Tags:
Node Thumbnail

Michele Bullock ผู้ช่วยผู้ว่า Reserve Bank of Australia (RBA - ธนาคารกลางออสเตรเลีย) ขึ้นพูดในงาน Central Bank Payments Conference ที่เบอร์ลินเมื่อวานนี้ โดยพูดถึงความเปลี่ยนแปลงในช่วงหลัง โดยมีประเด็นสำคัญคือความทนทานของระบบชำระในออสเตรเลียที่มีปัญหาขึ้นมาก

อัตราการล่มโดยรวมในปี 2018 ของออสเตรเลียสูงถึง 1,838 ชั่วโมง เทียบกับปี 2017 ที่ล่มรวมเพียง 824 ชั่วโมง โดยจำนวนครั้งที่ล่มเพิ่มขึ้นเป็น 295 ครั้ง จาก 210 ครั้ง และแต่ละครั้งล่มนานเฉลี่ย 6.2 ชั่วโมง จาก 3.9 ชั่วโมง

ทาง RBA กำหนดให้สถาบันทางการเงินต้องแจ้งทาง RBA เมื่อเกิดเหตุการณ์ล่มเกินกำหนดมาตั้งแต่ปี 2013 แต่ทาง RBA ไม่เปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ต่อสาธารณะ แต่ใช้สำหรับการตรวจสอบเสถียรภาพของระบบเท่านั้น และการเปิดเผยข้อมูลโดยรวมครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งแรกๆ

แม้จะไม่มีข้อมูลรายธนาคาร แต่ Bullock ก็ระบุว่าปัญหาเกิดขึ้นคล้ายๆ กันทั้งวงการ และเหตุการณ์ล่มเหล่านี้ ครึ่งหนึ่งเป็นการปัญหาระบบธนาคารออนไลน์และธนาคารผ่านโทรศัพท์มือถือ ส่วนปัญหาของระบบบัตรเครดิต/เดบิต มีส่วนประมาณ 10%

Bullock ระบุว่าทาง RBA กำลังดูว่าจะทำอะไรเพื่อสนับสนุนให้ธนาคารปรับปรุงระบบให้ดีขึ้น โดยมาตรการแรก คือการร่วมกับ Australian Prudential Regulation Authority วางมาตรฐานการรายงานสถิติระบบมีปัญหาและรายงานแยกรายธนาคารสู่สาธารณะตามที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ และจะทำความเข้าใจว่าปัญหาของระบบไอทีในธนาคารคืออะไรและธนาคารจัดการปัญหาอย่างไรกันบ้าง

ที่มา - Reserve Bank of Australia, iTNews

No Description

Get latest news from Blognone

Comments

By: SpeedEX
AndroidWindowsIn Love
on 26 June 2019 - 17:05 #1117197

"อัตราการล่มโดยรวมในปี 2018 ของออสเตรเลียสูงถึง 1,838 ชั่วโมง "

ผมเข้าใจว่าในบริบทนี้ควรใช้คำว่า "เวลาล่มโดยรวม" ตามต้นทางนะครับ (หรือคำอื่นๆที่เหมาะสม) เพราะจำนวน 1838 เป็นจำนวนชั่วโมงที่ล่มรวมทั้งปี ไม่ใช่ อัตราส่วน/สัดส่วน ของชั่วโมงการล่มต่ออะไรสักอย่างครับ

By: zda98
Windows Phone
on 26 June 2019 - 20:09 #1117231

ประจานในไทยก็น่าจะดีนะครับ ธนาคารไหนล้มเยอะสุดจะได้เป็นข้อมูลตัดสินใจใช้บริการ