รัฐบาลฝรั่งเศสเตรียมออกกฎหมายเพื่อเก็บภาษีบริษัทไอทีข้ามชาติแล้ว โดยจะมีผลวันที่ 1 มกราคม 2019
ก่อนหน้านี้กลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป (EU) มีแนวคิดจะออกกฎหมายระดับภูมิภาคที่ครอบคลุมสมาชิกทั้ง 28 ประเทศ แต่ยังไม่สามารถหาข้อตกลงกันได้ ทำให้กฎหมายล่าช้าออกไป ทางรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ Bruno Le Maire จึงตัดสินใจเดินหน้าเองเพียงลำพังประเทศเดียว
Le Maire ให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ ระบุว่าบริษัทอินเทอร์เน็ตได้เงินจากคนฝรั่งเศสไปมาก แต่กลับจ่ายภาษีน้อยกว่าบริษัทฝรั่งเศสถึง 14 จุด (percentage point) โดยบริษัททั่วไปจ่ายภาษีประมาณ 23% ของรายได้ แต่บริษัทอินเทอร์เน็ตจ่ายเพียง 8-9% หรือบางบริษัทไม่จ่ายเลยด้วยซ้ำ
Le Maire คาดว่ากฎหมายฉบับใหม่จะทำให้ฝรั่งเศสเก็บภาษีเพิ่มได้อีก 500 ล้านยูโร (ประมาณ 1.86 หมื่นล้านบาท) แต่ยังไม่มีรายละเอียดออกมาว่าจะเก็บภาษีอย่างไร อัตราภาษีเป็นเท่าไร
สหราชอาณาจักรเป็นอีกประเทศที่สนใจเก็บภาษีโฆษณาออนไลน์ โดยจะคิดที่อัตรา 2% ของรายได้จากโฆษณาที่มุ่งเป้าไปยังคนในประเทศ แต่คาดว่ากฎหมายจะมีผลใช้ได้จริงในปี 2020 ส่วนเยอรมนีและสเปนก็มีแนวคิดที่จะเก็บภาษีลักษณะนี้เช่นกัน
กลุ่มประเทศใน EU ที่คัดค้านภาษีลักษณะนี้ได้แก่ ไอร์แลนด์ สวีเดน ฟินแลนด์ และสาธารณรัฐเช็ก
ภาพจาก European Parliament
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
GAFA Tax
@TonsTweetings
ประเทศไทยนี่เห็นมีความพยายามจะเก็บภาษีจาก Facebook , LINE ให้ได้มากขึ้น ไม่รู้ว่าความคืบหน้าเป็นยังไงบ้าง
เห็นด้วยนะที่จะเก็บภาษีบริษัทต่างชาติที่ให้บริการในประเทศอื่นเนี่ย รัฐฯจะได้รายได้เข้าประเทศบ้าง ไม่ใช่ให้ใครไม่รู้ดูดเงินออกอย่างเดียว
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
เห็นด้วยแต่ต้องมาคิดว่าจะเก็บยังไง
หาเงินแข่งไม่ได้ก็เก็บภาษีแทนแล้วกัน ทศวรรษนี้ฝั่งยุโรปพ่ายแพ้อเมริกาอย่างหมดรูปในตลาด consumer ไม่ว่าจะเป็น Google, Facebook, Netflix, YouTube, iOS, Android, OSX, Windows แล้วก็ไม่รู้สถานการณ์ด้าน e-commerce ว่าเป็นอย่างไร ไม่รู้ว่าโดนจีนกับ Amazon ตีกระหน่ำจนแตกพ่ายไปหรือยัง
ส่วนตัวผมคิดว่าการเก็บภาษี online พวกนี้เป็นอะไรที่ยากและซับซ้อนมาก สมมติว่า YouTube มีโฆษณาจาก agency "ต่างประเทศ" ไปวางโฆษณาบน video ที่ content มาจากอีกประเทศ แล้วมีคนไทยไปดู video นี้ YouTube ได้เงินจากโฆษณา agency เพราะมีคนมาดู agency ต่างประเทศจ่ายเงินให้ YouTube เป็นผู้รับเงินได้ แล้วจะต้องเสียภาษีให้ประเทศไทย ?
ผมเองก็ยังนึกไม่ออกว่าจะเก็บเงินอย่างไร สมเหตุสมผลไหม เพราะในเมื่อคนไทยก็ได้เสพ content ฟรีเป็นการแลกเปลี่ยนไปแล้ว เงินได้รายรับรายจ่ายทางบัญชีก็เกิดจากประเทศอื่น มันไม่เหมือนทีวีที่รับเงินจากเจ้าของโฆษณาภายในประเทศชัดเจน
That is the way things are.
ผมคิดว่า ถ้าคิดจะเก็บ ยังไงก็สามารถเก็บได้ครับ
ไม่มีอะไรที่ยากเกินกว่าระบบบัญชี การแจกแจงงบและที่มา จะทำได้
ถ้า "ต้อง" ทำ / ถ้า "การไม่ทำ" จะทำให้สูญเสียกำไรที่ควรได้มากกว่าการ "ทำ"
เริ่มง่ายจากแค่นโยบายในการ placement โฆษณา (เลือกแสดง)
มันจะ no more worldwide ad placement แค่นั้นเอง
ถ้าจะลงโฆษณาต้องลงกับ partner/subsidiary ที่อยู่ในประเทศนั้นๆ
และต้องมีเอกสารการเงินประกอบ เวลาคิดเงินกับพาร์ทเนอร์ก็แยกย่อยตามประเทศไป
เพิ่มระดับการจ่ายการโชว์อีกหนึ่งขั้น (และอ้างต่อว่า targetting ดีขึ้น, analyzing ดีขึ้น)
ไม่น่าจะมีพ่อค้ารายไหนบอกว่า เห้ยต้องเสียภาษีแล้ว ไม่เก็บดีกว่า
แต่โดยภาพรวม ค่าโฆษณาของ agency ก็จะแพงขึ้นและซับซ้อนขึ้น แค่นั้นเอง
จริงครับ คนเก่งบัญชีการเงินอาจจะมองว่าเรื่องนี้ไม่ยากเท่าไรอย่างที่คุณว่า
That is the way things are.
ไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้นครับ
ประเด็นคือไม่มีกฎหมายรองรับภาษี online และบทลงโทษมากกว่า
รัฐบาลแต่ละประเทศ เวลาคิดการเก็บภาษีย้อนหลัง ก็คำนวณจากรายได้แต่ละปีนั้นแหละครับ
ตามตัวอย่างคุณ : Youtube อยู่ประเทศ A วาง Content ให้ประเทศ A , B , C , D
มีรายได้ 10 ล้าน จ่ายภาษี 10% ให้ประเทศ A = 1 ล้าน
ถ้าประเทศ B มีกฎหมายจ่ายภาษี 15% ก็คำนวณจากรายได้ 10 ล้านนั่นแหละครับ
Youtube ต้อง/ควรมาชี้แจง แจกแจง และเสียภาษีตามกฎหมายประเทศ B
ถ้าไม่มาเสีย Youtube อาจจะโดนบทลงโทษ/เสีย market share ในประเทศ B
ประเทศที่คัดค้านส่วนใหญ่ เพราะตัวเองมีผลประโยชน์จากบริษัทพวกนี้เยอะครับ
ก็น่าจะยากอยู่ดี รายได้วิ่งอยู่ในประเทศ A ปกติประเทศอื่นก็มาเก็บส่วนแบ่งภาษีตรงนี้ไม่ได้อยู่แล้ว
และถ้าคิดจากรายได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะคำนวนจากประเทศไหนตามตัวอย่าง สมมุติ C D ก็เก็บภาษี 15 % หมายความว่า ต้องเสียภาษีรวม 55% จากรายได้ 10 ล้านเลยหรือเปล่า หรือจะแบ่งสัดส่วนตามยอดคนดูแต่ละประเทศ แล้วบริษัทจะแจงเองหรือแต่ละประเทศจะแชร์ข้อมูล traffic การเข้าถึงเว็บมารวมกันเพื่อแบ่งสัดส่วน
ส่วนการเสีย market share ในประเทศของโลกออนไลน์ ถ้าไม่บล๊อคเลยแบบจีนก็น่าจะทำได้ยากอยู่ดี
ดังนั้น วิธีจะเก็บภาษีก็คงไม่ง่ายหรอกครับ ถ้าเรียกเก็บภาษีกันตรงๆ ไม่สนใจปัจจัยอื่นๆ ก็คงมีข้อโต้แย้งหลายๆ อย่างตามมาแน่นอน หรือมีวิธีง่ายกว่านี้ครับ
เอาแค่ รับรองกฎหมายภาษี online ให้ได้ก่อนครับ
ส่วนวิธีจะเก็บภาษีก็เรียกกันตรงๆนั่นแหละครับ โดยอ้างอิงกฎหมายฉบับนี้ (ซึ่งปัจจุบันยังไม่รับรองกฎหมาย ทำให้รัฐเรียกเก็บไม่ได้)
ใครจะมาตั้งข้อโต้แย้งครับ ถ้าบุคคลนั้นไม่ได้เป็นผู้เสียผลประโยชน์กับกฎหมายฉบับนี้
ประเด็นที่จะพูดคือ การออกกฎหมายฉบับนี้ เพื่อบังคับทางอ้อมให้บริษัท ที่จัดตั้งอยู่ต่างประเทศ ให้มาจัดตั้งในประเทศตัวเอง ให้รัฐไม่เสียผลประโยชน์นั่นแหละครับ
คิดง่ายเกินไปรึเปล่าครับ อนุสัญญาภาษีซ้อนมันก็มีอยู่นะ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ถ้าไม่มีกฎหมายภาษีเรื่องนี้ จะไปจัดเก็บภาษีซ้อนได้หรือครับ
(เข้าใจว่า ถ้าไม่มีกฎหมายรับรอง ไม่น่าจะเก็บภาษีส่วนนี้ได้ด้วยซ้ำ)
ถ้าผมเข้าใจอะไรผิด ชี้แจงได้นะครับ
ถ้าเก็บ 10% สิบประเทศ แล้วคิดจากรายได้รวมนี่ เท่ากับไม่มีรายได้เลยนี่ครับ รวมแล้วรวมภาษีโลก 100%
ผมเชื่อว่าภาษีเหล่านี้ควรจะต้องจัดเก็บนะ อยากจะรอดูว่าประเทศอื่น ๆ เขาจะเริ่มยังไง บ้านเราก็อย่าให้ช้าล่ะ