ใกล้ถึงเวลาเปิดตัวเครื่อง Wii U แล้ว นินเทนโดก็เริ่มปฏิบัติการแก้ไขปัญหาเดิมสมัย Wii หนึ่งในนั้นคือเกมจากนักพัฒนาภายนอกที่ไม่ค่อยเป็นจุดเด่นมากนัก เมื่อเทียบกับคู่แข่ง
ปัญหาที่ทำให้นักพัฒนาภายนอกไม่เลือก Wii เป็นแพลตฟอร์มแรกๆ ที่จะทำเกมลงก็คือฮาร์ดแวร์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร และสเปคที่ต่ำกว่าคู่แข่งในขณะนั้น ซึ่งในเรื่องหลังได้ถูกแก้ไปแล้วใน Wii U
ส่วนเรื่องแรก Shigeru Miyamoto นักพัฒนาเกมของนินเทนโดให้สัมภาษณ์กับ IGN ว่าตัวเขาเองเดินทางไปพบกับนักพัฒนาภายนอก เพื่อชักชวนให้มาทำเกมลงบนแพลตฟอร์มของ Wii U โดยแนะนำฮาร์ดแวร์ และช่วยเหลือนักพัฒนาที่สนใจแพลตฟอร์มว่าสามารถทำอะไรได้บ้างอีกด้วย
คงต้องรอดูว่าเกมนอกเครือนินเทนโดหลัง Wii U เปิดตัวแล้วจะมีเจ๋งๆ ออกมาบ้างไหม
ที่มา - IGN
Comments
นักพัฒนาภายนอกไหนหรอครับ
น่าจะหมายถึงทุกบริษัทที่ไม่ใช่บริษัท ปู่นินและในเครือครับ
ถ้าตามความเข้าใจคือเกมที่นอกเหนือจาก Mario กับ Zelda หรือเปล่าหว่า ???
จากแต่ละแพลตฟอร์มที่ออกมาก่อนหน้า ก็มีหลากค่ายหลายบริษัทมาร่วมทำอยู่นะ
ผมเลยนึกไม่ออกว่า ภายนอก ไหนอีกน่ะครับ
คิดว่าเป็นแนวนักพัฒนาแบบอินดี้ซะอีก
นึกภาพพวก Indie Game บน Xbox Live ครับ
ถ้าไม่ออกมาริโอ้ กับเกมเทพนิน มากินส่วนแบ่งตลาด ก็คงจะมีเยอะกว่านี้คับ ^^
นักพัฒนาคิดว่า ทำไมต้อง WiiU ทำไมไม่ชื่อ Wii2
ปล. มั่วไปงั้นแหละ อนาคต อาจเหลือแค่ wii vs xbox ก็ได้
ผมรู้สึกว่า wiiU จะแป๊กนะ ตั้งแต่เห็นครั้งแรกละ มันขาดๆเกินๆอะ
หรือผมคิดไปเอง ?
ผมคิดว่า wiiU จะเป็นอย่างไรอยู่ที่ ps ที่จะออกต่อไปคือ ถ้ามันล้ำมากๆ ps ก็ชนะ ถ้ามีแต่ hardware แรง แต่มีแต่เกมที่ใช้ฮาร์ดแวร์ไม่ถึง หรือ เกมสมัยนี้ไม่ได้กินเสปคเยอะเพราะต้องการทำ multi ก็คิดว่า wiiU อาจจะทิ้ง ps ขาดลอย จน ps หมดยุค เหมือน vita ผมคิดว่าฮาร์ดแวร์ระดับปัจจุบัน เพียงพอเหลือเฟือ สำหรับเกมแทบทุกเกมที่สามารถขายได้ เกมบางเกมแทบไม่ได้ใช้ฮาร์ดแวร์แรงๆ แต่สนุกกว่าเกมที่กินเสป็คเยอะๆ ตัวอย่างก็จากเกมจากนินเทนโดเอง
ผมว่าทำไมเกมต้องภาพสวยมันก็มีเหตุผลนะ กราฟิกเป็นสิ่งเดียวที่ดึงดูดลูกค้าในครั้งแรกได้ง่ายกว่าเกมที่มีภาพที่ธรรมดาไม่แตกต่างไปจากเกมดาษตามท้องตลาดทั่วไป ในขณะที่เกมเพลย์จำเป็นต้องเล่นเองหรือดูรีวิวแล้วจะรู้ ยกตัวอย่างเช่นเกมอย่าง Final Fantasy ภาคหลังๆที่กราฟิกสวยมาก แต่เมือได้ลองเล่นแล้ว มันก็มีหลายเหตุผลที่ทำให้เกมเมอร์เกลียด บางคนอาจชอบเกมแบบยิงๆกันสะใจ บางคนอาจชอบเกมที่ต้องใช้สมอง บางคนอาจชอบคัทซีนเร้าอารมณ์ ในขณะที่บางคนขอให้ข้ามๆไปเพื่อให้ได้เล่นเกมก็พอ
สุดท้ายผมว่ากราฟิกเป็นสิ่งไม่กี่อย่างที่คอเกมส่วนใหญ่เห็นพ้องว่าควรจะทำให้มันสมยุค ให้พวกเขาได้ใช้ฮาร์ดแวร์ของตัวเองได้เต็มประสิทธิภาพ
เห็นด้วยกันสองรีบน
ผมว่ามันอยู่ที่กลุ่มคนเล่นเกมส์มากกว่า เราอยากเราตัวเราเป็นตัวกำหนดครับ นินเทนโดกลุ่มเกมส์เมอร์เค้าก็กลุ่มนึ่ง ps ก็อีกกลุ่ม ผมว่ามันเทียบกันม่ได้ เพียงแต่ว่า ค่ายแต่ละอย่างเนี้ยจะหาจุดได้เปรียบมาสู่ในตลาดได้หรือเปล่า อย่างตอน wii ออกเนี้ย จำได้เลยนะ เครื่องราคา 9000 แต่ในไทยราคา 30000 พอๆกับ ps 3 เลยนะเพราะจำได้ว่า ps ก็เกือบ2หมื่นแต่ขาย 30000
Vita เล่น PlayStation Mobile ได้ครับ ซึ่ง PlayStation Mobile มีบน Android
คิดใช้ Android นี่ฆ่าตัวตายเรื่อง Piracy ชัดๆ ครับ ไม่แปลกที่จะพัฒนาระบบปิดของตัวเอง แต่มันก็เป็น Unix ตัวหนึ่งซึ่ง Dev มาจาก FreeBSD
+1 อาจจะด้วยเพราะ Android เป็น Linux ซึ่งจะถูกบังคับเปิดซอร์สในส่วนระบบปฎิบัติการณ์ ดังนั้นการถูกแฮคมันจะง่ายกว่าระบบอื่นประมาณนึง และไม่มีจุดแข็งแบบ Linux เพราะว่าคงไม่เปิดรับ patch จากภายนอก
ส่วน BSD ไม่มีข้อบังคับตรงนี้ ดังนั้นก็เลยไม่มีปัญหาตรงนี้ OS X เองก็ไม่ได้เปิดซอร์สครับ
+1 ผมกลับเห็นด้วย และเห็นแบบนี้มานานแล้ว ว่าควรใช้ android เป็นฐาน เพื่อใช้ประโยชน์จาก ecosystem ของ android ดันยอดขาย ตัว Sony เองก็ทำเฉพาะ Market ไป (การกลัว Piracy เกินไป ไม่ใช่ทางออก เพราะคนซื้อเขาก็จะซื้อ คนไม่ซื้อเขาก็จะเถื่อน ถึงเป็นตัว PS Vista เองเดี๋ยวก็โดน ระบบปิดไม่ได้ช่วย) ผมจะรอดูว่า ปู่นิน กับ Sony ใครจะไป android ก่อนกัน (แนวโน้ม Sony มีสูงกว่า) เรื่องชวนนักพัฒนาภายนอกของปู่นินคงชวนยาก ตอนนี้เขาแค่ทำเกมลง ios android win8 ก็งงเป็นไก่ตาแตกแล้วครับ ยังจะต้องมาทำลง WiiU กับ PS Vista อีกนี่ 5 platform นรกชัด ๆ
ปกตินักพัฒนาเกมส์เขาไม่ได้ใช้ทีมเดียวพัฒนา Multi Platform ครับ ส่วนใหญ่แพลตฟอร์มอื่นที่ไม่ได้อยู่ในความชำนาญของตน จะจ้าง Outsource มาทำ ซึ่งบางครั้งก็เปลี่ยน Engine หรือเนื้อหาใหม่ไปเลย ไม่ได้เป็นการพอร์ตมาจากเกมส์เวอร์ชันหลัก (ซึ่งหลายครั้งเราจะพบว่าเวอร์ชันที่ทำออกมาโดย Outsource นั้น ห่วย เพราะไม่ได้มอบ Experience ที่เป็นแบบเดียวกับภาคหลัก)
มีแต่ User นะหล่ะครับที่คิดว่าอยากได้ แต่ Dev ถ้าต้องทำเกมส์ที่อยู่บนแพลตฟอร์มที่ Hack ได้ง่ายๆ ก็คงส่ายหัวไม่ทุ่มเงินมหาศาลทำ Project เกมส์ใหญ่เป็นอภิมหากาฬย์บน Console หรอกครับ (ขนาดความยาวของ Mobile Platform บนมือถือและ Vita ยังคนละเรื่องเลยครับ) อีกอย่าง รายได้มันไม่ได้แน่ขนาดนั้นครับ เกมส์ Console มี DLC และ Online Multiplayer ครับ ขายกินได้เป็นปี เพราะท่านก็บอกเอง คนที่เขาซื้อ เขาก็จะซื้อ ฉันท์ใดฉันนั้น
ถ้าผู้พัฒนาเห็นว่าทำแล้วดีจริง เขาทำไปนานแล้วครับ โดยเฉพาะ Nintendo ที่พึ่งออก แต่เขาจะไปพึ่ง Ecosystem ของ Android ทำไม ในเมื่อก็มี Ecosystem ของตัวเอง มี Store ของตัวเอง มี Developer และ Partner ของตัวเอง (บาง Studio ได้รับเงินสนับสนุนจากบริษัทเกมส์ด้วยซ้ำ) และที่สำคัญ มีลูกค้าของตัวเอง เช่น PLayStation Network มี Register User ทั่วโลกอยู่ที่ 90 ล้านคน พร้อมที่จะจ่ายเงินค่า DLC, Plus Subscription และบริการเสริมอีกเพียบ, ฝั่ง M$ เองก็อย่างน้อยก็กินเหนาะๆ กับค่าบริการรายเดือนของ Xbox Live
ฝั่ง Console หน่ะ ส่วนใหญ่ซื้อแท้พร้อมจ่ายเงินอยู่แล้วครับ ไม่จำเป็นต้องพึ่ง Mobile Game ราคาถูกหรอก
ผมว่าตลาดช่วงนี้มันเปลี่ยน และข้อมูลคุณเก่าครับ (ผมยังมองไม่ออกว่ามันจะไปจบที่ตรงไหน แต่ถ้า Sony กับ ปู่นิน มองเกมไม่ออกคงจบครับ)
เก่ายังไงเอ่ย ผมมองในมุมมองคนเล่นเกมส์ซึ่งเคยเล่นทั้งหมด รวมถึง Mobile และ Console หน่ะครับ และผมเองก็ติดตามข่าววงการ Console อยู่เป็นประจำ รวมถึงใช้บริการ Online บน PSN ด้วย เกมส์ใหม่เปิดตัวแต่ละที แย่งกันซื้อแทบจะหัวแตก
เรื่องแรกเลย ประสิทธิภาพเครื่อง เรียกได้ว่าเกือบเท่ากันครับ (มือถือ กับ ps vista) มันสะท้อนถึง คุณภาพของเกมกราฟฟิค และความยาวของเกม ที่จะออกมาหลังจากนี้ว่า พอพอกัน อีกเรื่องคือ ecosystem ถ้าอยู่บน android มันจะได้ประโยชน์จาก app อื่น ๆ นอกจากเกม สุดท้ายคือเรื่องราคา Mobile เกมราคาถูกแต่ขายปริมาณมากกว่า (เกมเดียวกัน ทำกำไรได้เท่ากัน ถ้าขายในราคาที่เหมาะสม แต่ได้ปริมาณมาก ๆ) จากทั้ง 3 ข้อไม่แปลกที่ dev หลังจากนี้จะให้ความสำคัญกับ mobile เท่ากัน หรือมากกว่า เครื่องอย่าง ps vista (มันจะสะท้อนออกมาจากจำนวนเกม ของนักพัฒนาภายนอก ที่น้อย จน ปู่นิน ต้องไปชวนมาทำ ตามข่าวนี้ไงครับ) เมื่อเกมน้อย คนซื้อก็จะเลือก ถึงจุดหนึ่งก็จบครับ
จุดต่างอยู่ที่ Developer ครับ ฝั่ง Console ก็อีก Dev ฝั่ง Mobile ก็อีก Dev สเปกใกล้กันไม่ใช่ว่าเกมส์จะต้องเหมือนกัน เกมส์บน Console เน้นขายยาว ถึงมี DLC และ Online ด้วย ไม่ได้เน้นขายระยะสั้นแต่เน้นปริมาณ ซึ่งจำนวนคนซื้อมากน้อยเขาเขาเอารายได้มาจากกลุ่ม Hardcore Gamer ซึ่งเป็นลูกค้าประจำของเขา ไม่ได้มาจากกลุ่มบุคคลทั่วไปที่เล่นเกมส์แค่พอขำๆ ดังนั้น มันเป็นคนละกลุ่มเป้าหมายครับ และกลุ่ม Hardcore Gamer การที่จะโยน Joystick ทิ้งมาจับแต่จอ Touch Screen เปล่าๆ นี่เป็นอะไรที่ยากเข้าไปใหญ่ครับ มีใครอยากกระทืบปุ่มเกมส์ Tekken tag tournament บน Touchscreen ไหมครับ มีใครไม่อยากใช้ปุ่ม Analog บ้างไหมครับ
วกกลับเขามา Hardware อีกนิด PS Vita ใช้ SGX543MP4+ ซึ่งปรับแต่งมาเฉพาะ นั่นหมายถึงว่า มันเข้าถึง Hardware ในระดับ Native ไม่ถูก Limit โดย API หรือ Process อะไรต่อมิอะไรบน OS (รันเกมส์จะใช้ 3 Core ส่วนอีก 1 Core จะรัน OS เพื่อให้บริการต่างๆ เบื้องหลัง อาทิ Network, Online Chat, Messenger ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่าสิ่งที่แตกต่างก็คือความสามารถในการให้บริการของแพลตฟอร์ม (รวมไปถึง SDK ที่เป็นของตน) อีกทั้ง PSV มีอายุ Support อยู่ที่ 10 ปีครับ ถึงขายไม่ค่อยดีเหมือน PSP แต่ PSP ก็ยัง Support เรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ครับ กลายเป็นว่า PSP ปลาย Gen ตอนนี้ที่ญึ่ปุ่นขายดีเป็นเทน้ำเทท่า มีเกมส์ใหม่ออกมาเรื่อยๆ สิ่งที่ดูดีกว่า Mobile Platform อย่างน้อยนั่นก็คือ ความสม่ำเสมอครับ ระบบเขาไม่ได้ลอยแพเหมือนฝั่ง Smartphone ถ้าไม่มีเกมส์ ทางเจ้าของแพลตฟอร์มก็ยังจะอัดฉีดเงินสนับสนุนให้แก่ Studio ที่ต้องการเงินลงทุน รวมไปถึงการพัฒนาเกมส์จากทางฝั่ง Studio ที่เป็นบริษัทลูกของตัวเอง
ส่วนเรื่องของชวนนักพัฒนาภายนอก ผมว่าเขาหมายถึงชวนพวกนักพัฒนาอิสระเหมือนกับเกมส์ที่ขายบน Xbox Live Arcade หรือ PSN (นึกไม่ออกนึกถึงเกมส์ Indie บน Steam ซึ่งส่วนใหญ่ขายบน XBLA, PSN เช่นกัน) ไม่ได้หมายความว่าชวน Main Studio เพราะเหลือน้อยลงจนไม่สามารถขายเกมส์ได้ WiiU ตอนนี้ยังไม่วางขาย แต่มีเกมส์ที่เปิดตัวมาแล้ว 85 เกมส์ เป็น Exclusive อยู่ 33 ส่วนจะแป๊กหรือไม่นั้น ผมเคยได้ยินคำพูดมาแนวๆ นี้ตั้งแต่ Gamecube แล้วหล่ะ ผมเองยังนึกว่าจะล้มละลายด้วยซ้ำ เพราะกระแส PlayStation ตอนนั้นแรงเหลือเกิน แต่วันนี้ก็ยังอยู่ได้ แถมยังออกออกเครื่องรุ่นใหม่ด้วย 3DS ขายไม่ดีก็หั่นราคาเหลือครึ่ง หากำไรกับ Content แทน ถึงแม้ไม่มีแผ่นก๊อบแต่ตอนนี้ติดลมบนไปแล้ว
ถ้ายอมให้ Platform ของตัวเอง ใช้ Android ก็ไม่ต่างอะไรกับปล่อยให้ใช้ HomeBrew
คงยอมให้มีบนคอนโซลได้ยากครับเพราะถ้ามีก็เท่า่กับฆ่าตัวตา่ย
การที่จะให้ Console โดยเฉพาะเครื่องพกพา ใช้ประโยชน์จาก App อื่น ๆ นอกจากเกมเป็นสิ่งที่คิดกันมานาน
เพราะส่วนหนึ่งจะได้แค่ยอดขายเครื่อง แต่ยอดเกมขายไม่ได้ บางคนอาจไม่รู้ว่า เครื่องคอนโซลทุกเครื่องนั้นขายราคาต่ำกว่าทุน แล้วไปเอากำไรจากยอดเกมแท้ สมมติว่า PSVita ต้นทุน 10,000 แต่ Sony จะขายราคาแค่ 7500 แล้วมาเอากำไรจากส่วนแบ่งค่าเกม เช่น เกมราคา 2000 ต้องจ่ายให้ Sony 200 ซึ่งจะเห็นว่า ลูกค้าต้องซื้อเกมอย่างน้อย สิบกว่าเกม Sony จึงทำกำไรได้จาก Vita เครื่องนั้น
ถ้ายอมปล่อยให้ใช้ Android ได้อาจเห็นคนซื้อ Vita แล้วเอาแต่เล่น เกมบนแอนดรอยหรืออินสตาแกรม Sony คงไม่ Happy ที่ตัวเองลงทุนแต่กูเกิลเป็นคนได้กำไร หรือถ้าปล่อยให้ Vita หรือ 3ds โทรศัพท์ได้หรือเ้ปิด Excel ได้ก็คงหายนะไม่ต่างกันหรืออาจหนักกว่า
ปัญหาของ Vita ตอนนี้ซ้อนทับกันหลายเรื่องมาก ถ้าเย็นนี้กระทู้ไม่ตกไปเสียก่อนจะเล่าให้ฟัง ปัญบางเรื่องก็เกิดขึ้นกับ WiiU ด้วย คงบอกได้ว่า WiiU ค่อนข้างล"ำบาก" แต่ Vita นั้นเข้าขั้น "รอดยาก" เลยทีเดียว
มองในฝั่งนักพัฒนาภายนอก ต้นทุนทำเกมบนด๋อยก็ต่ำมาก DevKit ป็น Software ล้วน ๆ โหลดฟรี จ่ายแค่ค่าสมาชิก สองสามพันในขณะที่ของ Vita เป็น Hardware ราคาแปดหมื่น ถ้ายอมให้มีAndroid บ.เกมจะยอมจ่ายแปดหมื่นต่อชุดทำไมให้เมื่อยตุ้ม ในเมื่อด๋อย จ่ายถูกกว่าแต่ได้มากกว่า
จะรอฟังครับ
ต้องขอโทษจริง ๆ ครับวันนี้คงไม่ทันแล้ว ที่จริงตอนรอหมอตรวจ พิมพ์ไว้บ้างแล้ว แต่ถ้าไม่ขยายความจนจบ เกรงว่าจะเข้าใจผิดว่าผมตั้งใจโจมตี Sony ที่จริง แม้แต่แฟนพันธุ์แท้ Sony ก็ยังรู้สึกได้นะครับ ว่า Vita นั้นอาการหนักจริง ๆ ทั้งจากความผิดพลาดของ Sonyเอง ทั้งจากความผิดพลาดของคู่แข่ง แต่กลับกลายเป็นว่า Sony ดันรับเคราะหนักกว่าซะงั้นก็มี
แบบนี้ยิ่งน่าสนใจ ถ้าไม่รบกวนมากว่าง ๆ โพสลง forum ก็ได้ครับ
มือถือกับ vita ประสิทธิภาพเครื่องเกือบเท่า แต่จำนวนพิกเซลต่างกันฟ้ากับเหวครับ ดังนั้น vita น่าจะทำเฟรมเรทได้สูงกว่ามือถือในตลาดได้ประมาณนึงเลยล่ะ
ผมก็เห็นปัญหาทุกอย่างตามนั่นละครับ และที่ให้ไปทำ android ก็คิดว่าเครื่องคงขายดีขึ้นและเผื่อจะรอด (แต่เท่าที่ดู อาจจะถึงจุดที่ ทำก็ไม่รอด ไม่ทำก็ไม่รอด แล้วก็ได้) โดยส่วนตัว ถ้า PS Vista ลง android ผมว่าขายดีขึ้นแน่นอน
ผมถามแค่ว่า แล้วค่ายเกมที่ไหนจะอยากทำเกมจริงจังให้ครับ???
PS Vista -> PS 7 เอ้ย -> PS Vita
สำหรับตลาดเกมผมว่าค่อนข้างขาย content ที่มีความเป็น exclusive นะครับ กลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้เค้าพร้อมจ่ายอยู่แล้วครับถ้า content ดีจริงๆ
ทำ ecosystem เอง โปรโมทเอง กำหนดทิศทางเองได้สะดวกกว่าด้วยครับ แบ่งรายได้ให้ง่าย studio game ก็เบาใจพร้อมจะทุ่มทรัพยากรให้ ทำ content ใหม่ๆ ออกมาให้เรื่อยๆครับ
ยิ่งใช้ Androids ยิ่งดีครับ (สำหรับฝั่งตรงข้าม)
+1 ฆ่าตัวตายชัด ๆ
xperia play เปิดตัว 2011 ตอนนี้เงียบไปแล้ว
แต่ psp เปิดตัว 2004 ตอนนี้ยังมีเกมใหม่ออกมาทำเงินอยู่เรื่อยๆนะครับ
ถ้าเปิด Homebrew Channel อย่างเป็นทางการอาจจะรุ่งกว่าก็ได้ เป็นจุดที่ไม่เคยมีค่ายไหนกล้าทำมาก่อน
Microsoft มี XBLA, XBLC
Sony มี NetYaroze (แต่ว่าซื้อไปทำเล่นเองได้อย่างเดียวมั้ง?), PSM
ปู่นินยังไม่ได้ลงมาในจุดนี้ครับ
ผมหมายถึงแบบที่ผู้ใช้สามารถหา app จากที่ไหนก็ได้ใส่ USB แล้วเล่นได้เลยนะครับ ไม่ต้องผ่านส่วนกลาง
เหมือน Android หา .APK เถื่อนนั่นแหละ
แล้วทำไมถึงควรทำแบบนั้นล่ะครับ ?
เพราะถ้าทำแบบ XLBA ก็คงสู้ไม่ทันแล้ว ตลาด game mobile/casual ก็โดนโทรศัพท์แย่งไปเยอะ ถ้าอยากกลับมาเป็นจ้าวโลกอีกครั้งก็มี 2 ทาง:
ส่วนใหญ่น่าจะใช้คำว่า Third Party
First Party = เกมของบริษัทเจ้าของ Platform
Secound Party = เกมของบริษัทในเครือ หรือพันธมิตรร่วมทุน
นอกเหนือจากนั้นถือเป็น Third Party จะเรียกว่าภายนอก ก็พอได้ครับ
Second Party หมายถึงผู้ใช้เองครับ
http://en.wikipedia.org/wiki/Video_game_developer#Second-party_developer
โอมีแบบนี้ด้วยรึครับ /me ทำความเข้าใจใหม่
แบบนี้ใช่มั้ยครับ
เห็นขนาดของจอยแล้วต้องไปยกดัมเบลรอ..
ดูแล้วมันไม่น่าหนักนะ แต่เทอะทะนี่แน่ๆ
อยากเล่น Super robot wars ใน wii U มั่งอ่ะ
อย่างกะ RIM ขอร้องให้ทำแอพเถอะนะ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ก็ลองลดค่าการตลาดลงเหลือสัก 5-10% สิ ...
ปู่นินเก็บสี่สิบ พับบลิชเชอร์อีกสามสิบ เหลืออีกสามสิบ .. แล้วเดฟจะเอาอะไรกิน ??
ผมว่าเเนวคิดจอยมันเหมือนดรีมเเคสต์เลย เเต่เป็นเเบบไฮโซกว่า
เครื่องก็ใกล้จะออกเต็มที เเต่ยังไม่มีความรู้สึกอยากได้เหมือนตอนวีออกเลย
WiiU คงไม่น่าห่วงมาก เพราะมีเกม Exclusive ลงเยอะตั้งแต่เปิดตัว อย่างน้อย Mario, Zelda, Fire Emblem ก็ลงแน่นอน ซึ่งสำหรับคนซื้อเกมแท้เล่น แค่มี 3 เกมนี้ ก็พอที่จะตัดสินใจซื้อเครื่องได้แล้ว
นี่ยังไม่รวมเกม Cross Platform อย่าง Monster Hunter ภาค 3 กับ 4 อีก แถมระบบของ WiiU ยังเอื้อต่อการพอร์ตเกมบน 3DS มาทำเป็นเวอร์ชั่น HD (แต่คงไม่ได้ระบบจอสามมิติ)
ถ้าจะมีปัญหาก็มีแค่เรื่องล็อคโซนเท่านั้นแหละ ที่จะทำให้ยอดขายเครื่องที่ไม่ใช่ JP มันต่ำ
ส่วน Vita นี่ Sony เดินเกมผิดพลาดอย่างมาก ที่มัวแต่ลงเกม Multi Platform (PSP/PSVita, PS3/PSVita) แล้วคนที่มีเครื่องเดิมอยู่แล้ว เค้าจะซื้อทำไม
ปล. ผมขอพูดถึงแค่เรื่องเกมของเครื่องนะครับ ส่วน Hardware มันไร้สาระ จะสเปคเทพแค่ไหน ถ้าไม่มีเกมให้เล่น ใครมันจะไปซื้อเครื่อง