หรือต้องรอให้ลูกค้ามาดราม่าใส่แบบนี้เรื่อยไป?

ขอบคุณที่แนะนำครับ

ของผมนำไปส่งที่สาขา IT Mall Fortune ครับ

ไม่น่าเลย ดีที่ผมมีความรู้ ถ้าผู้ใช้ทั่วๆ ไปที่ไม่รู้อะไรมากล่ะ?

เน้นแต่ยอดขาย แต่ไม่ปรับปรุงงานบริการให้ดีสมกับที่ขายดี

ทำธุรกิจกันแบบนี้เลยนะครับ ไม่รู้จะพูดยังไง

ขอบคุณมากครับที่ให้ความดูแล ผมอุ่นใจขึ้นมาก

เรื่องตอนนี้คือ ได้แจ้งกับทางช่างเอาไว้แล้วว่า
ถ้าไม่สามารถซ่อมตามเงื่อนไขที่ผมบอกได้ (ตามที่อธิืบายข้างต้นคือ ให้เปลี่ยนแค่ Ribbon Clip (ตัว Keyboard Connector) ก็ให้ช่วยบอกวิธีหาอะไหล่ให้ที (ซึ่งไม่รู้จะมีหวังหรือเปล่า) เพราะผมเช็คด้วยตัวเองแล้ว เครื่องผมเสียแค่ตรงนั้นจริงๆ (เสียตั้งแต่เดือนที่ 7 นับจากซื้อเครื่องมา แต่ผมต้องใช้เครื่องทุกวัน จึงไม่สามารถส่งไปซ่อมเป็นสัปดาห์ได้)

ส่วนที่ช่างแจ้งว่า HDD และ Mainboard เสีย รวมถึงแจ้งด้วยว่า Keyboard ผมโก่งนั้น จริงๆ แล้วมันไม่มีอะไรเสียเลย
(HDD กับ Mainboard จะเสียได้ยังไง เครื่องใช้อยู่ทุกวัน ส่วน Keyboard ผมมั่นใจว่าไม่เสีัย เพราะแกะเครื่องมาแล้วขยับตรง Connector มันใช้ได้ มันสามารถพิมพ์ตัวที่พิมพ์ไม่ติดได้ แต่พอไม่กดเอาไว้ มันก็พิมพ์ไม่ได้ -- คาดว่าน่าจะเป็นที่เขี้ยวมันคงไม่เท่ากัน เขี้ยวทองเหลืองตรงนั้นมันมีปัญหา ทำให้มันแก้ปัญหาถาวรไม่ได้ จนขาล๊อกมันหัก เพราะมันเปราะบางมาก)
ผมตามหาอะไหล่ชิ้นนี้่ในเว็บต่างประเทศก็หาไม่เจอ จึงสอบถามซัมซุง และทราบว่าไม่มีนโยบายขายอะไหล่เหมือนบริษัทอื่น
จึงส่งไปซ่อม ก็ได้รับแจ้งมาเช่นนี้

และทางช่างก็บอกว่า ราคาที่ประเมินมาจากใบที่รับเครื่องแจ้งเอาไว้ (ซึ่งเขียนโดยพนักงานรับเครื่อง (เป็นผู้หญิง ไม่ใช่ช่าง และยังไม่มีการตรวจเช็คใดๆ เลย) ทำให้ผมสงสัยกับกระบวนการทำงานของศูนย์มาก

และผมก็เน้นย้ำหลายรอบมาก ว่าให้ซ่อมตามอาการที่บอกก็พอ (ทั้งที่ย้ำแล้วย้ำอีก จนพนักงานหญิงคนหนึ่งถามผมกลับมา ด้วยน้ำเสียงที่ไม่ยินดีเลย ว่า "ถ้ามันใช้ไม่ได้ ใครจะรับผิดชอบ จะให้ทำยังไงคะ?" ผมก็เลยบอกไปว่า "คุณจะเขียนไปเลยก็ได้ และให้ผมเซ็นยินยอมก็ได้ ว่ามันเป็นความประสงค์ของลูกค้า ผมยินดีรับผิดชอบ ขอให้ทำตามนั้นก็พอ"
แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ การแจ้งว่าเสียเพิ่ม (ทั้งที่ไม่เสีย)

ตอนนี้ ช่างบอกแค่ว่า อีก 2-3 วันจะแจ้งกลับอีกทีครับ ทั้งอาการเสีย (ซึ่งมีแค่ที่บอก) และราคาประเมิน

ปล. ขอออกตัวว่า ผมเป็นช่างที่พอมีความรู้บ้าง ครอบคลุมอิเลคโทรนิค อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และเมคคานิค (จำพวกปริ้นเตอร์) ครับ พอทำได้ถึงระดับจี้แผงวงจรขนาดเล็ก พวก Surface-mount หรือการบัดกรีวงจรที่ต้องใช้เทคนิคขั้นสูง และผมทำเป็นอาชีพ ทำให้พอทราบว่าอะไรเสียจริง หรือไม่เสีย พอทราบราคาอะไหล่คร่าวๆ

ผมก็ยอมรับได้ ถ้าทางซัมซุงจะซ่อมให้ผมตามอาการที่แจ้ง โดยบวกค่าบริการ และค่าอะไหล่ที่อาจแพงกว่าท้องตลาดนิดหน่อย แต่ผมยอมรับไม่ได้กับการประเมิน (ที่ไม่ได้ประเมิน และตรวจสอบจริงโดยช่าง) และแจ้งราคาผมกลับมาตั้งเกือบ 15,000 บาท (เครื่องรุ่น R468 (NP-R468-DS01TH) ครับ ซื้อตอนออกใหม่เลย สามหมื่นกลางๆ เป็นช่วงแรกๆ ที่ซัมซุงผลิตโน๊ตบุ๊คเลยมั๊งครับ)

และยังไม่พ้นข้ามปี เครื่องรุ่นนี้ก็ถูกลืม ลอยแพไปเลย ตอนนี้ก็ไม่ทราบว่าราคาเท่าไหร่
แต่ถ้าประเมินค่าซ่อมมาเกือบ 15,000 บาท (ช่างบอกว่าประมาณ)
ผมคิดว่าเครื่องรุ่นใหม่ๆ สเปกดีๆ เพิ่งไปดูมาแค่ 17,500 บาทเอง (ราคาโปรโมชั่น)
ผมคิดว่ามันแปลกพิกล จึงสอบถามกลับไปยังช่างว่า คิดคำนวนจากอะไรบ้าง
ถ้า Harddisk เสีัย คิดราคาผมเท่าไหร่ (ขนาด 320GB ของ Hitachi)
และ Mainboard เสีย (ทั้งที่ยังใช้งานทุกวัน วันละกว่า 10 ชั่วโมง)
ให้รวมราคา Keyboard ด้วยเลย ไม่ทราบว่า มันถึง 15,000 บาทได้ยังไง

เครื่อง 2 ปีครึ่ง คิดว่าไม่น่าจะขาดอะไหล่ขนาดนั้นนะครับ

เรียนท่านผู้บริหาร หรือผู้เกี่ยวข้อง หากได้อ่านนะครับ
บริษัท และแบรนด์ของท่านเป็นถึงผู้นำตลาดในหลายด้าน

ผมเคยชื่นชมที่ซัมซุง เป็นแบรนด์เอเชียที่สามารถก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ชั้นนำของโลกได้นะครับ
เชื่อว่าหลายคนก็คงชื่นชม แต่ความชื่นชมนั้นคงมลายหายไปหมด เพียงเพราะสุดท้ายแล้วลูกค้าของซัมซุงเช่นผม
ต้องมาพบว่า แบรนด์ของคุณ ดีแต่การขาย การตลาด นั่นเอง (ยังไม่นับที่คุณเอาแต่แข่งเกินไป จนสินค้าหลายอย่าง ถูกตีตราว่าห่วย+ก๊อป มากเกินไป) สมัยก่อนผมชอบ Sony มาก (แต่พักหลังเฉยๆ แล้ว) ผมก็เห็นทีวีกี่รุ่น ก็แทบจะถูกเอามาก๊อบ (หรือแข่งก็ไม่รู้ แต่มันแทบเหมือนกันเลย) แล้วเอามาขายแข่งในราคาถูกกว่ามาก จนกระทั่งทุกวันนี้ ผมว่ายอดขายซัมซุงคงแซงไปมาก

เมื่อก่อนผมดูถูกซัมซุงมากครับที่ทำแบบนี้ ผมมองว่าเป็นของเกาหลี เป็นของก๊อบ และมองไม่ต่างจากจีนเลย
(อันนี้ด้วยเหตุผล และความรู้สึกส่วนตัวและเป็นยุคก่อนยุค Apple vs Samsung นะครับ อคติล้วนๆ)
เห็นซัมซุงก๊๋อปปี้ทุกอย่างออกมาแข่ง ในราคาที่ถูกกว่าได้
จนหลายแบรนด์ที่เคยเป็นผู้นำ ต้องขยาดไปเลย

ขออภัยที่ผมมีอคติกับบริษัทสัญชาติเกาหลีแห่งนี้ในหลายด้านมาก (แต่ก็มีด้านที่ชื่นชมหลายอย่างนะครับ) ทีนี้ ผมก็ไม่รู้ว่า มันคือความเป็นผู้นำทางธุรกิจหรือเปล่า ที่ทำให้ซัมซุงเลือกที่จะปฏิเสธการสร้างบริการหลังการขายที่ดีเลิศ
หรือเพราะเอาแต่ขาย เอาแต่ผลิตรุ่นใหม่อย่างเดียว ไม่เคยสนใจ หรือรับผิดชอบเต็มที่เลยว่าสิ่งที่ทำออกมาขายนั้นจะเป็นอย่างไรในอนาคต เมื่ออยู่ในมือของลูกค้าแล้ว ผมเห็นผลิตภัณฑ์แทบทุกรายออกรุ่นใหม่เร็วมาก (และเป็นไม่กี่แบรนด์ที่ทำให้ผมช้ำใจเร็วมาก เนื่องจากซื้ออะไรมา ก็ตกรุ่นเร็วเกินเหตุ แต่ก็พยายามทำความเข้าใจว่ามันเป็นการแข่งขันทางธุรกิจ)

ผมก็แต่ต้องบอกเลยว่า ถ้าคุณใส่ใจจะแข่งจริงๆ ขอให้ช่วยแข่งเรื่องบริการด้วยนะครับ โดยเฉพาะบริการหลังการขาย จะได้ไม่ต้องมีใครหลงเป็นลูกค้า เพราะคำโฆษณาชวนเชื่อ และต้องมาด่าตามหลังกันแบบนี้

เพราะเท่าที่ได้รับรู้มา มันไม่ได้ห่วย เฉพาะกับผมคนเดียว หรือไม่กี่คน
แต่มันห่วย อย่างเป็นทางการเลยล่ะ