Tags:
Node Thumbnail

ระบบฐานข้อมูลเป็นหัวใจของธุรกิจแทบทุกประเภท ประสิทธิภาพของระบบฐานข้อมูลมักสะท้อนเป็นประสิทธิภาพในการตอบสนองลูกค้าและความสามารถในการทำกำไรในที่สุด หากระบบฐานข้อมูลมีปัญหาก็จะสร้างผลกระทบเป็นลูกโซ่ออกไปถึงผลประกอบการได้เช่นเดียวกัน

องค์กรจำนวนมากเลือกที่จะวางระบบฐานข้อมูลด้วยตัวเอง โดยแยกส่วนต่างๆ ออกจากกันทั้งเซิร์ฟเวอร์, ระบบปฎิบัติการ, เน็ตเวิร์ค, และสตอเรจ แต่ละส่วนอาจดูแลโดยทีมวิศวกรคนละทีมสร้างความซับซ้อนในการวางระบบ, เพิ่มระยะเวลาติดตั้ง, และเมื่อเกิดปัญหาก็ลำบากในการแก้ไข

Oracle Database Appliance หรือ ODA หลอมรวมความซับซ้อนทั้งหมดเข้ามาเป็นระบบเดียวกัน ทดสอบและปรับแต่งให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับซอฟต์แวร์ Oracle Database ทั้งรุ่น Standard และรุ่น Enterprise

No Description

นอกจากนี้ ODA ยังสร้างความได้เปรียบให้กับผู้ใช้งานหลายด้าน เช่น

  • ค่าไลเซนส์ซอฟต์แวร์เริ่มต้นเพียง 1 ใน 10 ODA เปิดให้ผู้ใช้สามารถเปิดใช้ไลเซนส์เริ่มต้นเพียง 1 ใน 10 ของจำนวนคอร์ แล้วปรับเพิ่มได้ตามการใช้งานจริงภายหลัง
  • ลดระยะเวลาเริ่มใช้งาน จากเดิมที่ลูกค้าต้องใช้เวลาติดตั้งแต่ระบบส่วนแยกจากกัน เพียงติดตั้งเข้าตู้แร็คต่อสายไฟและเน็ตเวิร์ค หลังจากนั้น ODA ใช้เพียงผู้ดูแลระบบฐานข้อมูลคนเดียวเซ็ตอัพ ODA ผ่านหน้าจอ wizard ของ Oracle Appliance Manager ทั้งหมดใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็พร้อมใช้งาน
  • ลดเวลาซ่อมบำรุง การอัพเดตแพตช์แยกส่วนทั้งเฟิร์มแวร์ของชิ้นส่วนต่างๆ, ระบบปฎิบัติการ, และระบบฐานข้อมูลอาจทำให้ต้องมีการซ่อมบำรุงถึงปีละ 16 ครั้งขึ้นไป แต่ออราเคิลดูแลการซ่อมบำรุงทั้งหมด จัดรอบการอัพเดตให้คาดเดาได้ รวมแพตช์ทุกส่วนเข้ามาเป็นชุดเหลือปีละ 4 รอบเท่านั้น รวมระยะเวลาซ่อมบำรุงในช่วง 3 ปีอยู่ที่ 36 ชั่วโมงเท่านั้น เทียบกับระบบระบบที่ติดตั้งแยกส่วนกันอาจใช้เวลารวมถึง 863 ชั่วโมง แม้แต่ฮาร์ดแวร์ก็มีระบบตรวจสอบความผิดพลาดฮาร์ดแวร์และสามารถแจ้งกลับไปยังออราเคิลเมื่อฮาร์ดแวร์ต้องการการซ่อมบำรุง
  • ทำงานร่วมคลาวด์ได้ง่ายกว่าเดิม Oracle Cloud มีบริการที่เท่าเทียมกับ ODA ทำให้องค์กรสามารถเลือกแนวทางการทำงานร่วมกับคลาวด์ได้หลายรูปแบบ ทั้งการเก็บข้อมูลระยะยาวไว้ในคลาวด์, การโคลนฐานข้อมูลสำรอง และการกู้ฐานข้อมูลขึ้นมาใช้งาน

ใช้งานได้ทั้งระบบขนาดเล็กและใหญ่

Oracle Database Appliance มีให้เลือกถึง 3 ขนาด ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ได้แก่

No Description

  • Oracle Database Appliance X7-2S ขนาดเริ่มต้นที่ 10 คอร์ สตอเรจ 12.8 เทราไบต์ ทำงานแบบ single instance
  • Oracle Database Appliance X7-2M ขนาดกลางที่ 36 คอร์ สตอเรจ 51.2 เทราไบต์ ทำงานแบบ single instance
  • Oracle Database Appliance X7-2-HA สำหรับงานขนาดใหญ่ต้องการความน่าเชื่อถือสูง ซีพียู 72 คอร์ สตอเรจเลือกได้ระหว่าง SSD 128 เทราไบต์และ HDD ขนาด 300 เทราไบต์ ทำงานได้ทั้ง single instance และเป็นคลัสเตอร์

Oracle Database Appliance เปิดทางให้องค์กรลดต้นทุนการโอเปอร์เรตระบบฐานข้อมูลได้อย่างน้อย 30% (อ่านรายงานการศึกษาโดย Wikibon) เทียบกับการซื้อชิ้นส่วนแยกด้วยตัวเอง ลดการใช้บุคคลากรในการดูแล ขณะที่ยังเปิดทางให้องค์กรสามารถเก็บข้อมูลไว้ในศูนย์ข้อมูลของตัวเองได้ สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมของ ODA สามารถติดต่อได้ที่ Mongkol Supatanarat หมายเลขโทรศัพท์ 090-651-0264 และ LINE ตาม QR ท้ายบทความ

No Description

Get latest news from Blognone

Comments

By: rocha on 26 April 2019 - 13:00 #1107455

ยังมีใครใช้กันอยู่บ้างมั้ย Oracle Database

By: IDCET
Contributor
on 26 April 2019 - 18:17 #1107514 Reply to:1107455

ผมว่าเยอะนะที่ใช้ โดยเฉพาะองค์กรใหญ่ เพราะราคามันแพงกว่ายี่ห้ออื่น


ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว

By: jgods
AndroidUbuntuWindows
on 27 April 2019 - 12:24 #1107570

องค์กรของรัฐก็ยังใช้อยู่ครับ ถึงแม่จะเริ่มมี vendor ใหม่มาเปลี่ยนเป็น MS SQL แต่ระบบส่วนใหญ่ยังเป็น Oracle ครับ