Mark Warner สมาชิกวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต และ Deb Fischer จากพรรครีพับลิกัน เสนอร่างกฎหมายห้ามโซเชียลมีเดียรวมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ ใช้วิธีการซับซ้อนและเล่ห์กลต่างๆ เพื่อผลักให้ผู้ใช้งานล้มเลิกการปกป้องข้อมูลส่วนตัวของตัวเอง จนต้องกดปุ่ม OK เผยช่องทางให้บริษัทเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ของผุ้ใช้งานได้
โดยวิธีการดังกล่าวเรียกว่า dark pattern ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไขยาวเหยียดที่ทำให้ผู้ใช้ต้องยอมแพ้เวลาอ่าน หรือการใช้กลยุทธ์อะไรก็ตามที่ทำให้ผู้ใช้ต้องกดลงทะเบียน หรือกดยินยอม โดยไม่ได้ตั้งใจ หรือการโชว์การแจ้งเตือนโซเชียลมีเดียแม้ว่าจะออกจากระบบมาแล้ว เป็นต้น ซึ่ง dark pattern มีหลายรูปแบบสามารถหาอ่านได้ ที่นี่
ถ้าเป็นกฎหมายจริง ไม่เพียงโซเชียลมีเดียจะได้รับผลกระทบแต่ยังรวมถึงเว็บไซต์ เกมออนไลน์ แอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่ให้ใช้ฟรีมีโฆษณา เว้นเสียแต่ว่า แพลตฟอร์มเหล่านี้จะมีช่องทางที่ให้ผู้ใช้แสดงความยินยอมอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร และชัดเขนเพียงพอ ส่งผลให้โซเชียลมีเดียต้องสร้างแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดเพื่อจัดการปัญหาไม่เพียงเรื่องการขอความยินยอม แต่ยังรวมถึงเกมต่างๆ ด้วย
ภาพจาก Shutterstock
Warner กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า กฎหมายที่เสนอใหม่นี้จะรวมอยู่ในกฎหมายความเป็นส่วนตัว ที่ Senate Commerce Committee กำลังร่างอยู่ และทางสภาคองเกรสก็คาดว่ากฎหมายจะมีผลบังคับใช้ในปีหน้า เขายังบอกด้วยว่า Mark Zuckerberg รวมถึงผู้บริหารใน Google และแพลตฟอร์มอื่นได้แสดงการสนับสนุนกฎหมายเพื่อความเป็นส่วนตัวนี้
ด้าน Fincher บอกว่า นโยบายความเป็นส่วนตัว ที่ถือเรื่องการได้รับความยินยอมเป็นสิ่งสำคัญนั้น กำลังอ่อนแอลงเพราะรูปแบบ dark pattern ที่ทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดและจะนำไปสู่การทำลายทางเลือกของผู้บริโภค
ที่มา - Reuters, TechCrunch
Comments
แล้วถ้าจะสมัครต้องยอมรับอันนี้รวมด้วยมั้ย หรือเหมือนเดิม
จริง
ถ้า ไม่ยอมให้ข้อมูลก็ไม่ให้ใช้ ไม่ถือว่าผิด
ทุกอย่างก็เหมือนเดิม
"และชัดเขนเพียงพอ" -> "และชัดเจนเพียงพอ"
พูดถึง Dark Pattern... สมัยนี้ ATM ไทยยังมีอยู่ไหมครับ ที่บางทีหน้าสมัครบริการมันสลับปุ่มตกลงไปซ้ายบ้างขวาบ้างบนบ้างล่างบ้าง
ธ.กรุงเทพ ที่เคยสลับปุ่มสมัครพร้อมเพย์ ตอนนี้แก้แล้วครับ