Tags:
Node Thumbnail
หลังจากได้อ่านข่าวเรื่อง Oracleประกาศสงครามกับ MySQL ที่เขียนโดยคุณ lew เมื่อสามวันก่อน ผมก็เกิดอาการคันไม้คันมืออยากเขียนเรื่องนี้บ้าง อาจไม่ตรงคอนเซ็พท์ blognone เท่าใดนัก แรก ๆ อาจยืดเยื้อเล็กน้อย ยังไงขอเชิญทุกท่านเชิญอ่านครับ

หมายเหตุ mk: ผมไปเจอบทความนี้ของคุณ bow_der_kleine (ชื่อยาวจังวุ้ย) สมาชิกของเราที่ BioLawCom.De เลยเชิญมาเขียนซะเลย

MySQL เป็นฐานข้อมูล OpenSource ที่กำลังมาแรงมากในขณะนี้ ด้วยสถาปัตยกรรมแบบ SQL-Server-Client ที่มีความเร็วและความเสถียรไม่เป็นรองใคร ทำให้ MySQL ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ และกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับบริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์ด้านฐานข้อมูลรายอื่น ๆ ในที่สุด...

MySQL เป็นส่วนหนึ่งของชุดโปรแกรม LAMP (Linux+Apache+MySQL+PHP) ชุดโปรแกรมที่ได้รับความนิยม และการยอมรับอย่างสูงในหมู่ผู้ให้บริการเว็บเซิร์ฟเวอร์ (เว็บเซิร์ฟเวอร์ของเว็บ BioLawCom.De เองก็ใช้ LAMP ในการให้บริการกับลูกค้าเช่นกัน) จนเกือบจะกลายเป็นชุดโปรแกรมมาตรฐานสำหรับเว็บเซิร์ฟเวอร์ในขณะนี้ เหตุผลคือ ความเร็ว ความเสถียร ความปลอดภัย และความแข็งแกร่ง ที่มีอยู่อย่างครบครันในหนึ่งชุดโปรแกรม โดยที่เจ้าของเว็บเซิร์ฟเวอร์ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ในการใช้งานชุดโปรแกรม เพราะโปรแกรมทั้ง 4 ใน LAMP ล้วนแต่เป็น OpenSource ทั้งสิ้น

นอกจากในตลาดขนาดยักษ์อย่างตลาดผู้ให้บริการเว็บเซิร์ฟเวอร์ ที่แทบไม่มีที่ว่างให้โปรแกรมฐานข้อมูลอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ OpenSource แล้ว (ยกเว้นเว็บเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ระดับ Hi-End หรือ เว็บเซิร์ฟเวอร์สำหรับ Newbies ทั้งหลาย) ด้วยความเป็นของดีราคาถูกของ MySQL ทำให้โครงการขนาดเล็กและขนาดกลางต่างๆ มากมาย ทั้งเชิงพาณิชย์และเพื่อการกุศล (ทำให้ฟรีไม่คิดเงิน) หันมาสนใจใช้ MySQL ในโครงการกันอย่างกว้างขวาง

ข้อเสียอย่างเห็นได้ชัดข้อเดียวเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ฐานข้อมูลอื่น ๆ ของ MySQL คือขีดความสามารถที่ค่อนข้างจำกัด MySQL สนับสนุนเพียง SQL-891 ที่ค่อนข้างล้าหลัง แต่ MySQL AB กำลังเข็น MySQL 5.0 ออกสู่ตลาดเร็วๆ นี้ โดยจะสนับสนุน SQL:1999 ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่เกือบเต็มสูบ เป็นการเพิ่มดีกรีแรงในการแข่งขันกับผลิตภัณฑ์ฐานข้อมูลอื่นยิ่ง ๆ ขึ้นไป

Oracle บริษัทยักษ์ใหญ่ที่เป็นรองเพียง Microsoft ด้านเงินทุนในวงการซอฟต์แวร์ กำลังโดนตีขนาบทั้งตลาดบนโดย SAP2 และตลาดล่างโดย MySQL จึงพยายามหาทางออกต่าง ๆ ให้กับธุรกิจของตน

โดยก่อนหน้านี้ Oracle พยายามเป็นพันธมิตรกับ Red Hat และ Novell สองผู้นำในวงการ OpenSource ที่กำลังกินส่วนแบ่งตลาดระบบปฏิบัติการมากขึ้นเรื่อย ๆ โดย Oracle ได้ออก Certificate ให้ระบบปฏิการ GNU/Linux ที่อยู่ภายใต้การดูแลและพัฒนาภายใด้บริษัททั้งสอง เพื่อรับรองว่า ผลิตภัณฑ์จาก Oracle สามารถทำงานได้ดีกับผลิตภัณฑ์จากทั้งสองบริษัท ทำให้ Oracle ได้รับคำชมจากโลก OpenSource ค่อนข้างสูง

การสนับสนุน OpenSource ของ Oracle ไม่ได้หยุดแค่เพียงการออก Certificate หลาย ๆ ครั้ง Oracle ได้ออกมาให้ข่าวถือหาง OpenSource อย่างชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น

แต่ดูเหมือนว่าวิธีดังกล่าวจะไม่ค่อยได้ผล นักพัฒนาในโลก OpenSource ยังคงใช้ MySQL และฐานข้อมูล OpenSource อื่น ๆ ในงานของตนต่อไป เหตุเพราะ Oracle เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีราคาสูง อีกทั้งไม่ได้เป็น OpenSource

image เหล่าพันธมิตรของ MySQL

แม้ว่าฐานข้อมูลของ Oracle จะได้ชื่อว่าเป็นฐานข้อมูลที่ดีที่สุดในขณะนี้ ความเร็ว ความเสถียร ความสามารถ และบริการหลังการขาย ดีพร้อม สุดยอด ครบครัน MySQL สามารถเทียบชั้นกับ Oracle ได้เฉพาะเรื่องความเร็ว ความเสถียร และ ปริมาณข้อมูลที่รองรับเท่านั้น ในเรื่องอื่น ๆ MySQL เป็นรองอย่างเห็นได้ชัด (คงไม่แปลกเพราะ Oracle มีประสปการณ์ที่สูงกว่า MySQL AB มากๆ) แต่ก็มีคนจำนวนมากที่ไม่ต้องการเสียเงินจำนวนมาก เพื่อแลกกับความสามารถที่ตนเองไม่ได้ใช้ หรือสามารถเขียนโปรแกรมขึ้นเองเพื่อทดแทนได้ อย่างไรเสีย หน้าที่หลักของฐานข้อมูลคือการเก็บข้อมูล หากตัวฐานข้อมูลเก็บรักษาข้อมูลได้ดี เรื่องอื่น ๆ ก็เป็นเพียงปัจจัยรองที่ค่อยนำมาพิจรณาภายหลัง

Oracle เองก็ทราบปัญหาเรื่องราคาผลิตภัณฑ์ของตน จึงออกมาตรการต่อมาเพื่อให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่ยอมรับมากขึ้น โดยการแจกฐานข้อมูลให้ใช้กันฟรี ๆ แต่ทั้งนี้ฐานข้อมูลที่ Oracle แจกเป็นฐานข้อมูลที่มีข้อจำกัด สามารถใช้ได้กับงานที่มีปริมาณข้อมูลไม่เกิน 4 GB ในขณะที่ MySQL รองรับข้อมูลได้ในระดับหลายเทระไบต์ (1024 GB) และใช้งานได้กับระบบคลัสเตอร์ แผนการแจกฟรีของ Oracle จึงไม่ค่อยได้ผลเท่าที่ควร

ดังนั้น Oracle จึงงัดเอายุทธวิธีที่เคยใช้กับ PeopleSoft อดีตคู่แข่งด้านซอฟต์แวร์ CRM (Customer Relationship Management) ขึ้นมาใช้กับ MySQL นั่นคือ "ฆ่าไม่ตายก็ซื้อมาเป็นของเรา" (ยืมคำมาจากคุณ lew ครับ) โดยในขั้นแรก Oracle ได้ซื้อ InnoBase ผู้สร้าง InnoDB รูปแบบการเก็บข้อมูลที่มีความสามารถสูงที่ใช้ร่วมกับ MySQL จากนั้นก็ซื้อ SleepyCat ผู้สร้างตัวจัดเก็บฐานข้อมูลอีกตัวในชื่อ BerkleyDB จึงทำให็ MySQL เหลือเพียง MyISAM ในการเก็บข้อมูล และสุดท้ายก็ติดต่อขอซื้อ MySQL AB แต่ไม่สำเร็จ

อย่างไรก็ตามคาดว่า MySQL AB คงไม่สามารถต้านกระแสทุนจาก Oracle ได้นาน เพราะปริมาณทุนของ Oracle มากกว่า MySQL AB มากมายมหาศาล คำถามก็เหลือเพียงแค่ว่า เมื่อไร?

สิ่งที่น่าสนใจต่อมาก็คือหาก Oracle ซื้อ MySQL ได้แล้วทาง Oracle จะทำอะไรกับ MySQL มีความเป็นไปได้สามอย่างคือ

image
  1. ซื้อแล้วให้ชุมชน OpenSource พัฒนาต่อโดยอยู่ภายใต้การดูแลของ Oracle แล้วแบ่ง MySQL เป็นสองเวอร์ชั่นคือ เวอร์ชั่นแจกฟรี และเวอร์ชั่นขาย เช่นเดียวกับที่ Sun Microsystems ได้บริจาค OpenOffice.org ให้ชุมชน จากนั้น Sun Microsystem ก็นำพัฒนาการที่ได้ไปใส่ลงใน StarOffice แล้ววางขาย วิธีนี้ผมมองว่าจะส่งผลดีกับ Oracle มากที่สุด เพราะ Oracle จะได้รับความไว้วางใจจาก OpenSource มากขึ้น โดยที่ตัวเองไม่เสียอะไรเลย เพราะอย่างไรเสียตลาดที่ซื้อฐานข้อมูลใช้ กับกลุ่มที่ใช้ของฟรี ก็เป็นคนละส่วนกัน นอกจากนี้ Oracle ยังสามารถดึงลูกค้าบางส่วนมาจาก SAP ซึ่งเป็นคู่แข่งที่สำคัญที่สุดสำหรับ Oracle ในขณะนี้ได้ไม่น้อย เนื่องเพราะยุทธวิธีหนึ่งของ SAP ในขณะนี้คือ การเป็นพันธมิตรกับ MySQL หาก Oracle ดึง MySQL มาเป็นพันธมิตรได้ ตลาดในส่วนนี้ก็อาจตกเป็นของ Oracle ได้เช่นกัน
  2. ซื้อแล้วพัฒนาเองแล้วขายควบคู่กับฐานข้อมูลเดิมของ Oracle วิธีนี้มีความเป็นไปได้ต่ำมาก เพราะ Oracle แทบไม่ได้อะไรเลยจากวิธีนี้ เทคโนโลยีของ Oracle เองก็สูงกว่า ส่วนแบ่งตลาดที่ได้จากวิธีนี้ก็จะไม่เพิ่มขึ้นเท่าใดนัก อย่าลืมครับว่าที่ MySQL มีส่วนแบ่งในตลาดมากมายในขณะนี้ สาเหตุหลักมาจากความเป็น OpenSource ของ MySQL
  3. ซื้อแล้วดอง วิธีนี้ก็มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง เพราะการทำเช่นนี้จะเป็นการกำจัดคู่แข่งทางธุรกิจได้อย่างเฉียบขาด แต่ผลที่ได้อาจไม่ดีนักสำหรับ Oracle เพราะเป็นการสร้างศัตรูให้กับตนเอง ซึ่งศัตรูที่ว่าคือกลุ่ม OpenSource ที่มีขนาดใหญ่ และมีอิทธิพลต่อโลกไอทีมากขึ้นทุกขณะ ซึ่ง Oracle เองก็เห็นความสำคัญของคนกลุ่มนี้มาตลอด ดังนั้นหาก Oracle จะใช้วิธีนี้คงต้องคิดหนักทีเดียว

แต่ขณะนี้ Oracle ยังซื้อ MySQL มาเป็นของตัวเองไม่สำเร็จ ท่าทีต่าง ๆ ของ Oracle เลยยังออกมาไม่ชัดเจนมากนัก ดังนั้นต้องติดตามเรื่องนี้กันต่อไปครับ

การคิดซื้อ MySQL ของ Oracle ครั้งนี้เป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีว่า OpenSource ไม่ใช่ของเล่น ไม่ใช่สิ่งที่คนให้ความสนใจกันชั่วครั้งชั่วคราว แต่เป็นแนวคิดใหม่ที่จะพลิกโลกไอที ไม่ว่าจะเป็น Microsoft, Oracle, IBM, Apple หรือ Sun Microsystems ต่างก็ได้รับผลกระทบทั้งดีและไม่ดีจาก OpenSource ด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้นสำหรับผมแล้ว คนที่คิดว่า OpenSource เป็นเพียงไม้ประดับนอกสายตา เอามาทำอะไรจริงจังไม่ได้ น่าจะถึงเวลาเปลี่ยนความคิดได้แล้วครับ....

1 สำหรับมาตรฐานเวอร์ชันคำสั่ง SQL อ่านได้จาก Wikipedia 2 SAP ไม่ได้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ฐานข้อมูลโดยตรง แต่จำหน่ายและพัฒนาชุดโปรแกรมด้านการจัดการบริการข้อมูลในธุรกิจต่าง ๆ สำหรับบริษัทขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ฐานข้อมูลต่าง ๆ ได้มากมาย แต่ SAP เน้นการใช้งาน MaxDB ซึ่งเดิมเป็นของ SAP เองแต่ปัจจุบันได้ขายให้กับ MySQL AB ไปพัฒนาต่อ

Get latest news from Blognone

Comments

By: sid
Writer
on 20 February 2006 - 02:48 #3931

ว้าว บทความคุณภาพ ขอบคุณครับ

By: pt on 20 February 2006 - 10:38 #3940

คือผมยังงงอยู่นิดนึง
opensource นี่มันซี้อมา close ได้ด้วยเหรอครับ ? หรือถ้าใครจะพัฒนาต่อก็ต้องเอา code MySQL ก่อนที่จะขายไป เอาไปพัฒนาต่อในชื่ออื่นเอาเอง ?

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 20 February 2006 - 11:15 #3941
lew's picture

pt - ตามที่ผมเข้าใจนะครับ คือถ้าเขียนเองทั้งหมด ก็มีสิทธิ์กลับไป Close ได้ครับ แต่โค้ดเดิมที่เคยเปิดไว้ก็สามารถนำไปใช้ต่อได้ตลอดไป

ตรงนี้เช่้นว่า MySQL จะแปลงร่างเป็น Close Source ก็อาจจะมีกลุ่มนักพัฒนาสร้าง YourSQL โดยใช้โค้ดเดิมมาพัฒนาต่อไปได้ครับ


lewcpe.com, @wasonliw

By: amyggie on 20 February 2006 - 20:38 #3951

ฮ่า ฮ่า.. คิดได้ไง YourSQL
อย่าลืมรีบไปจดลิขสิทธิ์นะครับ คุณ lew

By: plynoi
WriterAndroidUbuntu
on 20 February 2006 - 21:16 #3952

เรื่องจะ close source ได้รึเปล่าก็ต้องดูว่า มีไปเรียกใช้พวก opensource ตัวอื่นที่ไม่ได้เขียนเอง หรือเรียกอะไรที่เป็น gpl ด้วยรึเปล่า ถ้าไม่มี ก็น่าจะได้นะครับ

ส่วนถ้าซื้อแล้วจะทำอะไรต่อ ผมหวังให้เป็นข้อ 1 นะ เพราะน่าจะได้มากกว่าเสียทั้งคู่

By: bow_der_kleine
WriterAndroidUbuntu
on 20 February 2006 - 23:34 #3959
bow_der_kleine's picture

แต่หากใช้ api ที่เป็น lgpl หรือ bsd เท่าที่ผมรู้ เจ้าของสามารถทำเป็น close source ได้ครับ

By: mk
FounderAndroid
on 21 February 2006 - 07:01 #3964
mk's picture

มีหลายตัวนะครับที่ทำแบบนี้

ที่ดังๆ หน่อยก็ BitKeeper ซึ่งเป็น version control ที่ไลนัสเอามาใช้กับ Linux kernel จนเป็นเรื่องเป็นราวอยู่พักนึง ก็เคยมีเวอร์ชันโอเพนซอร์ส

อีกอันนึงก็ OpenDivX ที่ตอนหลัง DivX Network ปล่อยเกาะ มันเลยกลายมาเป็น XviD ไงครับ

By: wiennat
Writer
on 21 February 2006 - 08:16 #3965

เอ่อ ผมก็ไม่รู้นะว่าเขียนไว้นานหรือยัง (แต่คิดว่าไม่นาน) เลยอยากจะช่วยให้ข้อมูลเพิ่มครับว่า MySQL 5.0 ออกมาแล้วนี่ครับ ไม่ใช่กำลังจะออก


onedd.net

By: yimp on 8 April 2006 - 20:34 #5447

เท่าที่ดูแล้ว ถ้าเกิดมีปัญหาขึ้นมาจริงๆ ผมคงต้องเผ่นไปใช้ PostgreSQL แน่นอน ดูเหมือนว่าจะดีกว่า mySQL ด้วยนี่นา เรื่อง function ในการทำงาน

Yimp::Webmaster Resources
http://yimp.6te.net

By: pawoot.com
WriterAndroid
on 25 November 2006 - 20:34 #13561
pawoot.com's picture

บทความดีมากๆ เลยครับ เชียร์ให้ MYSQL อย่างขายให้ Oracle เล้ยยยย


Pawoot.com