By: mk 
on 31 March 2012 - 12:47
Tags:
ประเด็นที่ Android Market (หรือ Google Play ในปัจจุบัน) โดนวิจารณ์มาตลอดคือแอพเยอะจริงแต่ทำเงินต่อแอพไม่ได้เยอะมากนัก
ล่าสุดมีข้อมูลเชิงสถิติของบริษัทวิจัย Flurry เทียบรายได้ของ "แอพยอดฮิต" จากร้านขายแอพ 3 รายใหญ่คือ iTunes App Store, Amazon Appstore, Google Play ผลปรากฏว่า iTunes App Store ชนะตามคาด
แต่ที่เหนือความคาดหมายของหลายๆ คนคือ Amazon Appstore ทำรายได้น้อยกว่า iTunes App Store เพียงเล็กน้อย ในขณะที่ทั้งสองรายนี้ทิ้ง Google Play แบบไกลสุดกู่
Flurry ตามเก็บสถิติของแอพเหล่านี้เป็นเวลา 45 วันในช่วงต้นปี 2012 โดยถือว่ารายได้ของ iTunes App Store คิดเป็น 100% และแยกแยะได้ว่า Amazon Appstore มีรายได้ 89% ของ iTunes App Store แต่ Google Play ทำรายได้แค่ 23% เท่านั้น
ตัวเลขชุดนี้อาจพิสูจน์ว่ายุทธศาสตร์ของ Amazon ที่หันไปสร้างร้านขายแอพเองสำหรับ Kindle Fire เป็นเรื่องที่ถูกต้อง ทั้งที่เป็นแอพชุดเดียวกันไม่ต่างกันนัก แต่รายได้จาก Amazon Appstore กลับสูงกว่า Google Play มาก
ที่มา - Flurry
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
Amazon Appstore + GG Play = 112% หรอ
เค้าเทียบเป็น iOS = 100 ครับ กรณีนี้สมมุติ iOS ได้ 1000 ล้านต่อปี Amazon ได้ 890 ล้าน GGP ได้ 230 ล้าน
ดังนั้นจะเกิน 200% ก็ไม่มีปัญหาอะไร
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
89% เลยหรือนี่ ถ้าเทียบกับปริมาณ Devices ที่ขายไปแสดงว่าอัตราส่วนคนซื้อเยอะกว่า iOS อีกนะ
kindle FIRE!!!!
คนใช้ Android ส่วนมากผมก็เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากเสียเงินซื้อ app เป็นหลัก ถึงได้เลือกใช้นะครับ
ไม่จริงมั้งครับ คนใช้ iphone หลายคนที่ผมรู้จักก็แอพเถื่อนทั้งนั้นครับ android ก็พอๆ กันครับมีแต่คนหาใช้แอพเถื่อนเหมือนกัน
+1
แต่จริงๆอาจจะไม่เกี่ยวกับ OS ก็ได้เพราะ amazon ก็เป็น android เหมือนกัน
คนใช้ android ก็คุ้นเคยกับของฟรีจาก google กลายเป็นว่า app ขายไม่ค่อยได้ก็เลยฟรีแล้วแป๊ะโฆษณาเอา
google play ซักวันจะมี ad ป่าวอ่ะ?
ถ้าเอารายได้มาหารจำนวน App เฉยๆ น่าจะเป็น matrix ที่ไม่ดีนัก (ต่อให้แยก app จ่ายเงินเท่านั้นออกมา) เพราะ cost of entrance ของ Google Play นั้นต่ำกว่ามาก
index การทำเงินแบบนี้น่าจะสุ่ม App ที่มีทุกตลาด แล้วเอามาดูว่าตลาดไหนทำเงินได้ดีกว่ากันมากกว่า
lewcpe.com, @wasonliw
ผมเห็นด้วยครับ จริง ๆ ถ้าพูดถึงยอดรายได้ ของ Market ก็ควรจะเอารายได้จริงที่ทำได้มาเปรียบเทียบกันเลย สำหรับถ้าจะเทียบว่าต่อ app แล้วจากตลาดไหนทำรายได้มากกว่ากัน ก็ต้องนำ app ที่มีทั้ง 3 ตลาดมาเปรียบเทียบกัน ไม่ใช่อยู่ ๆ เอายอดรายได้มาหารจำนวน app แค่ตรรกะการคิดก็ผิดมหันแล้วครับ สรุปคือ research เจ้านี้ไม่น่าเชื่อถือเท่าที่ควร
เคยได้ยินว่า cost of entrance ของ Apple Appstore ปีละ 100 ดอลล์ใช่ปะครับ ?
แล้วของ Amazon , Google Play เป็นเท่าไหร่บ้างครับ ?
(ไม่นับเรื่อง dev tool, เครื่อง)
ผมว่า cost of entrance ไม่เกี่ยวเลยนะครับ จะบอกว่าค่าเข้าถูกรายได้เลยน้อยมันดูแปลกๆ
เสริมให้ว่า "Their primary business models are in-app purchase, which is the revenue type we compare for this analysis." นะครับ
เพราะฉะนั้นเป็นการเปรียบเทียบรายได้จาก in-app purchase อย่างเดียว
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
โอ๊ะ!!! จริงด้วย
in-app purchase มันออกแนว ขายไอเท็มในเกมนี่นา -.-" แล้วจะวัดเทียบแทนตลาดได้ไงละเนี่ย
แล้วนี่วัดแค่เฉพาะ แอพไม่กี่ตัวด้วย.........
อ่านแบบเต็มๆทั้ง context ตามนี้ครับ
We examine a basket of top-ranked apps that have similar presence across iOS, Amazon and Android. Their primary business models are in-app purchase, which is the revenue type we compare for this analysis.
App ในggplay เน้นรายได้จากการโฆษณา ของฟรีเลยตรึม
Amazon Appstore มีตัวเลือกน้อยกว่า Google play shop มากลูกค้าที่ซื้อ kindle fire หลายๆคนอาจจะไม่มีทางเลือกเพราะไม่สามารถ Download app จาก Google play shop โดยไม่ root ได้
และก้ไม่ใช่ทุกคนที่จะเก่งเรื่อง Root Rom อะไรพวกนี้(ผมเองก็ทำไม่เป็น)
นั่นหมายความว่าการแข่งขันระหว่าง app freeๆ กับ app เสียเงินใน Amazon Appstore น้อยกว่าใน Google Play shop โอกาสทำเงินย่อมมากกว่า
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
น่าจะเอารายได้จากโฆษณามาเทียบดูบ้าง
รายได้จากแอพมาคนละทาง วัดกันไม่ได้หรอกครับ
ผมว่าวัดได้นะ เศรษฐีผู้ร่ำรวยทั้งหลาย ไม่ได้ขายไก่เหมือนกันทุกคนสักหน่อยครับ
ก็น่าจะวัดได้ แต่ควรเอามาให้ครบทุกทาง