คอมมิวนิสต์หรือว่าฟาสซิสต์ครับ?

คนนี้คนพี่นี่ครับ

+1

ลองอ่านรายละเอียดของร่าง พรบ.ตัวนี้ดูก่อนก็ดีครับ ถ้าเกิดร่างนี้บังคับใช้จริงคนเล่นเน็ตจะโดนลิดรอนสิทธิ์เสรีภาพกันหมด อาจจะกลายเป็นอาชญากรโดยไม่รู้ตัว ไม่แบ่งแยกว่าสนับสนุนแนวคิดทางการเมืองแบบไหน

ad hominem fallcy

มีคณะกรรมการที่มีอำนาจเรียกบุคคลมาให้ปากคำ, ส่งหลักฐาน รวมถึง "ปฏิบัติการอื่นใด" เพื่อให้เป็นไปตาม พรบ. ซึ่งคณะกรรมการนี้เป็นภาครัฐ 8 คน + ผู้ทรงคุณวุฒิ 3 คน

ที่น่าห่วงคือคณะกรรมการนี้ไม่มีตัวแทนภาคประชาชนเลย และผู้ทรงคุณวุฒิ 3 คนนั้นเค้าก็ว่ามาจากสาขา กฏหมาย, วิศวกรรม, วิทยาศาสตร์, วิศวกรรม, การเงินการธนาคาร หรือสังคมศาสตร์ (ซึ่งสามคนอาจจะมาจากสาขา กฏหมาย, การเงิน, สังคม อย่างละคนก็ได้ ใครจะรู้)

ลองตามไล่อ่านร่างกฏหมายก่อนครับ เท่าที่ผมอ่านแบบผ่านๆ ยังไม่มีตรงไหนสามารถเข้าใจได้แบบที่คุณบอกเลยนะครับ :)

ลองดูประเด็นหลักๆ ได้จาก http://ilaw.or.th/node/857 ครับ

(ผมว่า)มันไม่มีตรงที่ทุกคนในประเทศนี้ผิดตามพรบที่ว่าครับ อยู่ที่อยากบังคับใช้กับใคร

มันไม่ดีตรงที่ว่า มันไม่ได้แก้จุดบอดของฉบับ 2550 และออกแบบกว้าง ๆ ให้เอาไปตีความเอง
ที่สุดคือ โหลดบิตโทษสูงสุดสูงกว่าขายยา....

มันเป็นกฎหมายที่สามารถเอาผิดคนได้แทบทุกคนโดยคนที่โดนเอาผิดอาจไม่ตั้งใจและไม่รู้ตัวครับ
อย่างเช่นการครอบครองไฟล์ต่างๆ บางครั้งไม่จำเป็นต้องโหลดมาโดยตรง แต่เบราเซอร์เก็บเป็น Cache
เคสนี้ ตามร่าง พ.ร.บ. นี้ก็เอาผิดได้เพราะว่ามีไฟล์อยู่ในเครื่องครับ
อย่างนี้เป็นต้น

ถ้าโหลดบิตแล้วโดน ผมก็ขอลงชื่อด้วยครับ

กฏหมาย นี้ แค่คุณมี คอมพิวเตอร์ใช้ คุณก็ผิดแล้วครับ

บางประเด็น ก็มีกฏหมายจัดการอยู่แล้ว เช่นเรื่องลิขสิทธิ์หรือการหมิ่นประมาท

กฎหมายอาญาฯในปัจจุบันไม่มีข้อไหนเอาผิดเรื่องการ"ครอบครอง" สื่้อฯลามกอนาจารนะครับ มีเอาผิดแค่การเผยแพร่เท่านั้น ถ้าคุณมีเก็บไว้ในบ้าน ไม่ได้ออกขาย หรือแจกจ่ายให้คนอื่น ก็ไม่มีใครเอาผิดคุณได้นะ

ซึ่งจริงๆกฎหมายที่เอาผิดเกี่ยวกับการ"ครอบครอง"ล้วนมีแค่ พวกยาเสพติด อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด และสารเคมีอันตรายบางประเภทเท่านั้น

นี่จะเป็นครั้งแรกที่มีการเอาผิดที่เกี่ยวกับการครอบครอง"ข้อมูล" ครับ

ที่สำคัญก็คือ คดีที่เอาผิดการ"ครอบครอง" นั้นจะไม่พิสูจน์เจตนา แต่จะพิสูจน์ว่ามีหลักฐานแน่ชัดว่า เรามี"สิ่งนั้น"ไว้ในครอบครอง จะโดยบังเอิญ ไม่ตั้งใจหรือไม่ ไม่สนใจ ถือว่าครบองค์ความผิด ไม่เหมือนการเอาผิดการละเมิดอื่นๆ ที่ต้องมีเจตนาละเมิด ถึงจะผิด แต่การครอบครอง จะตั้งใจไม่ตั้งใจ ถ้ามีไว้ในครอบครองแล้ว ผิดแน่นอนครับ

ตรงนี้แหละ ที่เราต้องมาำสนใจว่า ข้อมูลที่"น่าจะ"ผิดกฎหมาย มันมีความร้ายแรงต่อประเทศชาติบ้านเมือง จนต้องเอาผิดแบบเดียวกับยาเสพติด อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด กันเลยหรือ? หรือมันร้ายแรงต่อฐานอำนาจของผู้มีอำนาจกันแน่?

ที่สำคัญ บทลงโทษการครอบครองข้อมูลลามกอนาจาร ที่ร่างฯมา มันรุนแรงกว่าการครอบครองกัญชาเสียอีก?!?!?!?!

กลับกัน ผมว่าคนร่างฯมีความรู้ทางคอมพิวเตอร์ดีทีเดียว แต่ตั้งใจร่างให้คลุมเครือ หว่านแห เพื่อที่จะสามารถประยุกต์ใช้เป็นเครื่องมือ ในการจัดการฝ่ายตรงข้ามได้อย่างแนบเนียน(สำหรับคนไม่รู้เรื่องคอม)

ลองคิดดู วันดีคืนดี มีศัตรูทางการเมืองอยากทำลาย ผู้มีอำนาจก็แค่แกล้งออกหมายค้นไปค้นบ้านเขา รับรองเจอ "ข้อมูลที่น่าจะผิดกฎหมาย" กันแน่ๆอยู่แล้ว เพราะนิยามมันครอบจักรวาล

นี่แหละที่เขาคิดแอบแฝงไว้!

ก่อนนี้ผมเชียร์นะพรรคนี้ แต่พอเห็นผลงานแล้วตาสว่าง ไม่เห็นมันจะดีกว่าพรรคโน้นตรงไหน อิเหนาสวมวิญญาณศรีธนญชัยชัดๆ

+1 เข้ารหัสด้วย truecrypt ด้วย แต่ truecrypt ผิดกม. พรบฉบับนี้ด้วยหรือเปล่าเนี่ย :3===

แม้จะใช้คอมฯ เฉยๆ หรือเพื่อหากินก็ไม่รอดครับ ลองตีความดีๆ มันเข้าตัวหมดเลย

โดนกันหมดแหละครับ ลองนึกภาพคุณเข้าไปตามเวปต่างๆดู คิดหรือว่าจะไม่มีการสร้างไฟล์แคชขึ้นมา แล้วคิดหรือว่าไฟล์แคชที่มันสร้างขึ้นมาจะไม่ผิดกฏพรบสักไฟล์ คิดแล้วก็งงครับ พรบแบบนี้คิดขึ้นมาได้ยังไง คงไม่ได้ต้องได้ใช้เน็ตกันแล้วครับ ร่างเสร็จพร้อมใช้เมื่อไหร่ก็เตรียมตัวยกเลิกเน็ตกันได้เลย ประเทศไทยจะเข้าสู่ยุคหินอีกครั้งแล้ว

ขนาดแค่ตีความตรงๆตามตัวอักษร พรบ.นี้ยังเอาผิดกับคนที่มีคอมพิวเตอร์ส่วนตัวได้เกินครึ่งประเทศแน่นอนครับ

ยิ่งถ้านับ Portable Device ยิ่งไม่ต้องนับเลยอยากจับใครก็จับได้หมด