเปา ก็อร่อยเหมือนกัน แขกในงานก็ชอบ วราภรณ์ก็ประหยะดต้นทุน คุณก็ไม่ได้เสียอะไร
พอคุณจับได้ วราภรณ์บอกว่า วิน วิน วิน น่าอาตี๋ อย่าคิดมาก
คุณจะยอมไหมครับ
ในเคสซาลาเปาผมว่าผมจะไม่ต่อว่าเขานะ แต่จะไม่สั่งกับเจ้านี้แล้ว ไปสั่งกับคนทำตรงๆเลยประหยัดเงินเรากว่า
แต่ในกรณีของการเขียนโปรแกรมมันมีความลับบริษัทอยู่ด้วย คงไม่ win-win-win แน่ๆครับ
ขายความลับบริษัท...
:-)
ฉอเคถ้าเซ็นสัญญาลักษณพนั้นไว้ก็ผิดแหละ
May the Force Close be with you. || @nuttyi
+1
ข้อความพื้นฐานของสัญญาจ้างงานเลย เรื่องการรักษาความลับบริษัท
คิดว่าปัญหาสำคัญที่สุดคือความลับบริษัท แล้วถ้า Bob ทำ NDA กับโปรแกรมเมอร์จีนไว้ด้วยล่ะ ครอบคลุมมั้ย?
If 'Bob' were me, he would get sue because of illegal activities (I'm working with financial data that cannot be access outside Canada, and accessing sensitive data from outside the country is considered crime.).
ว่าแต่สุดท้ายโดนไล่ออกมั้ย?
โดนแน่ๆ break security policy
โดนเพราะแหก โพลิซี แน่ๆ
เหมือนจะมักง่ายไปหน่อย แทนที่จะทำหน้าที่รวบรวมโปรแกรมไว้ที่ตัวเองก่อนส่งงานกลับให้คนจีนล็อกอินเข้ามาส่งงานเอง
น่าจะให้โปรแกรมเมอร์จีน remote มาที่เครื่องตัวเองที่ต่อ VPN ไว้
+1 ตั้ง server โลด
ตั้ง source control ไว้สักเครื่องกันโค้ดตีกันแล้วค่อย pull ลงมาส่งเองก็ได้
ไม่น่าพลาดง่ายๆแบบนี้เลย = =
50,000 ดอลลาร์ต่อปี คิดเป็นเงินไทยก็ 1.4 ล้าน ตีเป็นรายเดือนก็ เจ็ดหมื่นกว่าก็ยังเยอะอยู่ดี
นั่นรวมทุกคนที่เค้าจ้างนะครับ
1.4 ล้าน / 12 มันต้อง แสนกว่านิคับ
Verizon เลิกจ้าง Bob และไปจ้างชาวจีนแทนโดยให้เงินเพิ่นิดหน่อย
ความเหลื่มล้ำ ทำให้พ่อค้าคนกลาง ได้เปรียบเสมอ
ผิดข้อเดียว คือไม่แจ้งบริษัทว่าทำอะไรอยู่ ตั้งแต่แรก
ถ้ามันเวิร์คงี้ ก็น่าตั้งแผนก outsource ใหม่ให้ตานี่เลย
แต่ก็จะเสียวินัย เดี๋ยวคนอื่นแอบทำเงียบๆบ้าง ระบบเละพอดี
Bob ได้เหนาะๆ เฉลี่ย 2.5แสน/เดือน ให้อาตี๋ซัก 7.5 หมื่น จะเป็นไรไป๊
Verizon เลยไล่ Bob ออกแล้วจ้างโปรแกรมเมอร์จีนที่ Bob จ้างไว้ต่อ รดต้นทุนได้ดีเลย 55555
บางทีอาจได้เลื่อนงาน มาเป็น project manager ใครจะไปรู้
+1 เลย ฝีมือแบบนี้หายาก ยิ่งเขารู้จักแต่คนจีนเก่ง ๆ ด้วย
คำตอบของข้า คือ ประกาศิต
สงสัยถ้า Bob โดนไล่ออกคงเปิดบริษัทมาทำ Out Source แข่งกับอินเดียเลยมั้ง? ใช้ programmer จีนนี่แหละ
โดนไล่ออกแน่ ๆ
แต่พี่แกอาจพลิกวิกฤติเป็นโอกาส
เปิด บ.หา OutSource ให้คนทำงานซะเลย
มีสื่อรับรองคุณภาพอยู่แล้ว
กิจวัตรประจำวันของบ๊อบ
9:00 a.m. – ถึงออฟฟิศตรงเวลา เล่น Reddit บ้าง ดูคลิปแมวเหมียวบ้าง
11:30 a.m. – พักรับประทานอาหาร
1:00 p.m. – เล่นอีเบย์บ้าง
2:00 – อัพเฟซบ้าง เล่นลิงค์อินบ้าง
4:30 p.m. – หมดวัน เขียนอีเมลส่งเจ้านาย
5:00 p.m. – กลับบ้าน
ทำงานทั้งวันได้ 1500 เดินไปเดินมารับ 5000
เอิ่ม... อายุ
1500 เยอะกว่ารายได้ต่อวันผมเยอะเลยครับ ผมยังไม่เข้าใจเพลงนี้เลย - -"
May the Force Close be with you. || @nuttyi
อย่างน้อยเค้าก็ทำงานเนาะ
แต่ท่าน ผู้หลักบักใหญ่บ้านเรา โดดงานเป็นว่าเล่น
น่าสงสารองค์กรที่จ้างคนแบบนี้เนอะ 555
แว๊บแรกที่เข้ามาในหัวก็คือ Bob Lee Swagger
ว้าววว เป็นสุดยอดการจัดการที่ดีเยี่ยม
อยากทำบ้างจัง
เหมือนเคยได้ยินว่า มี messenger ประจำของบางบ.ก็ไม่ทำงานเอง
แอบจ้างมอไซค์รับจ้างที่ไว้ใจได้ให้ไปส่งให้อีกที
Bob เจอ Alice จับได้ซะแล้ว
ไล่บ๊อบออก แล้วตาตัวคนจีนทุกคนที่มันจ้างมาแทน แล้วเพิ่มให้อีกคนละ 10000 ดอลล่า
เขาควรจ้างช่วงต่อ แบบไม่ผ่านเครือข่ายของบริษัทครับ
เรื่องการบริหาร เข้าขั้นกระล่อนชั้นโปร
เจ๋งโพดๆ อยากทำมั่งจัง 555
....