สามสัปดาห์หลังปล่อยทีเซอร์ Olympus ก็ได้เปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ตามที่ระบุไว้อย่างเป็นทางการแล้วในชื่อรุ่นว่า OM-D E-M1X จับตลาดช่างภาพกีฬาที่เน้นการใช้งานด้านความเร็วเป็นหลัก วางตำแหน่งทางการตลาดเป็นกล้องระดับโปรใกล้เคียงกับ OM-D E-M1 Mark II

สเปคของกล้อง E-M1X ก็เป็นไปตามข่าวลือที่ออกมาก่อนหน้า คือตัวกล้องใช้เซนเซอร์ Micro Four Thirds CMOS 20 ล้านพิกเซล พร้อมหน่วยประมวลผลภาพ TruePic VIII สองตัว, ถ่ายภาพรัวได้สูงสุด 18 ภาพต่อวินาทีในโหมด AE/AF แบบต่อเนื่อง หรือ 60 ภาพต่อวินาทีเมื่อล็อก AE/AF, เซนเซอร์ gyro ใหม่ พร้อมระบบกันสั่น 5 แกน ช่วยให้การถ่ายภาพนิ่งขึ้น โดยเฉพาะกันสั่นกล้องอย่างเดียวสามารถกันสั่นได้สูงสุดถึง 7 สต็อป และถ้าใช้พร้อมเลนส์ M.Zuiko Digital ED 12-100 F4.0 IS PRO สามารถกันสั่นได้สูงสุดถึง 7.5 สต็อป และสามารถวิดีโอ 4K ได้เนียนโดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์กันสั่น

ระบบโฟกัสเป็นบนชิพเป็นแบบ cross-type phase-detection AF ทั้งหมด 121 จุดที่อยู่บนระบบ contrast-detection อีกทีหนึ่ง เหมือนกับ E-M1 Mark II สามารถทำงานได้ที่มืดระดับ -6EV (เมื่อติดเลนส์ F1.2) ซึ่งจุดโฟกัสควบคุมได้ผ่านจอสัมผัสหรือจอยสติ๊ก 8 ทิศทาง

ในด้านการแสดงผล E-M1X ใช้ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้จอกำลังขยาย 0.83 เท่า เทียบเท่ากล้องฟิล์ม 35 มิลลิเมตร เฟรมเรตแบบ progressive scan ที่ 120 fps มี latency ต่ำเพียง 0.005 วินาที ส่วนจอหลังเป็นจอสัมผัสขนาด 3 นิ้ว

ส่วนบอดี้ของกล้อง Olympus ใช้แมกนีเซียมอัลลอย ทนทานต่อน้ำสาด, ฝุ่น และความเย็น ทำงานได้ที่อุณหภูมิต่ำสุด -10 องศาเซลเซียส ส่วนแบตเตอรี่ใช้ลิเทียมไอออน BLH-1 เหมือนกับ E-M1 Mark II ถ่ายได้ 870 ภาพต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และสามารถเปลี่ยนได้แม้ตัวกล้องจะต่อกับขาตั้งกล้องอยู่, มีพอร์ต USB-C ที่รับพลังงานได้สูงสุดถึง 100W จากแหล่งจ่ายไฟ USB-C มาตรฐาน จึงสามารถชาร์จแบตได้ในตัวกล้อง

ฟีเจอร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจของกล้อง Olympus OM-D E-M1X

• โค้ตติ้งแบบใหม่บน Super Sonic Wave Filter สามารถทำความสะอาดฝุ่นบนเซนเซอร์ได้มากกว่า Olympus เดิมถึง 10%
• Pro Capture Mode ถ่ายภาพ 35 ภาพย้อนหลังจากจุดที่กดชัตเตอร์
• High Res Shot Mode ถ่ายภาพได้สูงสุด 80 ล้านพิกเซลด้วยการขยับเซนเซอร์โดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง
• Live ND ระบบฟิลเตอร์ ND (Neural Density) ในตัวกล้องเพื่อการถ่ายภาพความเร็วชัตเตอร์ต่ำโดยไม่ต้องใช้ฟิลเตอร์ ND เพิ่มเติม รองรับสูงสุดถึง ND32 (5 สต็อป)
• Intelligent Subject Detection AF ใช้เทคโนโลยี Deep Learning เพื่อพัฒนาอัลกอริทึมให้สามารถจับวัตถุได้หลากหลายประเภท เช่น motorsport, เครื่องบิน, รถไฟ ซึ่งตัวกล้องจะหาโฟกัสในจุดที่เหมาะสม และล็อกโฟกัสที่ตัววัตถุโดยอัตโนมัติ
• เซนเซอร์ GPS, วัตอุณหภูมิ, ความดัน, เข็มทิศ รวมกันเรียกว่า field sensor ที่ใส่ข้อมูลทุกอย่างเข้าไปในภาพ ไม่ใช่เฉพาะตำแหน่งที่ถ่าย
• Anti-Flicker โหมดถ่ายภาพป้องกันการกะพริบของแสงไฟ

Olympus จะเริ่มส่งมอบกล้อง OM-D E-M1X ในเดือนหน้า โดยราคาจำหน่ายบอดี้อย่างเดียวอยู่ที่ 2,999.99 ดอลลาร์ หรือราว 95,000 บาท

ที่มา - dpreview