Tags:

ผมพึ่งจบการศึกษาด้าน IT ตอนนี้อยู่ในช่วงหางาน

ด้วยความที่ผมตั้งใจเรียน ทำให้เกรดผมค่อนข้างดี และก็มีใจรักทางด้านนี้ด้วย

ตอนนี้ ผมมี 3 ที่ที่ชอบ คือ Bombardier, Smartconsulting, Mitutoyo และไปสัมภาษณ์มาครบแล้ว

ใจจริงผมอยากทำที่ Bombardier ที่สุด เพราะได้ฝึกภาษา เนื้องานก็โอเค เป็น Tester ค่าตอบแทน สวัสดิการก็ดี แต่มีปัญหาว่าเขาจะคัด candidate โดยจะทราบผลสิ้นเดือน

รองลงมาก็อยากทำที่ Mitutoyo เป็นบริษัทญี่ปุ่น ได้ฝึกภาษาเหมือนกัน เนื้องานก็โอเค ทำ System Admin อาจไม่ท้าทายมาก แต่ก็เหมือนเติบโตไปกับองกรค์ ค่าตอบแทนก็ดี แต่สวัสดิการอาจไม่ดีเท่า bombadier เขาบอกผมว่าจะทราบผลอาทิตย์หน้า

ส่วน Smartconsulting อาทิตย์หน้าเขาจะนัดผมไปคุยกะหัวหน้างานแล้ว ค่าตอบแทนน้อยที่สุด สวัสดิการเป้นรองสองบริษัทข้างบน เป็นบริษัทไม่ใหญ่ แต่ด้านเนื้องานถือว่าน่าสนใจมาก โดยเป็นการทำ Consult ให้ ERP ครับ

ปัญหาคือ ที่ ๆ ผมอยากทำที่สุด ดันบอกผลท้ายสุด ผมก็กังวลว่าถ้ารอถึงสิ้นเดือน แล้วมันเกิดไม่ได้หละ? โอกาสของบริษัทก่อนหน้านี้ก็หายไปเลย

ด้วยความที่ยังใหม่ ผมก็ไม่กล้าเลือกเยอะ แต่ก็อยากทำงานให้มีความสุข มีความก้าวหน้าในชีวิต มันเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตผมเลย

อย่างงี้ผมควรทำอย่างไรดีครับ

มีอีกเรื่องที่อยากสอบถามคือ เมื่อสัมภาษณ์กับหัวหน้างานเรียบร้อย ถ้าเขาพอใจ เขาก็จะให้เราเซ็นสัญญาเลยใช่ไหมครับ แล้วเราสามารถขอเวลาตัดสินใจจากเขาได้ไหมครับ มันจะน่าเกลียดหรือป่าวครับ

ขอบคุณครับ

Get latest news from Blognone
By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 11 November 2010 - 15:31 #231128
mr_tawan's picture

ถามตัวเองว่า 'อยากทำอะไร' ก่อนครับ เท่าที่ผมอ่านมา job มันคนละทางกันเลย (tester, consult, admin) คือ ถ้าเริ่มไปสายนึงแล้ว พอจะเปลี่ยนสายมันต้องมีการเสียอะไรไปประมาณนึงนะ (เช่นเงินเดือนอาจจะลด)

ผมว่าถ้าตอบคำถามข้อนี้ได้ก็ไม่ยากแล้วล่ะครับ


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: Bank14
ContributorAndroidRed HatWindows
on 11 November 2010 - 22:27 #231231 Reply to:231128

คือผมชอบเรียนรู้อะครับ แต่ถ้าให้เลือกตามลำดับก็น่าจะ
1. network
2. consult
3. tester

จริง ๆ สูสีกันมากเลยนะครับ แต่ถ้าให้จินตนาการถึงลักษณะการทำงานแล้วได้ฟิล น่าจะคำตอบนี้

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 12 November 2010 - 00:10 #231244 Reply to:231231
mr_tawan's picture

ขอตอบแบบคนทำงานมาแล้วประมาณนึงนะครับ (ไม่นานหรอก)

คือ ทำงานแบบไหนก็ได้เรียนรู้ทั้งนั้นล่ะครับ และ เอาเข้าจริง ๆ เขาจ้างคุณไปทำงานไม่ใช่ไปเรียน (แต่เขาต้องให้คุณเรียนเพื่อพัฒนาทักษะ) คืออย่าหวังว่าทำงานแล้วจะไดัเรียนรู้ครับ เอาเข้าจริง ๆ ทักษะ/ความรู้ที่ได้ใช้น่ะน้อยกว่าสมัยเรียนเยอะ!

แต่ถ้าชอบเรียนรู้ก็เรียงตามนี้ก็เหมาะสมดีครับ


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: Bank14
ContributorAndroidRed HatWindows
on 12 November 2010 - 05:43 #231273 Reply to:231244

ผมเห็นต่างหน่อยนึงตรงที่ความรู้ที่ได้ใช้จะน้อยกว่าสมัยเรียนจริงหรอ? มันน่าจะ Advance กว่าไม่ใช่หรอครับ เท่าที่ทราบมา

By: thana19
iPhoneAndroidUbuntuWindows
on 12 November 2010 - 06:51 #231275 Reply to:231273
thana19's picture

ความรู้ที่ได้ขึ้นอยู่กับประเภทของงาน บริษัท และตัวคุณด้วยครับ

ประสบการณ์การทำงานของทุกคนย่อมต่างกันครับ
ที่ผมเคยทำมา

งานราชการ -เงินเดือนต่ำมาก เวลาว่างมาก โอกาสอยู่ตรงนั้น
งานเอกชน - บ เล็ก เงินดีขึ้นมานิดนึง งานหนักมาก ต้องทำทุกอย่าง สนุก ได้ความรู้ ได้ประสบการณ์
งานเอกชน - บ มหาชน เงินดี งานไม่หนักมาก มีคนช่วยเยอะ แต่ความรับผิดชอบสูง ห้ามพลาด มีการเมือง

แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวคุณด้วยครับ

By: nblue
Android
on 13 November 2010 - 19:15 #231721 Reply to:231275
nblue's picture

+1 เยอะๆเลย
สรุปได้ชัดเจน เห็นภาพ และตรงมากๆๆ

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 12 November 2010 - 12:02 #231357 Reply to:231273
mr_tawan's picture

คือ ตอนเรียน คุณเรียนกว้างๆ แต่ตอนทำงานจะไม่ค่อยได้ทำกว้าง ๆ เท่าไหร่ครับ ส่วนใหญ่จะเจาะ

แต่ถ้าทำงานบ.เล็ก ๆ จะได้เจอกว้าง ๆ ซึ่งก็จะไม่ได้เจาะลงลึก ๆ


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: senseamm
iPhoneAndroidBlackberry
on 11 November 2010 - 15:39 #231132

แนะนำจากประสบการณ์เมื่อหลายปีก่อน ก้อไปสัมภาททิ้งไว้หลายที่ ก็เลือกอันที่เราคิดว่าดีและเร็วที่สุดไว้ก่อนครับ
ตอนนั้นเลือกไปทำที่ BEA ยุคนั้นก่อนที่จะถูก Oracle acquire ไปนะคับ แต่พอ IBM เรียกมาผมก็ลาออก(หลังทำไปได้ 1 เดือน) เหตุผลง่ายๆครับ เงินเดือนเยอะกว่า และในตลาดเด็กจบใหม่ตอนนั้น คนทีไม่ได้อยู่ในวงการจริงๆก็ไม่มีใครรู้จีก BEA เท่าไหร่ ทั้งที่สองที่นี้สัมภาทไปพร้อมๆกัน แต่ IBM บอกผลที่หลัง และมีอีกหลายที่ที่ได้แต่ก็ปฏิเสธไป

สรุป เลือกอันที่เราได้ชัวร์ๆและเรายอมรับกับสิ่งที่เขาตอบแทนมาให้ได้ครับ เพราะบางครั้งไอที่ว่า ชัวร์ๆอาจจะไม่แน่เสมอไปว่าจะได้ ผมว่าเป็นสิทธิ์คนมนุษย์เงินเดือน ที่จะสามารถเลือกงานได้ถ้าคุณมีความสามารถครับ

By: Bank14
ContributorAndroidRed HatWindows
on 12 November 2010 - 23:01 #231462 Reply to:231132

คือผมไม่รู้จะบอกเขาอย่างไงเวลาออกอะครับ พอมีทริคไหมครับ หรือข้ออ้างเจ๋ง ๆ อะครับ 555

By: meawwat
ContributoriPhoneAndroidSymbian
on 12 November 2010 - 23:16 #231471 Reply to:231462
meawwat's picture

ปกติผมจะบอกตามตรงครับ ที่ใหม่ให้เยอะกว่า หรือถ้าคิดว่ามันน่าเกลียดไปก็บอกชอบงานที่ใหม่มากกว่า เพราะผมว่าถ้าโกหกไปว่าจะกลับบ้านนอก หรือจะไปบวช แต่ไปเจออีกทีที่บริษัทคู่แข่งหรือบริษัทที่ต้องประสานงานกันเขาจะเสียความรู้สึกมากกว่านี้

By: thana19
iPhoneAndroidUbuntuWindows
on 11 November 2010 - 16:39 #231151
thana19's picture

ถ้าได้ของที่ไหนก่อนก็เข้าไปทำก่อนเลยครับ อย่าหวังน้ำบ่อหน้า
ถ้า บ ที่ชอบ OK มาทีหลัง ก็ออกลาออกได้ครับ
เพราะยังไงคุณก็ติดโปรอยู่แล้ว ถือว่ายังไม่ได้เป็นพนักงานเต็มตัว

ส่วนเรื่องลาออกไม่ต้องกังวลหรอกครับ ที่ว่าต้องแจ้งก่อน 30 วัน ขู่ทั้งนั้น
HR ที่ผมซี้ด้วยเค้าเคยพูดให้ฟังคำนึงว่า
"ส่วนใหญ่มีแต่กฏหมายคุ้มครองลูกจ้าง กฏหมายคุ้มครองนายจ้างไม่ค่อยมีหรอก"

ถ้าคุณจะลาออกซะอย่าง ใครก็ห้ามคุณไม่ได้

By: vecente
iPhoneAndroid
on 11 November 2010 - 17:56 #231181 Reply to:231151

แต่ก็แนะนำให้ "แยกจากกันด้วยดี" จะดีกว่านะคับ
ให้เหตุผลไปหน่อยว่าทำไมยังไง
เพราะงานด้าน IT บางทีมันก็มีการทำงานรวมๆกันของหลายบริษัท
เดี๋ยวจะมาเจอกันแล้วมันจะรู้สึกไม่ดีน่ะคับ

แล้วก็แนะนำ จขกท ว่าเลือกงานที่กำลังจะได้สองอันแรกดูคับ (ตัดช้อยให้เหลือสองตัว)
ว่าชอบที่ไหนมากกว่า ดูการเดินทางด้วยคับว่า สดวกที่ไหนกว่า เพราะบางทีเป็นปัจจัยที่สำคัญเหมือนกันในการทำงาน

แล้วพอบริษัทที่สาม เรียกมา ก็เปรียบเทียบกับ ที่เราเลือกทำในสองที่แรก
ว่าเราอยากเปลี่ยนรึป่าว ถ้าอยากก็คุยกับที่ๆเราทำอยู่บอกเหตุผลให้ดูดีหน่อย
หรือบางทีอาจจะไม่อยากย้ายเพราะถูกใจที่แรกแล้วก็ได้

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 11 November 2010 - 19:27 #231191 Reply to:231151
mr_tawan's picture

ผมพบว่า HR ของหลาย ๆ บริษัท โดยเฉพาะในวงการเดียวกัน รู้จักกันครับ ดังนั้นถ้าเกิดทำอะไรงามหน้าเอาไว้ก่อนได้งานอาจจะเกิดปัญหาในภายหลังได้

แต่ก็นะ ถ้าอยากลาออกจริง ๆ ไม่มีปัญหาหรอกครับ เด็กจบใหม่ไม่ได้หากันลำบากนักหรอก อิอิ


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: thana19
iPhoneAndroidUbuntuWindows
on 11 November 2010 - 19:44 #231197 Reply to:231191
thana19's picture

+1 "ถ้าอยากลาออกจริง ๆ ไม่มีปัญหาหรอกครับ เด็กจบใหม่ไม่ได้หากันลำบากนักหรอก"

By: Bank14
ContributorAndroidRed HatWindows
on 12 November 2010 - 05:47 #231274 Reply to:231151

มันไม่ติดเรื่องสัญญาหรอครับ ผมไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้ด้วย

By: thana19
iPhoneAndroidUbuntuWindows
on 12 November 2010 - 07:00 #231277 Reply to:231274
thana19's picture

ถ้าออกในระหว่างโปรไม่มีปัญหาหรอกครับ เพราะคุณยังไม่ได้เป็นผ่านการประเมินให้เป็นพนักงานเต็มตัว
คนที่ผมรู้จักทั้ง เพื่อน พี่ น้อง หลายคนก็ทำแบบนี้

แค่บอกหัวหน้างานคุณก่อน เมื่อได้ทำสัญญากับ บ ใหม่แน่นอนแล้ว
จากนั้นก็แจ้ง HR เรื่องวันที่จะออกก็จบครับ

By: pae
AndroidUbuntu
on 11 November 2010 - 18:20 #231187
pae's picture

หลายคนไม่มีสิทธิ์เลือกเหมือนคุณ บางคนแค่มีงานทำก็ดีถมเถ ตกงานก็เยอะแยะ โลกนี้ไม่มีอะไรมั่นคงหรอก มันมีแค่ให้คุณลองใช้ชีวิตให้คุ้ม คำตอบคุณมีอยู่แล้วเพียงแต่คุณต้องการฟังคำตอบคนอื่นก็เท่านั้น

By: mementototem
ContributorJusci's WriterAndroidWindows
on 11 November 2010 - 21:56 #231223 Reply to:231187
mementototem's picture
By: THXiLL
iPhoneAndroidUbuntuWindows
on 12 November 2010 - 08:28 #231289 Reply to:231187

คมกริบ โดนใจผมสุด ๆ +1000

By: Perl
ContributoriPhoneUbuntu
on 11 November 2010 - 20:18 #231202
Perl's picture

ตอนผมจบใหม่ไม่มีให้เลือกเลย T T
ส่ง Resume ไป 10 บริษัท
เรียกมาแค่บริษัทเดียว (แล้วก็เซ็นต์สัญญาเลย..)

ส่วน บ อื่น.. เงียบกริบ
(ใน Resume มี Cert แนบอยู่ 3 ใบรวม CCNA ที่ควักเงินไปสอบเองด้วย..)

By: katsucpe
AndroidSUSEUbuntuWindows
on 12 November 2010 - 10:21 #231332 Reply to:231202

โห มีตั้ง3ใบ งานสมัยนี้ มันหายากขนาดนั้นเลยหรอเนี่ย เหอๆ

By: Bank14
ContributorAndroidRed HatWindows
on 12 November 2010 - 11:04 #231343 Reply to:231202

สุโค่ยขนาดนี้ ผมงงจริง ๆ ว่าทำไมไม่ติดต่อมา

ผมขอนอกเรื่องนิด คุณ Perl เตรียมตัวสอบ CCNA ยังไงครับ ช่วยแนะนำด้วยครับ

By: Perl
ContributoriPhoneUbuntu
on 12 November 2010 - 16:06 #231391 Reply to:231343
Perl's picture

ก็ที่ผมเตรียมตัวมามีดังนี้ครับ

หนังสือครับ.. อ่านอยู่ซัก 4 รอบ
(คือผมใช้วิธีอ่านไปเรื่อยๆ.. แต่ถ้าวันนี้อยุดพักแล้ววันต่อไปกลับมาอ่านต่อ ผมก็จะเริ่มจากการทวนของเดิมที่อ่านเมื่อวาน ก่อนมาเริ่มบทต่อไปครับ ส่วนอีก 2 รอบที่เหลือก็มาจากการทวนทำแล็ปและก็อ่านซ้ำแบบผ่านๆครับ)
โดยหนังสือก็เริ่มจาก..

  • หนังสือ "เรียนรู้อุปกรณ์ระบบ Network จากอุปกรณ์ของ Cisco โดย อ.เอกสิทธิ์"
    (อันนี้ผมใช้เริ่มปูพื้นฐานตัวเองก่อนเลยตั้งแต่ OSI7 คืออะไร..)
  • หนังสือ CCNA Stydy Guide ของ Sybex เขียนโดย Todd Lammle

อื่นๆก็..

  • P4S (Pass4Sure) ทุกเวอร์ชันที่ดูแล้วน่าสนใจ.. (ประมาณ 5-6 อัน แบบตระเวนดูเรื่อยเปื่อยในเน็ต)
  • Testinside (เหมือนข้างบนครับ อันไหนเขาว่าดีก็โหลดๆมา)
  • Mashti 354 Question (อันนี้ใกล้เคียงของจริงมากครับ)
  • เอกสารจาก Cisco Academy นิดๆหน่อยๆเท่าที่หาเจอในเน็ต
  • เกมส์ Cisco Mind Share (Version Demo)
  • Lab Sim ทุกอันจากเว็บ http://www.9tut.com
  • Internet , uTorrent (ไว้โหลด E-Book และอะไรที่น่าสนใจ โหลดหมด..)
  • เครื่อง Print
  • ขนมและกาแฟซักแก้ว..

ผมใช้เวลาศึกษาอยู่ราวครึ่งปีก่อนไปสอบหน่ะครับ เพราะผมจบบริหารคอมฯเฉยๆ ผมเลยต้องปูพื้น Network ใหม่ตั้งแต่ต้น ใช้เวลาอ่านในช่วงซัก 3-4 ทุ่ม ไปจนถึง ตี 5,6 โมงเช้า หน่ะครับ แต่ไม่เชิงอ่านทุกวัน วันไหนเบื่อก็อยุดทำอย่างอื่น (อยุดพักเป็นอาทิตย์ก็มี..) ผมใช้วิธี Print หนังสือเหล่านี้มาเข้าเล่มแล้วอ่านหน่ะครับ (แต่ของ อ.เอกสิทธ์ สั่ง Se-Ed เอา) เจออะไรมาน่าสนใจก็ Print มาใส่กระดาษให้หมด, วิธีคำนวน Subnet แบบลัด , P4S (เอาไว้อ่านเวลาไม่อยู่หน้าคอม), IPV6 , Router - Chasis Manual, เคล็ดลับสอบผ่านของฝรั่ง หรืออะไรที่ไม่เข้าใจก็เปิด Google หาๆแล้วก็ Print ครับ แล้วก็อ่านอยู่บ่อยๆครับ (บางเรื่องอ่านเฉยๆไม่เก็ต ก็เอามาเขียนเป็นแผนภูมิเป็นขั้นเป็นตอนใส่กระดาษ ช่วยให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น) ช่วงหนึ่งที่ผมอ่านนี่ ถึงขั้นชนิดที่นอนหลับไปแล้วก็ยังฝันอยู่ว่ากำลังคำนวน Subnet อยู่เลยครับ (แต่ฝรั่งมันก็บอกนะว่า ถ้าอยากสอบผ่านก็จง กิน นอน ฝัน เป็นข้อสอบอยู่ตลอดเวลา..)

พวก Labsim,กับข้อสอบอย่าง P4S เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้สอบผ่านได้ แต่ต้องใช้ให้ถูกวิธี
นั่นคือ อ่าน เพื่อเข้าใจ Concept ว่าลักษณะแบบนี้ ปัญหาแบบนี้ เราควรทำอย่างไร
เพราะข้อสอบของจริง กับบน Labsim ถึงแม้บางทีอาจจะเหมือนกัน แต่คำตอบไม่เหมือนกันครับ อาทิเช่น

บน P4S ให้โจทย์มาว่า VTP บน Switch ตัวนี้ มีค่า Priority เท่ากับ 8 ดังนั้น มันจึงเป็น VTP Server แต่ของจริง อาจจะถามมาเหมือนกับบน P4S เป๊ะ.. แต่ Priority เท่ากับ 6 ซึ่งคำตอบกลับกลายมาเป็นว่า Switch ตัวนี้ จะเป็น VTP Client แทน ดังนั้นถ้าหากตั้งใจจะลอกแล็บไปทำข้อสอบจริงเลย รับรองดับสนิทครับ (Lab นี่สำคัญครับ ถ้าอยากสอบผ่านก็ควรทำถูกให้หมด) ดังนั้น ความเข้าใจจึงเป็นเรื่องสำคัญครับ
Labsim นั้นมีไว้เพื่อช่วยเพิ่มประสบการณ์ให้กับเรา เวลาที่ไปสอบจริงๆ จะได้รู้สึกไม่เกร็งและสับสนครับ(เดี๋ยวจะลืมข้อสอบไปซะก่อน...)

ปล.ถึงแม้จะได้ Cert มาแล้ว แต่ยังไง การทบทวนก็ยังเป็นเรื่องสำคัญ
ประกอบกับความรู้ใหม่ที่ต้องค้นหาอยู่ตลอดครับ เพราะในวงการนี้ ความรู้เป็นสิ่งสำคัญ (ต่อปากท้อง)ซึ่งมันก็ไม่อยุดอยู่ที่ NA แน่ครับ หลังจากนี้ก้าวต่อไปก็คือ NP และ IE แต่ตรงนี้..
เราสามารถให้บริษัทควักกระเป๋าลงทุนต่อแทนเราได้ครับ.. -..-

มาด้านนี้ต้องใจรักล้วนๆครับ.. ถึงแม้จะโหดแค่ไหนก็ตาม..

ปล2.รู้สึกข้อสอบพึ่งเปลี่ยนเมื่อเดือนสิงหานะ ผมไปสอบมาตอนต้นกรกฏาพอดี ยังทันข้อสอบชุดเดิม ดังนั้นถ้าจะสอบก็ต้องหาข้อมูลให้เยอะกว่าเดิมหน่อย เพราะอาจจะมีคำถามบางข้อที่เราไม่เคยเจอมาก่อนผุดมาก็ได้

By: Bank14
ContributorAndroidRed HatWindows
on 12 November 2010 - 22:47 #231457 Reply to:231391

ขอบคุณครับ ละเอียดมาก

By: Bank14
ContributorAndroidRed HatWindows
on 11 November 2010 - 22:31 #231232

ขอบคุณมากครับ บอร์ดนี้อบอุ่นมากครับ
ผมซึ้งใจจริง ๆ

By: metrosexual
iPhone
on 12 November 2010 - 03:50 #231263

ก็เลือกรับงานที่ได้ก่อน และถ้าอันที่เราชอบที่สุดได้ ก็ไปขอลาออกจากที่แรก บอกว่ามันไม่ใช้ แล้วไปที่ใหม่ ง่ายดี ฮ่าๆๆๆ

By: javaboom
WriteriPhone
on 12 November 2010 - 09:46 #231316
javaboom's picture

บางครั้งที่เราคิดว่าชอบแต่ต่อมามันก็ไม่ใช่ บางครั้งอะไรที่เราคิดว่าใช่แต่ต่อมาเรากลับไม่ชอบ บางครั้งแค่ "คิดว่า" และใช้ความรู้สึกเข้าตัดสินก็คงไม่รู้ถ้ายังไม่ได้ทำ

ขอแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวนิดนึง คือ สิ่งที่ผมชอบ พอทำไปแล้ว เจออุปสรรคนานัปการจนเกิดความกลัว จนท้ายที่สุด ผมก็คิดว่าผมไม่ชอบแล้วแหละ หารู้ไม่ว่าที่ผมไม่ชอบ เพราะว่าผมกลัว กลัวอุปสรรค กลัวล้มเหลว แต่พอตัวเองได้กลับมาคิดว่าไม่ชอบเพราะกลัวเนี่ยมันไม่สมเหตุสมผล ไม่ต่างอะไรกับเจ้าสาวที่กลัวฝนเลย (กรณีนี้ ผมเป็นเจ้าบ่าว) จากนั้น ผมเลยเข้าใจแล้วว่า อย่าให้ความกลัวมาเป็นเหตุผล(แก้ตัว)ในการไม่ชอบ ... ฝากไว้เผื่อเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยในอนาคตครับ


My Blog

By: Bank14
ContributorAndroidRed HatWindows
on 12 November 2010 - 11:13 #231346 Reply to:231316

ขอบคุณครับ ที่มาแชร์กัน

By: Bank14
ContributorAndroidRed HatWindows
on 12 November 2010 - 23:02 #231463 Reply to:231316

ครับ ฟังแล้วได้กำลังใจมาก ขอบคุณครับ

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 12 November 2010 - 16:03 #231393
PaPaSEK's picture

วิธีเลือกที่ดีสำหรับผมคือ

เลือกสิ่งที่เราจะอยู่กับมันได้เสมอๆ ตลอดๆ ยาวๆ และเรามีใจที่จะศึกษาเพิ่มเติม
ผมก็มาสายโปรแกรมเมอร์ บริษัทที่ผมทำอยู่ไม่ค่อยได้ใช้เทคโนโลยีอะไร

ผมเป็นรุ่นบุกเบิกและพยายามหาอะไรใหม่ๆ มาให้บริษัทใช้เสมอ
ผมดีที่มีหัวหน้าคอยสนับสนุน โดยเราไปเสนอว่ามันดีกว่ายังไง เค้าก็ชอบ

ผมก็ต้องศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเสมอ

สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากการทำงานก็คือ ผมชอบที่จะเรียนรู้ และแบ่งปันให้เพื่อนร่วมงาน
ยิ่งแบ่งปัน ความคิดของผมยิ่งได้รับการขัดเกลา

อยากได้อะไร ให้ขอตัวเองก่อน อย่ารอคนอื่น อย่าคิดว่าไปที่นั่นที่นี่ดีกว่าเพราะมีคนคอยให้ครับ

By: TakeshiBoy on 12 November 2010 - 16:27 #231398
TakeshiBoy's picture

--

By: Bank14
ContributorAndroidRed HatWindows
on 12 November 2010 - 22:59 #231461 Reply to:231398

คือสื่ออะไรครับ? ผมงง

By: NgOrXz
iPhoneAndroidWindows
on 12 November 2010 - 17:20 #231401
NgOrXz's picture

ยังดีนะครับมีให้เลือก ผมไม่มีให้เลือกเลย อยากจะเปลี่ยนงานจะแย่และอิอินอกเรื่อง

ก็บอกเขาไปได้นะครับว่าจะพร้อมทำงานกันเดือนหน้าเราก็รอผลทั้งสองที่ก่อนประมาณนั้นไม่ต้องรีบร้อนไปทำงานก็ได้นะ

By: ipats
ContributorNOOBIn Love
on 12 November 2010 - 19:15 #231423

เข้าใจว่าคุณจะจบปีหน้าใช่ไหมครับ ถ้าเป็นผม ตอนไปสัมภาษณ์บ. แรกๆ ก็จะไป เพื่อดูว่างานจริงๆ แล้วมันเป็นอย่างไร คุยให้เคลียร์ แล้วก็บอกเค้าไปตรงๆ ว่า ขอตัดสินใจก่อนได้ไหม ขอให้คำตอบเดือนหน้าเพราะไปสมัครไว้หลายที่ ขอดูงานแต่ละที่ก่อน ถ้าเค้าโอเคก็ดีครับ แล้วพอตัดสินใจได้แล้วอย่าลืมบอกเค้าด้วย ไม่ใช่หายไปเฉยๆ

แต่ถ้าเค้าไม่ยอม อันนี้ก็คงต้องบอกตัดไปเลยครับ เพราะเรื่องแค่นี้ยังมีปัญหา อนาคตมันจะมีปัญหามาอีกเยอะ, แน่นอนว่าการบอกไปตรงๆ ว่าคุณสมัครหลายที่ "อาจจะ" ทำให้เสียคะแนนไปบ้าง แต่ผมคิดว่า HR เข้าใจครับ คนเพิ่งจบใหม่ (ยังไม่จบด้วยซ้ำ) ก็ต้องขอทางเลือกบ้าง

และถึงแม้ว่า ถ้าลุ้นบ. สุดท้าย แล้วไม่ได้เลย คุณก็ยังมีเวลาอีกหลายเดือนกว่าจะจบครับ, อันนี้เป็นกรณ๊ที่คุณจบปีหน้านะครับ ถ้าจบแล้ว และกำลังว่างงาน อันนี้อีกเรื่องนึง

ส่วนตัวผมเอง ก่อนจบ ช่วงนี้นี่แหละ บ. มา recruit ที่ม. เยอะอยู่ แต่ผมก็สมัครไปที่เดียว แล้วก็ได้ ทำไปถึงช่วงจะพ้นโปร ไม่ชอบ ก็ออก ไปทำต่อที่อื่น, ทำไปทำมา ไม่ชอบอีกก็ออก จนกว่าจะเจอที่ชอบ, อาจจะเสียเวลาทั้งเค้า ทั้งเรา แต่ก็จะได้รู้ว่าชอบจริงๆ ไหม ไม่ใช่แค่สัมภาษณ์ คุยกันไม่กี่ชั่วโมง :D


iPAtS

By: Bank14
ContributorAndroidRed HatWindows
on 12 November 2010 - 22:57 #231460 Reply to:231423

ถ้าหมายถึงตามเกณฑ์คือปีหน้าครับ แต่พอดีผมจบ 3ปีครึ่ง ก็คือจบแล้วนั้นแหละครับ หน่วยกิตครบแล้ว เหลือรอรับปริญญาสิ้นปีหน้า

วันนี้ผมก็พึ่งไปสัมภาษณ์มาอีกที่ ก็ทำอย่างที่คุณบอกอะครับ ขอเวลาเขาตัดสินใจ จากทีแรกที่มีท่าทีอยากรับผม คุยกันออกรสเลย ก็กลายเป็นว่า เขาตัดบทเฉย ๆ แล้วบอกว่า "เรามีผู้สมัครอีกหลายคนรอสัมภาษณ์ ขอบคุณที่สละเวลามาครับ" สงสัยเขาคงไม่แคร์หละครับ ผมจ๋อยเลย

By: thana19
iPhoneAndroidUbuntuWindows
on 13 November 2010 - 12:53 #231635 Reply to:231460
thana19's picture

ก็ถือว่าเรียนรู้ไว้เป็นประสบการณ์นะครับ โลกของจริงกับโลกในอุดมคติมันต่างกัน
นอกจากคุณจะเก่งขั้นเทพยอดเซียนมาเองเลย หรือเส้นใหญ่แน่นปึ้ก เค้าถึงจะง้อคุณ

แล้วยิ่งไปพูดว่าขอเวลาตัดสินใจเพราะสมัครไว้หลายที่อย่างนี้เป็นผมไม่ทำครับ
เพราะถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติ บ ที่ไปสมัคร

ตอนผมไปคุยผมจะถามเรื่องลักษณะงาน เงินเดือน โบนัส ผลตอบแทน เวลาทำงาน ให้เครียร์ครับ
ถ้าเรารับได้ก็ตอบโอเคเลย ถ้ารับไม่ได้ก็เซย์โน

By: Bank14
ContributorAndroidRed HatWindows
on 13 November 2010 - 13:59 #231657 Reply to:231635

ขอบคุณครับ ถือเป็นประสบการณ์ละกัน --'

By: ipats
ContributorNOOBIn Love
on 14 November 2010 - 18:56 #231899 Reply to:231460

ผมว่าคนสัมภาษณ์ไม่มีสปิริตมากกว่าครับ แต่มันก็สิทธิ์ของเค้าครับ เค้ามีคนมาสมัครหลายคน เราก็มีไปสมัครหลายที่ ก็แฟร์ๆ


iPAtS

By: meawwat
ContributoriPhoneAndroidSymbian
on 14 November 2010 - 21:29 #231928 Reply to:231899
meawwat's picture

ในมุมมองผมว่าสปิริตไม่เกี่ยวครับ ตอนไปสัมภาษณ์นั่นคือเราต้องไปง้อเขา เขาไม่จำเป็นต้องมีสปิริตกับเราก็ได้ครับง่ายๆคือเขาไม่จำเป็นต้องง้อ แต่พอ HR ตัดสินใจเลือกเราแล้ว เราถึงพอจะทำแบบนั้นได้ครับเพราะถือเป็นช่วงของการต่อรอง

By: ipats
ContributorNOOBIn Love
on 14 November 2010 - 22:21 #231936 Reply to:231928

อันนี้คงต้องแล้วแต่คนแล้วหล่ะครับ ว่าเรามีความสามารถให้เค้ามาง้อเราไปช่วยเค้า หรือเราต้องไปง้อขอเค้าทำงาน


iPAtS

By: pae
AndroidUbuntu
on 15 November 2010 - 10:38 #232066 Reply to:231936
pae's picture

หลักการโดยทั่วไปคือซื้อถูกขายแพง คุณมีค่าเป็นแค่สินค้าตัวหนึ่ง ถ้าคุณเก่งคุณต้องทำงานทำเงินให้บริษัทได้มากกว่าค่าจ้างหลายเท่า มีสินค้ามากมายให้เลือกในตลาดครับ มุมของเจ้าของกิจการไม่ควรคิดง้อลูกจ้างเท่าใดนักเพราะจะทำให้เสียการต่อรองครับ มันเป็นแค่เกมส์เท่านั้นหากคุณคิดว่าต้องง้อให้คุณมาทำงานด้วยผมจะจ้างคุณมาเพื่อกดดันผมทีหลังทำไมครับ ผู้จ้างมีสิทธิ์เลือกมากมายกว่าผู้ถูกจ้างนักหากไม่ค้ากำไรเกินไป ยอมจ่ายมากหน่อยได้คนดีที่ไม่เรื่องมากแน่นอน

By: daddydog on 14 November 2010 - 13:47 #231852

ถามตัวคุณดีกว่าไหม ว่าจะทำอะไรให้กับบริษัทที่คุณจะไปอยู่แต่ล่ะที่ได้บ้าง ก่อนที่จะตัดสินใจครับ

หลายครั้งที่ผมรับพนักงานเข้ามานั้น ความต้องการของพวกเค้ามากมาย เงินเดือน สวัสดิการ แต่ไม่มีซักคนที่รู้ว่าตนเองมีศักยภาพ พอที่จะได้รับสิ่งที่ตนนั้นต้องการรึปล่าว บางคิดว่าตนเองนั้นเทพสุดๆพอรับมาทำจริงๆก็งั้นๆแถมทำงานยังเทียบไม่ได้กับเด็กจบ ปวช ปวส ที่ทำอยู่ก่อนเลย

ขอให้โชคดีได้ทำงานกับ บ ที่เหมาะกับตนเองครับ

By: Bank14
ContributorAndroidRed HatWindows
on 14 November 2010 - 22:29 #231940 Reply to:231852

ขอบคุณที่ช่วยเตือนสติครับ เป็นมุมมองที่ดีมากเลย ถามก่อนว่าเราให้อะไรองค์กร ก่อนถามว่าองค์กรให้อะไรเรา

By: tekkasit
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 14 November 2010 - 14:45 #231859
tekkasit's picture
  • เด็กใหม่สำหรับองค์กรแล้ว ไม่มีความรู้อะไรให้องค์กรเลยครับ เค้าจะดูวินัย, ทักษะการแก้ปัญหา, การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า, ทัศนคติ, ทักษะการทำงานร่วมกัน มาถึงเค้าต้องติดอาวุธให้กับคุณ ให้คุณทำงาน(และทำเงิน)ให้กับเค้าได้
  • สถานที่ทำงาน จริงๆแล้ว คือที่ที่ทำงาน เค้าต้องการประโยชน์จากคุณ ที่นั่นไม่ใช่โรงเรียน อย่าได้คาดหวังว่าเค้าจะพัฒนาคุณอย่างงั้นอย่างงี้ไปตลอด ถึงแม้จะดูดี แต่เอาเค้าจริงๆ คนมันก็ชิงลาออกก่อน เรียกว่าหาเด็กจบใหม่ที่ทำงานได้ห้า-หกปีนี่บางทีหากันยากแล้ว แล้วเค้าจะทำ carrier path ไปทำแมวอะไร
  • ในสายตาของนายจ้าง เค้าไม่ต้องการคนที่เอาเด็กจบใหม่แต่ต้องแต่จัมป์ ทำงานแต่ล่ะที่ไม่ถึงสองปี เพราะแค่เวลาแค่ปี-สองปี เด็กมันยังไม่ถึงขั้นที่เปล่งประกายออกมาเลย น่าเศร้า แต่เด็กปัจจุบันที่ทำงานที่แรก อยู่กันแค่สองถึงสามปีเป็นส่วนใหญ่

  • อย่าโกหกตัวเอง จงหาตัวเองให้ได้ ว่าตัวเองชอบ/รักที่จะทำสิ่งใด (นอกจากเงิน,สวัสดิการ,วันหยุด,โบนัส,การอบรมแบบเต็มรูปแบบ,การไปอบรมต่างประเทศ) พอใจที่จะอยู่ตรงนั้นอีกห้าปี สิบปี และทำในสิ่งที่รัก

By: qute on 17 November 2010 - 15:30 #232868 Reply to:231859

"เพราะแค่เวลาแค่ปี-สองปี เด็กมันยังไม่ถึงขั้นที่เปล่งประกายออกมาเลย"
- ยังไม่ถึงขั้นกับยังไม่เจอนี่ต่างกันนะครับ :)

By: tekkasit
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 17 November 2010 - 19:38 #232909 Reply to:232868
tekkasit's picture

คือผมว่า เด็กจบใหม่ เข้าทำงานแค่ปี-สองปี แล้ว สิ่งที่เค้า contribute ยังไม่มากกว่าสิ่งที่เค้าได้เรียนรู้จากบริษัทครับ โดยเฉพาะในแง่ professionalism, methodology, การทำงานเป็นทีม

By: kurosame
ContributoriPhone
on 15 November 2010 - 10:46 #232069
kurosame's picture

ไม่ว่าจะเลือกอะไรก็ตาม เมื่อได้งานแล้วไม่ใช่เราเข้าเส้นชัยแต่เราเพิ่งเริ่มต้นต่างหาก
อยากจะฝากไว้อีกนิดว่างานประจำเป็นการเริ่มต้นที่ดี แต่ทางเลือกของเรามีเยอะลองศึกษาดูครับ


{$user} was not an Imposter

By: panitw
Windows Phone
on 15 November 2010 - 21:01 #232205
panitw's picture

จากที่เคยเป็นคนสัมภาษณ์ครับ (อันนี้คงแล้วแต่แต่ละบริษัทนะ วัฒนธรรมองค์กรไม่เหมือนกัน)

  • เกรดเท่าไหร่ ไม่ค่อยได้ดูมาก เกรดน้อยสองนิดๆตอบคำถามเข้าท่ากว่าเกรดสามจุดห้าก็มี
  • Cer กี่ไบ ก็ดูไปงั้นๆ เห็นมาหลายคน Cer เยอะ แต่ถามอะไรตอบไม่เห็นจะได้
  • Technical ก็ดูบ้าง แต่ไม่มาก เพราะเด็กจบใหม่ต้องเข้ามาเรียนรู้อยู่แล้ว
  • สิ่งที่สำคัญคือ คุยกันรู้เรื่องฉะฉาน มั่นใจในตัวเอง รู้ก็บอกว่ารู้ ไม่รู้ก็อาจจะลองพยายาม เสนอ idea ที่ตัวเองพอจะรู้
  • ขายตัวเองเป็น ไม่ใช่เข้ามานั่งเงียบถามคำตอบคำ
By: Perl
ContributoriPhoneUbuntu
on 15 November 2010 - 21:59 #232213 Reply to:232205
Perl's picture

แล้วดูที่อะไรใน Resume ละครับ
แบบว่าอยากรู้นิดๆเป็นวิทยาทาน เผื่ออาจจะได้จบใหม่อีกครั้ง 55+

คือก่อนหน้านี้แต่ก่อนผมเคยส่งไปหลายบริษัทหน่ะครับ แต่ไม่มีใครโทรเรียกไปสัมพากษ์เลยครับ (ผมเองก็กะเตรียมความรู้ไว้เต็มที่ คิดในใจว่าถ้าได้สัมพากษ์แล้วก็จะยิงโป้งเดียวจอด เพราะผมอยากได้ประสบการณ์การทำงานในสายอาชีพนี้เป็นอย่างมาก แต่โอกาสที่จะได้เข้ามาคุยซักนิดยังไม่มีเลย T T )

...จนกระทั่งเดี๋ยวนี้มีงานทำแล้วก็ยังไม่มีคนโทรมาเลย T T ชีวิตรันทด ซิกๆ..
(แต่อันที่จริงแล้ว มีโทรมาแค่ บ เดียวครับ แล้วก็ได้งานที่นี่หล่ะ ฮา.. ส่วนที่เหลือไม่มีครับ ส่งไปซัก 10 บ นี่หล่ะ..)

By: daddydog on 15 November 2010 - 22:58 #232226 Reply to:232213

อันนี้ไม่ยาก ดูราคา ก่อนครับ ถ้าฐานเงินเดือนสูงอยู่แล้วก็ไม่เรียกให้เมื่อยหรอกครับ

By: panitw
Windows Phone
on 15 November 2010 - 23:09 #232227 Reply to:232213
panitw's picture

Resume ผมดูหลักๆก็แค่ว่า เคยผ่านงานตำแหน่งไหนมาบ้าง มีประสบการณ์อะไรบ้าง เพื่อเอาไว้ถามเจาะรายละเอียดตอนสัมภาษณ์ครับ

คือถ้ามีประสบการณ์แล้ว ถ้าในด้าน Technical ก็คงจะดูว่า

  • สิ่งที่พวกผมทำในบริษัท คุณมี Skill ที่ตรงกันมั้ย ถ้าไม่ตรง เฉียดๆรึเปล่า หรือว่าสามารถแถไปได้ (คือใช้ความรู้ที่มีมาตอบคำถามเพื่อแก้ปัญหาได้)
  • ตอบคำถามทดสอบ Skill ที่เตรียมไว้ให้ได้ในระดับนึง
  • สามารถแก้ปัญหาสมมุติ ที่ตั้งขึ้นมาให้ลองคิดได้
  • ดูวิธีการแก้ปัญหาด้วยว่าแก้อย่างไร บางที่แก้ไม่ได้คำตอบ แต่วิธีการแสดงให้เห็นว่าพอไปได้ ก็ยังโอเค
  • การตอบคำถามที่ฉะฉาน มนุษยสัมพันธ์พอใช้ได้
  • "ส่วนตัว" ผมไม่ชอบคนที่ชอบอ้างว่า เนี่ย ถ้ามีอินเตอร์เน็ตผมจะตอบได้เลย

ส่วนที่เหลือก็คงจะเป็นด้านลักษณะนิสัย และภาษาอังกฤษครับ

By: kowito
Android
on 16 November 2010 - 01:21 #232248 Reply to:232227

"ถ้ามีอินเตอร์เน็ตผมจะตอบได้เลย"อันนี้เคยเจอเหมือนกัน แต่ผมว่าก็พอไปได้นะ อย่างน้อยก็รู้ว่าจะหายังไง เพราะเวลาทำงานจริงก็หาจาก อินเทอเน็ตเป็นหลัก

By: panitw
Windows Phone
on 16 November 2010 - 07:23 #232280 Reply to:232248
panitw's picture

ถ้าให้คำถามว่า ลองอธิบายความแตกต่างระหว่าง Abstract class กับ Interface Class ใน C# หน่อยครับ พร้อมกับลองเสนอ idea ด้วยว่าเมื่อไหร่ควรจะใช้ตัวไหน

แล้วเจอคำตอบว่า

"ถ้ามี Internet ผมจะตอบได้ครับ" หรือ "อันนี้ผมไม่ค่อยรู้ทฤษฎีครับ แต่เขียนได้"

แบบนี้สมควรรับเข้าทำงานมั้ย -_-'

จริงๆคำถามข้างบนเนี่ย Screen คนที่บอกว่าเขียน C# เป็นทิ้งไปได้ 60% ;)

By: meawwat
ContributoriPhoneAndroidSymbian
on 16 November 2010 - 10:09 #232340 Reply to:232280
meawwat's picture

+1 ครับ

ผมแบ่งความรู้ด้าน Programming เป็น 2 ประเภทคือ ความรู้ที่ใช้คิดหาแนวทาง กับ ความรู้ที่ไม่จำเป็นต้องจำ

  • ความรู้ที่ใช้คิดหาแนวทางนี่ก็พวกทฤษฎีการเขียนโค้ดทั้งหลาย ซึ่งเวลาจำเป็นต้องใช้มันควรผุดขึ้นจากหัวมากกว่าไปหาใน internet
  • ความรู้ที่ไม่จำเป็นต้องจำ ส่วนตัวเนื่องจากงานผมต้องใช้หลายภาษา ผมจึงมองว่า Syntax ทั้งหลายนี่ไม่จำเป็นต้องจำ เอาแค่รู้ว่ามี เวลาจะใช้ค่อยเปิด Reference เอา แต่ถ้าจำได้มันก็ทำให้ทำงานได้เร็วขึ้น

ส่วนตัวผมเคยแต่เป็นคนโดนสัมภาษณ์ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมหลายบริษัทจึงใส่ใจในเรื่อง Syntax มากกว่าจะถามปัญหาเกี่ยวกับ Logic (เพราะถาม Syntax แล้วผมตอบไม่ได้น่ะครับ :p )

By: tekkasit
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 16 November 2010 - 10:40 #232355 Reply to:232340
tekkasit's picture

Syntax นี่กรองคนมั่วนิ่มครับ ที่โวกันเห็นหางว่าว ว่าเป็นนี่เป็นนั่นและเป็นโน่น เอาแค่ว่าคุณมีประสบการณ์แค่ไหนกับภาษาที่ว่า ไม่ใช่ Hello, World ได้แล้วก็จับยัดมาใน Resume รู้ไหมว่ามันมีหลักการอย่างไรกัน อะไรทำนองนี้ครับ

By: meawwat
ContributoriPhoneAndroidSymbian
on 16 November 2010 - 11:20 #232380 Reply to:232355
meawwat's picture

เรื่องหลักการผมว่าโอเคนะ แต่ Syntax นี่ผมว่ามันฝึกกันได้เร็วนะครับ เรื่องทฤษฎีนี่ผมว่าสำคัญกว่านะเพราะถ้าวัฒนธรรมการเขียนโค้ดไม่เหมือนกันก็ทำงานด้วยกันได้ยาก เช่น ถ้ามีเด็กใหม่คนนึงไม่รู้จัก OOP เขาไม่รู้ข้อเสียของคำสั่ง goto หรือตัวแปร global คิดว่าไม่เห็นจะเสียหายตรงไหนเลย ไม่รู้ OOP ก็ทำงานเสร็จเหมือนกัน เขาก็เขียนไปให้งานเสร็จโดยใช้ goto กับตัวแปร global วิ่งพันกันมึนไปหมด สุดท้ายพอเด็กคนนั้นออกไป คนที่จะลำบากคือคนที่เขียนโค้ดต่อน่ะครับ

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 16 November 2010 - 15:49 #232466 Reply to:232380
mr_tawan's picture

Syntax หัดกันได้เร็วครับ ปรกติผมอยากศึกษาภาษาอะไรก็แค่ซื้อหนังสือ XXX in A Nutshell สักอาทิตย์นึงก็พอเข้าใจภาษานั้น ๆ แล้ว (แต่ควรมีพื้นฐานในภาษาใกล้เคียงกันก่อนนะ)

ผมมีตระกูลขาวคาดแดงอิฐอยู่เกือบสิบเล่มแล้วครับ


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: panitw
Windows Phone
on 15 November 2010 - 23:12 #232228 Reply to:232213
panitw's picture

จริงๆแล้วเรื่องการส่ง Resume อย่างบริษัทผมเค้าจะมี HR คอย Screen ให้ทีนึงก่อนว่ามี Skill ตรงกับตำแหน่งที่ต้องการรึเปล่า รวมถึงพวก Prerequisite ที่ตั้งไว้ ถ้าไม่ตรง เค้าก็จะไม่ส่งมาให้ครับ

ทีนี้ ถ้ามี Resume อยู่ยี่สิบ HR เค้าจะหยิบใบไหนมาก่อนมาหลัง อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ แต่ผมเดาว่าเค้าคงดู Skill ที่ตรงกับที่ต้องการเป็นหลัก

By: Bank14
ContributorAndroidRed HatWindows
on 17 November 2010 - 02:22 #232692 Reply to:232213

ผมเคยได้ยินว่าการเขียน resume ไม่ควรยึดติดกับรูปแบบของคนอื่น มันบ่งบอกตัวเราเองอะครับ พูดง่าย ๆ ก็คือ ผมใช้วิธีเอาใจเขามาใส่ใจเรา ดูว่าเขาต้องการดูอะไรของเรา แล้ว resume เด็กจบใหม่กับคนทำงานแล้วไม่เหมือนกัน ของผมมีหน้าเดียวเอง แต่เนื้อ ๆ เลย อะไรไม่สำคัญตัดทิ้ง เอาการศึกษาขึ้นก่อนเลยเพราะเกรดดี ต่อด้วย skill ตามด้วย activities พวกข้อมูลส่วนตัวก็ใส่เฉพาะที่จำเป็นอะครับ แล้วคุณเชื่อไหมว่า HR เขาดู resume เฉลี่ยต่อคนแค่ 1 นาทีเองเองนะ --'

By: panitw
Windows Phone
on 17 November 2010 - 05:59 #232713 Reply to:232692
panitw's picture

เห็นด้วยครับ เอาเนื้อๆเน้นๆ ประสบการณ์เป็นอะไร ทำโปรเจคจบอะไรมา ทำอะไรได้บ้าง

ไอ้พวกนิสัยใจคอ งานอดิเรกนี่ ไม่เคยสนใจอ่านจาก resume เลย

By: Perl
ContributoriPhoneUbuntu
on 17 November 2010 - 08:07 #232723 Reply to:232692
Perl's picture

ของผมมี Education ,Personal Information(แค่เชื้อชาติ อายุ ส่วนสูง),Employment,Ability,Works & Experience ตามลำดับ แค่นี้หล่ะ = ="

ส่วน Template การจัดวาง เอามาจากเว็บนอก แต่เนื้อหาทำเองหมด มี Eng,Thai อย่างละ 2 หน้า อะไรที่เยิ่นเย้อลดออกหมด

ปล.แต่ยังไงก็ขอบคุณที่มาช่วยๆกันแชร์ครับ เผื่ออาจเป็นประโยชน์ให้กับใครอีกหลายคนครับผม ฮา...

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 16 November 2010 - 10:42 #232357 Reply to:232205
mr_tawan's picture

ผมเคยเป็นคนสัมภาษณ์อยู่พักนึงเหมือนกันครับ แต่เป็นสัมภาษณ์แบบ pre-screening มากกว่า (ผมไม่ตัดสินใจว่าใครจะอยู่ใครจะไป) ส่วนใหญ่ที่ผมเจอคือให้ทำเทสต์ก่อน ถ้าทำเทสต์ไม่ผ่าน (ข้อสอบห้าข้อ เขียนโปรแกรมหมด) ก็ปล่อยกลับบ้านเลย... โหดมั้ย :-)


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: Perl
ContributoriPhoneUbuntu
on 16 November 2010 - 13:10 #232413 Reply to:232357
Perl's picture

หลายๆที่ก็แบบนั้นครับ ผมมาสาย Engineer เคยเจอที่หนึ่ง..
เป็น Cisco Silver พอเข้าห้องเย็นปุ๊ป โยน Tesking ให้ปึกหนึ่ง
(ข้างในเป็นข้อสอบ CCNA นะหล่ะครับ) พร้อมคำถามสังคม,จิตวิทยาและคณิตตบท้ายอีกนิดหน่อย..

จบใหม่อย่างผม ใบ้แดรกครับ T T
นั่งสอบ 1 ชม+พูดคุยอีก 2 ชม = 3 ชม (ถามแม้กระทั่งพ่อแม่ทำงานอะไร..)

พอเสร็จแล้วก็เดินออกมาอย่าง Failๆ พร้อมกับความมั่นใจจบใหม่ที่หายไปอีกเป็นกอง..

หลังจากนั้น ผมจึงกลับบ้านมานั่งอ่านหนังสือสอบ Cert อยู่ครึ่งปี (มีงบอยู่ก้อนเดียวยังไงก็ต้องผ่าน)แล้วก็มาหาสมัครงานใหม่นี่หล่ะครับ แต่ที่ใหม่ที่ผมทำนี่เป็น Gold ไม่มีไรมากแค่สัมพากษ์ปากเปล่ากับหัวหน้า Engineer ตอบคำถามความรู้นิดๆหน่อย เสร็จปุ๊ป.. เซ็นต์เลย = ="

By: Bank14
ContributorAndroidRed HatWindows
on 17 November 2010 - 02:35 #232693 Reply to:232413

ผมก็เคยคล้าย ๆ กันครับ แต่ไม่น่าหินเท่าของคุณ Perl แต่เขาเทสเยอะมากครับ ให้ทำเทส personal กับ logic ผ่านคอมฯก่อน ต่อมาก็โยนข้อสอบ Eng, Network, IQ ให้ บอกว่าทำให้เสร็จภายใน 2 ชม. อ๋อเลยครับ แต่ตัวข้อสอบไม่ Technical เจาะลึกมากนัก สุดท้ายมี HR 2 คน+IT manager 1 คน มาสัมภาษณ์ผม สรุปสุดท้าย ไม่เรียกครับ 555

By: Bank14
ContributorAndroidRed HatWindows
on 17 November 2010 - 02:37 #232694 Reply to:232357

เขียนอย่างไงหรอครับ ใส่กระดาษหรือรันคอมฯ เลย แล้วเทสภาษาอะไรหรอครับ

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 17 November 2010 - 12:01 #232799 Reply to:232694
mr_tawan's picture

กระดาษครับ โจทย์ทั้งหมดเลือกได้ว่าจะใช้ C++ หรือ Java (แล้วแต่ถนัด) แต่ส่วนใหญ่แล้วคนใช้ Java จะโดนโจทย์หลอกครับ ... เพราะจะมัวแต่นั่งคิดว่าจะใช้ API ตัวไหนดี ทั้ง ๆ จริง ๆ เค้าให้เขียนเองครับ 555


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 17 November 2010 - 15:42 #232801 Reply to:232357
mr_tawan's picture

ผมแถมให้อีกอัน อันนี้คือโดนทดสอบเอง ข้อสอบเขียน 33 ข้อเวลา 1 ชม. .. เฉลี่ยข้อละไม่ถึง 2 นาที โจทย์เกี่ยวกับทฤษฎี (เช่น oop) ,syntax ของ C++ แล้วก็เป็นทดสอบเขียนโปรแกรมเล็ก ๆ ผมปั่นหูตูบเลยครับ 555 สุดท้ายเว้นไว้ข้อนึงเพราะว่าเค้าใช้ศัพท์ที่ไม่คุ้น แต่สุดท้ายก็กลับมาแก้ตัวตอนสัมภาษณ์ครับ (เค้าถามว่าข้อนี้ทำไมถึงเว้นไว้)


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: equivalent
ContributorAndroid
on 17 November 2010 - 14:34 #232849 Reply to:232205

แล้วไม่กลัวประเภทตรงกันข้ามมั่งหรอครับ พวกที่ตอนเรียนไม่เคยทำงานกลุ่มเอง แต่มีหน้าที่พรีเซ้น จนมีสกิลพรีเซ้นระดับเทพ พูดเก่งมาก ขายตัวเองเก่งมาก แต่จริงๆไม่เคยทำอะไรเองเลย

By: Bank14
ContributorAndroidRed HatWindows
on 17 November 2010 - 16:43 #232881 Reply to:232849

ผมว่าคนทำเองรู้ดีที่สุดครับ แต่บางทีคนพร๊เซนเก่ง ๆ มันก็แถเนียนอะนะ ไหวพริบมันสอนกันไม่ได้ซะด้วย เอิ๊ก ๆ

By: equivalent
ContributorAndroid
on 17 November 2010 - 20:15 #232926 Reply to:232881

ใช่ครับ ทำเองรู้ดีที่สุด แต่อาจไม่มีสกิลด้านการพรีเซ้นเลย ทำงานเก่งมากแต่เรียบเรียงคำพูดไม่เก่ง ผมว่าเสียโอกาสนะถ้าจะคัดคนออกเพราะแค่การพูด

By: qute on 18 November 2010 - 17:33 #233301 Reply to:232926

ทำเป็นแต่พูดไม่ได้มันแค่ข้ออ้างของคนรู้ไม่จริงครับ

ป.ล. ผมเคยคิดแบบเดียวกับคุณแต่พอโตขึ้นถึงรู้ว่าตอนนั้นผมยังเก่งไม่พอที่จะเรียบเรียงเรื่องยากๆ ให้คนอื่นเข้าใจได้แบบง่ายๆ

By: panitw
Windows Phone
on 17 November 2010 - 23:14 #232961 Reply to:232849
panitw's picture

คนสัมภาษณ์สุดท้ายก็ต้องลุ้นเอาครับ เพราะว่าสัมภาษณ์กันแค่ 1 ชม. คนที่พูดจาฉะฉาน Present ดี ส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่รู้ในงานตัวเองอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าคงมีบางส่วนที่พูดเก่งแต่ทำจริงไม่ได้เรื่อง ตรงนั้นก็เอาช่วง Probation มาใช้ได้ครับ ทดลองงาน ถ้าไม่ work ก็ไม่ให้ผ่าน

By: jax_mam_kong
AndroidUbuntu
on 17 November 2010 - 07:55 #232722

คนมีสิทธิ์เลือกก็ทุกข์ เพราะไม่รู้จะเลือกที่ไหนดี คนไม่มีสิทธิ์เลือกทุกข์ยี่งกว่า เพราะไม่มีที่ไหนเลือก เฮ้อ หาความพอดีลำบากจัง

By: Bank14
ContributorAndroidRed HatWindows
on 17 November 2010 - 16:40 #232880 Reply to:232722

บางทีมันเป็นเรื่องของโอกาสด้วยครับ ตอนจบเดือนแรกผมก็แทบไม่มีเลย พึ่งมาเยอะตอนช่วงนี้

By: lilybluecat
iPhoneWindowsIn Love
on 17 November 2010 - 12:58 #232806
lilybluecat's picture

ยินดีต้อนรับเจ้าของกระทู้เข้าสู่ "ระบบ" ครับ

By: Bank14
ContributorAndroidRed HatWindows
on 17 November 2010 - 16:38 #232879 Reply to:232806

ขอบคุณครับ ทำไงได้ คงต้องเข้าระบบก่อน ปีกกล้าขาแข็งค่อยออก 555

By: equivalent
ContributorAndroid
on 17 November 2010 - 20:16 #232927 Reply to:232806

สงสัยยังไม่มีคนมา tag ภาพ